บริษัทอีริคสัน (Ericsson) ยักษ์ใหญ่ในวงการเทเลคอมกำลังดำเนินโครงการทดสอบเทคโนโลยี Bluetooth ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการชำระเงินแบบไร้สายในช่วงเดือนพฤษภาคม- มิถุนายน พ.ศ. 2544 นี้โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการทดสอบจำนวน 100 รายซึ่งเป็นลูกค้าที่ชำระเงินผ่านระบบ Eurocard กล่าวคือ ลูกค้าจะชำระเงินโดยผ่านโทรศัพท์มือถือ รุ่น R 520m ซึ่งได้ติดตั้งชิพของเทคโนโลยี Bluetooth ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทดสอบครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้ระบบการชำระเงินระหว่างประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบัน( Eurocard) กับเทคโนโลยีการชำระเงินรูปแบบใหม่นี้
วัตถุประสงค์ของการทดสอบครั้งนี้คือต้องการทราบว่าลูกค้ามีความคิดเห็นอย่างไรกับวิธีการชำระเงินโดยผ่านโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นวิธีการชำระเงินที่ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า และสะดวกสบายกว่าการใช้วิธีการชำระเงินที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน เช่น การชำระเงินโดยใช้เงินสด บัตรเครดิต บัตรเดบิต เป็นต้น
ประโยชน์หรือข้อดีของวิธีการชำระเงินโดยผ่านโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth มีดังต่อไปนี้
1. การชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยใช้โทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth จะทำให้ลูกค้าสามารถชำระเงิน ณ จุดชำระเงินของห้างได้รวดเร็วขึ้น หรือกรณีที่ลูกค้ารอเข้าคิวเพื่อชำระเงิน จะทำให้คิวสั้นลงซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ลูกค้าและเจ้าของร้านค้า
2. เทคโนโลยี Bluetooth ทำให้สามารถส่งข้อมูลแบบไร้สายในระยะใกล้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งคือการส่งผ่านข้อมูลระหว่างโทรศัพท์มือถือของลูกค้ากับเครื่องคิดเงินของร้านค้า
3. การชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยใช้โทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth จะสามารถลดขั้นตอนกระบวนการชำระเงินลงได้ครึ่งหนึ่ง
4. ลูกค้าจะได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลดราคาสินค้าของห้างโดยการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ กล่าวโดยสรุป การชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยผ่านโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth นั้นมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับวิธีการชำระเงินแบบไร้สายวิธีอื่นที่ใช้เครือข่ายสื่อสารที่มีอยู่โดยทั่วไปในปัจจุบันซึ่งจะก่อให้เกิดภาระต้นทุนแก่ลูกค้าและใช้ระยะเวลาในการทำธุรกรรมการชำระเงินนานกว่า เมื่อเทียบกับการใช้เทคโนโลยี Bluetooth ซึ่งลูกค้าไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ และประหยัดเวลา
นักวิเคราะห์คาดว่าเทคโนโลยี Bluetooth จะเจริญเติบโตอย่างมากในเร็ว ๆ นี้โดยคาดว่าจะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth จำนวน 955 ล้านหน่วยภายในปี พ.ศ.2548 และยังคาดว่าตลาดของวิทยุที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth และอุปกรณ์ Baseband Silicon จะขยายตัวและมีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์สรอ.ภายในปี พ.ศ.2548 นี้
--จุลสารระบบการชำระเงิน/มิถุนายน 2544--
-ยก-
วัตถุประสงค์ของการทดสอบครั้งนี้คือต้องการทราบว่าลูกค้ามีความคิดเห็นอย่างไรกับวิธีการชำระเงินโดยผ่านโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นวิธีการชำระเงินที่ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า และสะดวกสบายกว่าการใช้วิธีการชำระเงินที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน เช่น การชำระเงินโดยใช้เงินสด บัตรเครดิต บัตรเดบิต เป็นต้น
ประโยชน์หรือข้อดีของวิธีการชำระเงินโดยผ่านโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth มีดังต่อไปนี้
1. การชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยใช้โทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth จะทำให้ลูกค้าสามารถชำระเงิน ณ จุดชำระเงินของห้างได้รวดเร็วขึ้น หรือกรณีที่ลูกค้ารอเข้าคิวเพื่อชำระเงิน จะทำให้คิวสั้นลงซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ลูกค้าและเจ้าของร้านค้า
2. เทคโนโลยี Bluetooth ทำให้สามารถส่งข้อมูลแบบไร้สายในระยะใกล้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งคือการส่งผ่านข้อมูลระหว่างโทรศัพท์มือถือของลูกค้ากับเครื่องคิดเงินของร้านค้า
3. การชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยใช้โทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth จะสามารถลดขั้นตอนกระบวนการชำระเงินลงได้ครึ่งหนึ่ง
4. ลูกค้าจะได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลดราคาสินค้าของห้างโดยการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ กล่าวโดยสรุป การชำระเงินค่าซื้อสินค้าโดยผ่านโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth นั้นมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับวิธีการชำระเงินแบบไร้สายวิธีอื่นที่ใช้เครือข่ายสื่อสารที่มีอยู่โดยทั่วไปในปัจจุบันซึ่งจะก่อให้เกิดภาระต้นทุนแก่ลูกค้าและใช้ระยะเวลาในการทำธุรกรรมการชำระเงินนานกว่า เมื่อเทียบกับการใช้เทคโนโลยี Bluetooth ซึ่งลูกค้าไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ และประหยัดเวลา
นักวิเคราะห์คาดว่าเทคโนโลยี Bluetooth จะเจริญเติบโตอย่างมากในเร็ว ๆ นี้โดยคาดว่าจะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth จำนวน 955 ล้านหน่วยภายในปี พ.ศ.2548 และยังคาดว่าตลาดของวิทยุที่ติดตั้งเทคโนโลยี Bluetooth และอุปกรณ์ Baseband Silicon จะขยายตัวและมีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์สรอ.ภายในปี พ.ศ.2548 นี้
--จุลสารระบบการชำระเงิน/มิถุนายน 2544--
-ยก-