ไทย เปิดตลาดให้ทุกประเทศ ส่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มายังไทยภายใต้โควตา WTO 53,832 ตัน โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษ ให้นำเข้าช่วง 1 มี.ค.-30 มิ.ย.นี้เท่านั้น ทั้งนี้จะไม่กระทบต่อเกษตรกรภายในประเทศ ส่วนนอกโควตานำเข้าได้ไม่จำกัดปริมาณแต่ไม่เกิน 31 ธ.ค.44
นายการุณ กิตติสถาพร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ออกระเบียบฯว่าด้วยการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก(WTO)สำหรับสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2544 โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ดังกล่าวต้องอยู่ในพิกัดที่ 1005.90 ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดปริมาณโควตานำเข้าจำนวน 53,832 ตัน เสียภาษีนำเข้าเพียง 20% และไม่เสียค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้าแต่อย่างใด สามารถนำเข้าได้ในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม — 30 มิถุนายน 2544 สำหรับผู้ที่จะนำเข้านั้นกระทรวงพาณิชย์ จะออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณี WTO ให้แก่องค์การคลังสินค้า(อคส.) ส่วนการนำเข้านอกโควตาจะไม่จำกัดปริมาณการนำเข้า แต่จะต้องเสียภาษีสูงถึง 75.4% และต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้า 180 บาท/ตัน ซึ่งกำหนดระยะเวลานำเข้าระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ — 31 ธันวาคม 2544
นายการุณ กล่าวต่อไปว่าการเปิดให้นำเข้าภายใต้โควตาของปี 2544 ในช่วงเวลา 1 มีนาคม — 30 มิถุนายน จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรภายในประเทศเนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูปลูกข้าวโพด สำหรับการเปิดตลาดนั้นก่อนหน้านี้ได้กำหนดให้สามารถนำเข้าได้เฉพาะจากประเทศที่เป็นสมาชิก WTO ลาว และกัมพูชา ทั้งในและนอกโควตา การที่กระทรวงพาณิชย์เปิดให้นำเข้าได้จากทุกประเทศนั้น ก็เพื่อให้มีแหล่งนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูกเพิ่มขึ้น และเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตปศุสัตว์ด้วย
นายการุณ กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับการส่งออกในช่วงเดือน มกราคม — มีนาคม 2544 ส่งออกไปแล้วจำนวน 82,967 ตัน เป็นการส่งออกไปมาเลเซียมากที่สุดรองลงมาเป็น ไต้หวัน อินโดนีเซีย และอื่นๆซึ่งในปีที่ผ่านมาส่งออกทั้งสิ้น 20,263 ตัน ส่วนในการนำเข้านั้นทั้งในและนอกโควตาในปี 2543 นำเข้าทั้งสิ้น 301,144 ตัน มูลค่า 1,233.52 ล้านบาท เป็นการนำเข้าจากสธารณรัฐประชาชนจีน 272,979 ตัน อาร์เยนตินา 26,250 ตัน สปป.ลาว 2,850 ตัน และกัมพูชา 265 ตัน สำหรับสถานการณ์การผลิตของโลกปี 2543/44 สหรัฐอเมริกา คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5.70 อาร์เยนตินา คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 19.04 แอฟริกา คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 19.04 สาธารณรัฐประชาชนจีน คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 18.02
--กรมการค้าต่างประเทศ เมษายน 2544--
-อน-
นายการุณ กิตติสถาพร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ออกระเบียบฯว่าด้วยการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก(WTO)สำหรับสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2544 โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ดังกล่าวต้องอยู่ในพิกัดที่ 1005.90 ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดปริมาณโควตานำเข้าจำนวน 53,832 ตัน เสียภาษีนำเข้าเพียง 20% และไม่เสียค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้าแต่อย่างใด สามารถนำเข้าได้ในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม — 30 มิถุนายน 2544 สำหรับผู้ที่จะนำเข้านั้นกระทรวงพาณิชย์ จะออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณี WTO ให้แก่องค์การคลังสินค้า(อคส.) ส่วนการนำเข้านอกโควตาจะไม่จำกัดปริมาณการนำเข้า แต่จะต้องเสียภาษีสูงถึง 75.4% และต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้า 180 บาท/ตัน ซึ่งกำหนดระยะเวลานำเข้าระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ — 31 ธันวาคม 2544
นายการุณ กล่าวต่อไปว่าการเปิดให้นำเข้าภายใต้โควตาของปี 2544 ในช่วงเวลา 1 มีนาคม — 30 มิถุนายน จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรภายในประเทศเนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูปลูกข้าวโพด สำหรับการเปิดตลาดนั้นก่อนหน้านี้ได้กำหนดให้สามารถนำเข้าได้เฉพาะจากประเทศที่เป็นสมาชิก WTO ลาว และกัมพูชา ทั้งในและนอกโควตา การที่กระทรวงพาณิชย์เปิดให้นำเข้าได้จากทุกประเทศนั้น ก็เพื่อให้มีแหล่งนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูกเพิ่มขึ้น และเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตปศุสัตว์ด้วย
นายการุณ กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับการส่งออกในช่วงเดือน มกราคม — มีนาคม 2544 ส่งออกไปแล้วจำนวน 82,967 ตัน เป็นการส่งออกไปมาเลเซียมากที่สุดรองลงมาเป็น ไต้หวัน อินโดนีเซีย และอื่นๆซึ่งในปีที่ผ่านมาส่งออกทั้งสิ้น 20,263 ตัน ส่วนในการนำเข้านั้นทั้งในและนอกโควตาในปี 2543 นำเข้าทั้งสิ้น 301,144 ตัน มูลค่า 1,233.52 ล้านบาท เป็นการนำเข้าจากสธารณรัฐประชาชนจีน 272,979 ตัน อาร์เยนตินา 26,250 ตัน สปป.ลาว 2,850 ตัน และกัมพูชา 265 ตัน สำหรับสถานการณ์การผลิตของโลกปี 2543/44 สหรัฐอเมริกา คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5.70 อาร์เยนตินา คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 19.04 แอฟริกา คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 19.04 สาธารณรัฐประชาชนจีน คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 18.02
--กรมการค้าต่างประเทศ เมษายน 2544--
-อน-