ข่าวในประเทศ
1. ธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ประเมินมูลค่าหลักประกันลูกหนี้ขนาดเล็ก ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ส่งหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง เพื่อแจ้งการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าหลักประกันเพื่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยให้สถาบันการเงินสามารถใช้ผู้ประเมินราคาอิสระภายในได้สำหรับลูกหนี้ขนาดเล็ก จากเดิมกำหนดให้ต้องใช้ผู้ประเมินราคาอิสระภายนอกแหล่งเดียว ทั้งนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายของสถาบันการเงิน และทำให้การปรับโครงสร้างหนี้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อนึ่ง ลูกหนี้ขนาดเล็ก หมายถึงลูกหนี้ที่มีราคาตามบัญชีสูงกว่า 10 ล.บาทหรือ 20 ล.บาท กรณีสถาบันการเงินมีเงินกองทุนน้อยกว่า 8 พัน ล.บาท หรือตั้งแต่ 8 พัน ล.บาทขึ้นไป ตามลำดับ (มติชน, กรุงเทพธุรกิจ 29)
2. แนวโน้มการดำเนินกิจการวิเทศธนกิจช่วงครึ่งหลังปี 44 ลดลง รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มการดำเนินกิจการวิเทศธนกิจในช่วงครึ่งหลังปี 44 ว่า ธุรกรรมกิจการวิเทศธนกิจลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกิดการก่อการร้ายใน สรอ.และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ แม้ว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินบาทและดอลลาร์ สรอ.จะปรับลดลง และค่าเงินดอลลาร์จะมีค่าอ่อนตัวลงก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานกิจการวิเทศธนกิจช่วงครึ่งแรกปี 44 มีกำไรสุทธิ 3.71 พัน ล.บาท เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่าจากช่วงครี่งหลังปี 43 เนื่องจากมีการขายลูกหนี้และการโอนสำรองหนี้สงสัยจะสูญกลับมาเป็นรายได้(โลกวันนี้, บ้านเมือง 29)
3. สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ. ธนาคารเอสเอ็มอี ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยแล้วจำนวน 2 ฉบับ โดย ก.ม. ดังกล่าวมีหลักการและเหตุผลเพื่อช่วยแก้ไขสภาพคล่องแก่สถาบันการเงินที่สนับสนุนด้านการเงินแก่วิสาหกิจในกิจการสินค้า การบริการ กิจการค้าส่งและค้าปลีก ซึ่งครอบคลุมวิสาหกิจถึงร้อยละ 90 ทั่วประเทศ และจะตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นพิจารณาแปรญัตติภายใน 7 วัน(ข่าวสด 29)
4. ปรส. นำ บง. และ บงล. 7 แห่งเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ประธานกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) เปิดเผยว่า ปรส. ได้นำ สถาบันการเงินที่ถูกสั่งระงับกิจการเข้าสู่กระบวนการล้มละลายอีก 7 แห่ง คือ บง. คาเธย์ทรัสต์ บงล.ไอทีเอฟ บง.ทรัพย์ธำรง บง.บางกอกเงินทุน บงล.เอกสิน บงล.วอลล์สตรีท และบงล.ทรัพย์ธนพล ทั้งนี้ หลังจากมีคำสั่งให้พิทักษ์เบ็ดเสร็จเด็ดขาดให้จัดสรรเงินคืนเจ้าหนี้จำนวน 28,112.72 ล.บาท ซึ่งเป็นส่วนของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 26,371 ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 93.81(กรุงเทพธุรกิจ, คมชัดลึก 29)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ต.ค. 44 ลดลงในอัตราที่ชะลอตัว รายงานจากโตเกียวเมื่อ 29 พ.ย. 44 ก. เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (MITI) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมหลังปรับฤดูกาล ในเดือน ต.ค. 44 ลดลงร้อยละ 0.3 เทียบต่อเดือน หลังจากที่ลดลงร้อยละ 2.9 ในเดือน ก.ย. 44 และดีกว่าผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงเฉลี่ยร้อยละ 0.8 และเมื่อเทียบต่อปี ผลผลิตฯ ลดลงร้อยละ 11.9 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 12.7 ในเดือนก่อน ขณะที่อัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อการส่งมอบเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 นอกจากนั้น MITI ประมาณการว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม ในเดือน พ.ย. 44 จะลดลงร้อยละ 1 เทียบต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ในเดือน ธ.ค. 44 จากรายงานครั้งนี้ ชี้ว่าผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มที่ลดลงและคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อการส่งมอบยังอยู่ในระดับสูง และมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของอุปสงค์ขั้นสุดท้าย (รอยเตอร์29)
2. ประมาณการภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นเดือน ก.ค.-ก.ย.44 รายงานจากโตเกียว เมื่อ 28 ก.ย.44 สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 21 คนเกี่ยวกับตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) เดือน ก.ค.-ก.ย.44 มีตัวเลขอยู่ระหว่างเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ถึงติดลบร้อยละ 1.1 โดยมีค่าเฉลี่ยติดลบร้อยละ 0.7 (เทียบไตรมาสต่อไตรมาส) และเมี่อเทียบปีต่อปีค่าเฉลี่ยติดลบร้อยละ 2.6 ผลการสำรวจดังกล่าวสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ถดถอยลงซึ่งเป็นผลจากการใช้จ่ายที่ลดลงทั้งภาครัฐและเอกชน นับว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการถดถอยครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปี ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้รายงานผลสำรวจความคิดเห็นภาคเอกชนรายไตรมาส (tankan survey) เมื่อเดือนที่ผ่านมา พบว่า บริษัทในญี่ปุ่นมีแผนที่จะปรับลดการใช้จ่ายด้านโรงงานและอุปกรณ์ลงร้อยละ 5.1 ในปี งปม.44/45 เทียบกับปี งปม.43/44 ส่วนนักเศรษฐศาสตร์จาก Tsubasa Research Institute กล่าวว่า อุปสงค์ของภาคเอกชน ภาครัฐและต่างประเทศมีแนวโน้มลดลง และคาดว่าจะส่งผลทางลบต่อจีดีพีของญี่ปุ่น และยังไม่พบว่ามีปัจจัยใดที่จะเป็นผลทางบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น(รอยเตอร์ 28)
3. เศรษฐกิจ สรอ. ยังคงชะลอตัวในเดือน ต.ค. และ พ.ย. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 28 พ.ย. 44 ธ. กลาง สรอ. 12 รัฐ เปิดเผยรายงานเศรษฐกิจใน Beige book ว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังคงซบเซาในครึ่งหลังเดือน ต.ค. และครึ่งแรกของเดือน พ.ย. 44 โดยเศรษฐกิจเกือบทุกรัฐชะลอลงอย่างรุนแรง และมีสัญญาณการฟื้นตัวเพียง2-3 รัฐ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ร้ายเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา จากรายงานครั้งนี้ ยิ่งเป็นปัจจัยเกื้อหนุนต่อการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า ธ. กลาง สรอ. จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกเป็นครั้งที่ 11 ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 11 ธ.ค.นี้(รอยเตอร์28)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 28 พ.ย.44 44.110 (44.104)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 28 พ.ย. 44 ซื้อ 43.9356 (43.9310) ขาย 44.2263 (44.2287)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,700 (5,700) ขาย 5,800 (5,800)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) ดูไบ 17.22 (17.49)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 12.99 (12.99)
ดีเซลหมุนเร็ว 11.79 (11.79)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ประเมินมูลค่าหลักประกันลูกหนี้ขนาดเล็ก ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ส่งหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง เพื่อแจ้งการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าหลักประกันเพื่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยให้สถาบันการเงินสามารถใช้ผู้ประเมินราคาอิสระภายในได้สำหรับลูกหนี้ขนาดเล็ก จากเดิมกำหนดให้ต้องใช้ผู้ประเมินราคาอิสระภายนอกแหล่งเดียว ทั้งนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายของสถาบันการเงิน และทำให้การปรับโครงสร้างหนี้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อนึ่ง ลูกหนี้ขนาดเล็ก หมายถึงลูกหนี้ที่มีราคาตามบัญชีสูงกว่า 10 ล.บาทหรือ 20 ล.บาท กรณีสถาบันการเงินมีเงินกองทุนน้อยกว่า 8 พัน ล.บาท หรือตั้งแต่ 8 พัน ล.บาทขึ้นไป ตามลำดับ (มติชน, กรุงเทพธุรกิจ 29)
2. แนวโน้มการดำเนินกิจการวิเทศธนกิจช่วงครึ่งหลังปี 44 ลดลง รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มการดำเนินกิจการวิเทศธนกิจในช่วงครึ่งหลังปี 44 ว่า ธุรกรรมกิจการวิเทศธนกิจลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกิดการก่อการร้ายใน สรอ.และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ แม้ว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินบาทและดอลลาร์ สรอ.จะปรับลดลง และค่าเงินดอลลาร์จะมีค่าอ่อนตัวลงก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานกิจการวิเทศธนกิจช่วงครึ่งแรกปี 44 มีกำไรสุทธิ 3.71 พัน ล.บาท เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่าจากช่วงครี่งหลังปี 43 เนื่องจากมีการขายลูกหนี้และการโอนสำรองหนี้สงสัยจะสูญกลับมาเป็นรายได้(โลกวันนี้, บ้านเมือง 29)
3. สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ. ธนาคารเอสเอ็มอี ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยแล้วจำนวน 2 ฉบับ โดย ก.ม. ดังกล่าวมีหลักการและเหตุผลเพื่อช่วยแก้ไขสภาพคล่องแก่สถาบันการเงินที่สนับสนุนด้านการเงินแก่วิสาหกิจในกิจการสินค้า การบริการ กิจการค้าส่งและค้าปลีก ซึ่งครอบคลุมวิสาหกิจถึงร้อยละ 90 ทั่วประเทศ และจะตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นพิจารณาแปรญัตติภายใน 7 วัน(ข่าวสด 29)
4. ปรส. นำ บง. และ บงล. 7 แห่งเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ประธานกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) เปิดเผยว่า ปรส. ได้นำ สถาบันการเงินที่ถูกสั่งระงับกิจการเข้าสู่กระบวนการล้มละลายอีก 7 แห่ง คือ บง. คาเธย์ทรัสต์ บงล.ไอทีเอฟ บง.ทรัพย์ธำรง บง.บางกอกเงินทุน บงล.เอกสิน บงล.วอลล์สตรีท และบงล.ทรัพย์ธนพล ทั้งนี้ หลังจากมีคำสั่งให้พิทักษ์เบ็ดเสร็จเด็ดขาดให้จัดสรรเงินคืนเจ้าหนี้จำนวน 28,112.72 ล.บาท ซึ่งเป็นส่วนของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 26,371 ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 93.81(กรุงเทพธุรกิจ, คมชัดลึก 29)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ต.ค. 44 ลดลงในอัตราที่ชะลอตัว รายงานจากโตเกียวเมื่อ 29 พ.ย. 44 ก. เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (MITI) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมหลังปรับฤดูกาล ในเดือน ต.ค. 44 ลดลงร้อยละ 0.3 เทียบต่อเดือน หลังจากที่ลดลงร้อยละ 2.9 ในเดือน ก.ย. 44 และดีกว่าผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงเฉลี่ยร้อยละ 0.8 และเมื่อเทียบต่อปี ผลผลิตฯ ลดลงร้อยละ 11.9 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 12.7 ในเดือนก่อน ขณะที่อัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อการส่งมอบเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 นอกจากนั้น MITI ประมาณการว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม ในเดือน พ.ย. 44 จะลดลงร้อยละ 1 เทียบต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ในเดือน ธ.ค. 44 จากรายงานครั้งนี้ ชี้ว่าผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มที่ลดลงและคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อการส่งมอบยังอยู่ในระดับสูง และมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของอุปสงค์ขั้นสุดท้าย (รอยเตอร์29)
2. ประมาณการภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นเดือน ก.ค.-ก.ย.44 รายงานจากโตเกียว เมื่อ 28 ก.ย.44 สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 21 คนเกี่ยวกับตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) เดือน ก.ค.-ก.ย.44 มีตัวเลขอยู่ระหว่างเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ถึงติดลบร้อยละ 1.1 โดยมีค่าเฉลี่ยติดลบร้อยละ 0.7 (เทียบไตรมาสต่อไตรมาส) และเมี่อเทียบปีต่อปีค่าเฉลี่ยติดลบร้อยละ 2.6 ผลการสำรวจดังกล่าวสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ถดถอยลงซึ่งเป็นผลจากการใช้จ่ายที่ลดลงทั้งภาครัฐและเอกชน นับว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการถดถอยครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปี ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้รายงานผลสำรวจความคิดเห็นภาคเอกชนรายไตรมาส (tankan survey) เมื่อเดือนที่ผ่านมา พบว่า บริษัทในญี่ปุ่นมีแผนที่จะปรับลดการใช้จ่ายด้านโรงงานและอุปกรณ์ลงร้อยละ 5.1 ในปี งปม.44/45 เทียบกับปี งปม.43/44 ส่วนนักเศรษฐศาสตร์จาก Tsubasa Research Institute กล่าวว่า อุปสงค์ของภาคเอกชน ภาครัฐและต่างประเทศมีแนวโน้มลดลง และคาดว่าจะส่งผลทางลบต่อจีดีพีของญี่ปุ่น และยังไม่พบว่ามีปัจจัยใดที่จะเป็นผลทางบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น(รอยเตอร์ 28)
3. เศรษฐกิจ สรอ. ยังคงชะลอตัวในเดือน ต.ค. และ พ.ย. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 28 พ.ย. 44 ธ. กลาง สรอ. 12 รัฐ เปิดเผยรายงานเศรษฐกิจใน Beige book ว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังคงซบเซาในครึ่งหลังเดือน ต.ค. และครึ่งแรกของเดือน พ.ย. 44 โดยเศรษฐกิจเกือบทุกรัฐชะลอลงอย่างรุนแรง และมีสัญญาณการฟื้นตัวเพียง2-3 รัฐ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ร้ายเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา จากรายงานครั้งนี้ ยิ่งเป็นปัจจัยเกื้อหนุนต่อการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า ธ. กลาง สรอ. จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกเป็นครั้งที่ 11 ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 11 ธ.ค.นี้(รอยเตอร์28)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 28 พ.ย.44 44.110 (44.104)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 28 พ.ย. 44 ซื้อ 43.9356 (43.9310) ขาย 44.2263 (44.2287)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,700 (5,700) ขาย 5,800 (5,800)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) ดูไบ 17.22 (17.49)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 12.99 (12.99)
ดีเซลหมุนเร็ว 11.79 (11.79)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-