กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวว่า นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวได้นำทีมประเทศไทยพร้อมด้วยอัครราชทูต (ฝ่ายเศรษฐกิจและการลงทุน) อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายพาณิชย์) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวไทย สาขาฟูกูโอกะและเจ้าหน้าที่การตลาดสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาโอซากาและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ไปเยือนจังหวัดโคจิ จังหวัดคากาว่าและจังหวัด โตคุชิม่า ระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน 2544 สรุปสาระสำคัญของการเยือนได้ดังนี้
1. การหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดโคจิ เอกอัครราชทูตฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Daijiro Hashimoto ผู้ว่าราชการจังหวัดโคจิ ซึ่งเป็นน้องชายของอดีตนายกรัฐมนตรี Hashomoto เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของ การเดินทางไปเยือนจังหวัดโคจิเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจังหวัดโคจิ และแสวงหาและขยาย ลู่ทางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองฝ่ายให้มากขึ้น รวมทั้งขอบคุณจังหวัดโคจิที่ให้การสนับสนุนการจัดสัมมนาของทีมประเทศไทยในครั้งนี้ พร้อมทั้งแจ้งว่า อดีตนายกรัฐมนตรี Hashimoto เป็นเพื่อนที่ดีของไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดโคจิแจ้งว่า มีการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย โดยมีการ แลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยโคจิกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเทคนิคโคจิกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยในจังหวัดโคจิมีนักเรียนไทยประมาณ 14 คน พร้อมทั้งขอให้ มีการเพิ่ม นักท่องเที่ยวจากไทยมายังจังหวัดโคจิ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโคจิทราบด้วยว่า ในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นเดินทางไปประเทศไทยประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดโคจิ ไปประเทศไทยประมาณ 2,000 คนเท่านั้นซึ่งคนไทยอยากมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมากแต่มีปัญหาการไม่ได้ รับอนุญาตการตรวจลงตราเข้าญี่ปุ่น ในส่วนการค้าและการลงทุนสามารถแสวงหาความร่วมมือด้าน การเกษตรระหว่างกันได้ โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนในไทยเป็นอันดับหนึ่งสามารถนำเทคโนโลยีชั้นสูงเกี่ยวกับการกลั่นน้ำใต้พื้นทะเลมากลั่นเป็นน้ำบริสุทธิ์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงของญี่ปุ่นที่มีในจังหวัดนี้มาใช้ ในไทยได้ ในขณะที่ในปัจจุบันได้มีการนำอาหารทะเลกึ่งสำเร็จรูปจากไทยเข้าญี่ปุ่น รวมทั้งมีการนำเฟอร์นิเจอร์กึ่งสำเร็จรูปเข้ามาด้วย จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำคณะผู้แทนไปเยือนไทยโดยในอดีต ที่ผ่านมาก็มีผู้ว่าราชการหลายจังหวัด อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดไซตะมะนำคณะไปเยือน
2. การหารือกับนายกเทศมนตรีเมืองโคจิ เอกอัครราชทูตฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Tetsuto Matsuo นายกเทศมนตรีเมืองโคจิ และได้กล่าวขอบคุณที่เมืองโคจิได้ให้การสนับสนุนการจัดสัมมนาของทีมประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่ง เอกอัครราชทูตฯ เห็นว่าจะช่วยเสริมสร้างการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน ปัจจุบัน เมืองโคจิกับประเทศไทยมีการติดต่อกันน้อยจึงเป็นโอกาสที่จะแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิดกันได้ 3. การหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดคากาว่า ในการเข้าเยี่ยมคารวะนาย Takeki Manabe ผู้ว่าราชการจังหวัดคากาว่า เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวขอบคุณจังหวัดคากาว่าในการสนับสนุนการจัดสัมมนาทีมประเทศไทยในครั้งนี้ และผู้ว่าราชการจังหวัดคากาว่าแจ้งว่า ยินดีที่ทีมประเทศไทยไปจัดสัมมนาที่จังหวัดคากาว่า ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์กันอย่างยาวนานมาแล้ว ในด้านการค้ามีบริษัทในจังหวัดประกอบธุรกิจกับไทยจำนวน 38 บริษัท และมีอีก 7 บริษัทที่ได้ลงทุนในไทยแล้ว รวมทั้งมีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยคากาว่ากับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกด้วย เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งวัตถุประสงค์ในการจัดสัมมนาเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจทั้งด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นำคณะผู้แทนจังหวัดไปเยือนไทยเพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน นอกจากนี้ยังเห็นพ้องต้องกันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับรากหญ้าระหว่างประชาชนโดยเริ่มจากการส่งเสริมผ่านโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดคากาว่าได้เสนอให้มีเที่ยวบินตรงระหว่างท่าอากาศยานทาคามาสึ จังหวัดคากาว่ากับกรุงเทพฯ จึงขอความสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วย โดยในขณะนี้มีเที่ยวบินตรงไปเกาหลี ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่าเป็นความคิดที่ดีเนื่องจากยังไม่มีสนามบินเชื่อมระหว่างเกาะชิโกกุกับไทย อย่างไรก็ดีเรื่องดังกล่าวขึ้นกับความเป็นไปได้ในทางธุรกิจอีกด้วยและจะนำเรื่องนี้แจ้งสายการบินไทยอีกทางหนึ่ง พร้อมนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอบคุณนาย Fumio Kawakita รองผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้เข้าร่วมหารือและเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในงานเลี้ยงรับรองภายหลังการสัมมนาอีกด้วย
4. การหารือกับนายกเทศมนตรีทากามัตสึ จังหวัดคากาว่า ในการเข้าพบกับนาย Shozo Masuda นายกเทศมนตรีเมืองทากามัตสึ เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาของทีมประเทศไทย พร้อมทั้งเสนอให้มีความร่วมมือด้านวัฒนธรรมเหมือนกับที่เมืองโยชิดะ จังหวัดไซตะมะกับจังหวัดยโสธรมีความร่วมมือด้านการจุดบ้องไฟ จึงน่าจะหาลู่ทางเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระดับเมืองโดยผ่านทางวัฒนธรรมได้ รวมทั้งยังอาจแสวงหาความร่วมมือทางภาคเกษตรกรรมต่อไปได้ในอนาคตพร้อมทั้งเชิญชวนให้นายกเทศมนตรีจัดคณะผู้แทนมาเยือนไทยเพื่อแสวงหาลู่ทางความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
5. การหารือกับประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมจังหวัดคากาว่า ในการพบปะกับนาย Hiroatsu Ito ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมจังหวัดคากาว่า เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาของทีมประเทศไทยและขอบคุณหอการค้าฯ ที่ได้ ให้ความร่วมมือในการจัดสัมมนาครั้งนี้ ประธานหอการค้าแจ้งว่าตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานหอการค้าฯ ก่อนหน้าเข้ารับตำแหน่งอยู่ในธุรกิจด้านการขนส่งโดยรถไฟและได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนโครงการรถไฟ ยกระดับในไทยด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7
(ยังมีต่อ)
-อน-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวว่า นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวได้นำทีมประเทศไทยพร้อมด้วยอัครราชทูต (ฝ่ายเศรษฐกิจและการลงทุน) อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายพาณิชย์) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวไทย สาขาฟูกูโอกะและเจ้าหน้าที่การตลาดสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาโอซากาและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ไปเยือนจังหวัดโคจิ จังหวัดคากาว่าและจังหวัด โตคุชิม่า ระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน 2544 สรุปสาระสำคัญของการเยือนได้ดังนี้
1. การหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดโคจิ เอกอัครราชทูตฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Daijiro Hashimoto ผู้ว่าราชการจังหวัดโคจิ ซึ่งเป็นน้องชายของอดีตนายกรัฐมนตรี Hashomoto เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของ การเดินทางไปเยือนจังหวัดโคจิเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจังหวัดโคจิ และแสวงหาและขยาย ลู่ทางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองฝ่ายให้มากขึ้น รวมทั้งขอบคุณจังหวัดโคจิที่ให้การสนับสนุนการจัดสัมมนาของทีมประเทศไทยในครั้งนี้ พร้อมทั้งแจ้งว่า อดีตนายกรัฐมนตรี Hashimoto เป็นเพื่อนที่ดีของไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดโคจิแจ้งว่า มีการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย โดยมีการ แลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยโคจิกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเทคนิคโคจิกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยในจังหวัดโคจิมีนักเรียนไทยประมาณ 14 คน พร้อมทั้งขอให้ มีการเพิ่ม นักท่องเที่ยวจากไทยมายังจังหวัดโคจิ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโคจิทราบด้วยว่า ในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นเดินทางไปประเทศไทยประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดโคจิ ไปประเทศไทยประมาณ 2,000 คนเท่านั้นซึ่งคนไทยอยากมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมากแต่มีปัญหาการไม่ได้ รับอนุญาตการตรวจลงตราเข้าญี่ปุ่น ในส่วนการค้าและการลงทุนสามารถแสวงหาความร่วมมือด้าน การเกษตรระหว่างกันได้ โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนในไทยเป็นอันดับหนึ่งสามารถนำเทคโนโลยีชั้นสูงเกี่ยวกับการกลั่นน้ำใต้พื้นทะเลมากลั่นเป็นน้ำบริสุทธิ์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงของญี่ปุ่นที่มีในจังหวัดนี้มาใช้ ในไทยได้ ในขณะที่ในปัจจุบันได้มีการนำอาหารทะเลกึ่งสำเร็จรูปจากไทยเข้าญี่ปุ่น รวมทั้งมีการนำเฟอร์นิเจอร์กึ่งสำเร็จรูปเข้ามาด้วย จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำคณะผู้แทนไปเยือนไทยโดยในอดีต ที่ผ่านมาก็มีผู้ว่าราชการหลายจังหวัด อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดไซตะมะนำคณะไปเยือน
2. การหารือกับนายกเทศมนตรีเมืองโคจิ เอกอัครราชทูตฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Tetsuto Matsuo นายกเทศมนตรีเมืองโคจิ และได้กล่าวขอบคุณที่เมืองโคจิได้ให้การสนับสนุนการจัดสัมมนาของทีมประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่ง เอกอัครราชทูตฯ เห็นว่าจะช่วยเสริมสร้างการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน ปัจจุบัน เมืองโคจิกับประเทศไทยมีการติดต่อกันน้อยจึงเป็นโอกาสที่จะแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิดกันได้ 3. การหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดคากาว่า ในการเข้าเยี่ยมคารวะนาย Takeki Manabe ผู้ว่าราชการจังหวัดคากาว่า เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวขอบคุณจังหวัดคากาว่าในการสนับสนุนการจัดสัมมนาทีมประเทศไทยในครั้งนี้ และผู้ว่าราชการจังหวัดคากาว่าแจ้งว่า ยินดีที่ทีมประเทศไทยไปจัดสัมมนาที่จังหวัดคากาว่า ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์กันอย่างยาวนานมาแล้ว ในด้านการค้ามีบริษัทในจังหวัดประกอบธุรกิจกับไทยจำนวน 38 บริษัท และมีอีก 7 บริษัทที่ได้ลงทุนในไทยแล้ว รวมทั้งมีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยคากาว่ากับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกด้วย เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งวัตถุประสงค์ในการจัดสัมมนาเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจทั้งด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นำคณะผู้แทนจังหวัดไปเยือนไทยเพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน นอกจากนี้ยังเห็นพ้องต้องกันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับรากหญ้าระหว่างประชาชนโดยเริ่มจากการส่งเสริมผ่านโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดคากาว่าได้เสนอให้มีเที่ยวบินตรงระหว่างท่าอากาศยานทาคามาสึ จังหวัดคากาว่ากับกรุงเทพฯ จึงขอความสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วย โดยในขณะนี้มีเที่ยวบินตรงไปเกาหลี ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่าเป็นความคิดที่ดีเนื่องจากยังไม่มีสนามบินเชื่อมระหว่างเกาะชิโกกุกับไทย อย่างไรก็ดีเรื่องดังกล่าวขึ้นกับความเป็นไปได้ในทางธุรกิจอีกด้วยและจะนำเรื่องนี้แจ้งสายการบินไทยอีกทางหนึ่ง พร้อมนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอบคุณนาย Fumio Kawakita รองผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้เข้าร่วมหารือและเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในงานเลี้ยงรับรองภายหลังการสัมมนาอีกด้วย
4. การหารือกับนายกเทศมนตรีทากามัตสึ จังหวัดคากาว่า ในการเข้าพบกับนาย Shozo Masuda นายกเทศมนตรีเมืองทากามัตสึ เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาของทีมประเทศไทย พร้อมทั้งเสนอให้มีความร่วมมือด้านวัฒนธรรมเหมือนกับที่เมืองโยชิดะ จังหวัดไซตะมะกับจังหวัดยโสธรมีความร่วมมือด้านการจุดบ้องไฟ จึงน่าจะหาลู่ทางเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระดับเมืองโดยผ่านทางวัฒนธรรมได้ รวมทั้งยังอาจแสวงหาความร่วมมือทางภาคเกษตรกรรมต่อไปได้ในอนาคตพร้อมทั้งเชิญชวนให้นายกเทศมนตรีจัดคณะผู้แทนมาเยือนไทยเพื่อแสวงหาลู่ทางความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
5. การหารือกับประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมจังหวัดคากาว่า ในการพบปะกับนาย Hiroatsu Ito ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมจังหวัดคากาว่า เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาของทีมประเทศไทยและขอบคุณหอการค้าฯ ที่ได้ ให้ความร่วมมือในการจัดสัมมนาครั้งนี้ ประธานหอการค้าแจ้งว่าตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานหอการค้าฯ ก่อนหน้าเข้ารับตำแหน่งอยู่ในธุรกิจด้านการขนส่งโดยรถไฟและได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนโครงการรถไฟ ยกระดับในไทยด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7
(ยังมีต่อ)
-อน-