บทสรุปนักลงทุน
ความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็ก เช่น คลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) และลวดเสียบกระดาษ (Paper Clips) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นไปตาม ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวและปริมาณสำนักงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศถึงร้อยละ 90 ในปี 2542-2543 คาดว่าภาวะอุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการตั้งสำนักงานเพิ่มขึ้นรวมถึงการที่ผู้ประกอบการยังคงเน้นคุณภาพสินค้าให้มีคุณภาพสูงกว่าคู่แข่งจากต่างประเทศโดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่มีราคาถูกกว่าแต่คุณภาพต่ำกว่า จึงคาดว่าความต้องการในประเทศในปี 2542-2543 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และร้อยละ 15 ตามลำดับ มูลค่าส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 55.84 โดยส่งออกไปยังฝรั่งเศสร้อยละ 31.9 รองลงมาได้แก่ สิงคโปร์และออสเตรเลียร้อยละ 8.99 และ 5.96 ตามลำดับ คาดว่ามูลค่าส่งออกทั้งปี 2542 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ในปี 2543 การนำเข้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 ปรับตัวลดลงร้อยละ 27.61 โดยส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้าจากจีนถึงร้อยละ 39.58 รองลงมาได้แก่ ไต้หวันและญี่ปุ่นร้อยละ 14.0 คาดว่าการนำเข้าทั้งปี 2542 จะลดลงร้อยละ 12.7 ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 5 ในปี 2543 ตามความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กราคาถูกจากประเทศจีน ผู้ผลิตมีจำนวนประมาณ 10 รายและส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตขนาดกลางและย่อม โดยมีช่องทางการจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้า ร้านเครื่องเขียนทั่วไปและขายผ่านตัวแทนจำหน่าย
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะประเภทคลิบหนีบกระดาษ ได้แก่ เหล็กสปริงและลวด ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบ รองลงมาเป็นค่าโสหุ้ยการผลิตและค่าแรงงาน โดยมีกรรมวิธีการผลิตด้วยการนำเหล็กสปริงเข้า เครื่องปั๊มให้ได้ขนาดแล้วนำไปชุบแข็งและอบเพื่อให้ได้ความแข็งตามต้องการแล้วจึงนำไปชุบสี หลังจากนั้นนำไปประกอบกับส่วนขาที่นำเส้นลวดเข้าเครื่องดัดและตัดสำเร็จ ในกระบวนการผลิต ใช้เครื่องปั๊มเหล็ก (Press Machine) แม่พิมพ์สำหรับตัดเหล็ก (Progressive Dies Machine) และ เครื่องดัดและตัดเส้นลวด
กรณีการลงทุนขนาดผลิต 800 ตันต่อปี โดยใช้ชั่วโมงการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน เงินทุนเริ่มต้นประมาณ 30 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ใช้ในการลงทุนสินทรัพย์ถาวรและเครื่องจักร ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในส่วนของค่าใช้จ่ายต่อปีส่วนใหญ่เป็นต้นทุนวัตถุดิบ รองลงมาเป็นค่าโสหุ้ยการผลิตซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นค่าไฟฟ้า นอกนั้นเป็นต้นทุนแรงงานและค่าเสื่อมเครื่องจักร
การตลาด
ความต้องการในปัจจุบันและอนาคต
ความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็ก เช่น คลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) ลวดเสียบกระดาษ (Paper Clips) และลวดเย็บกระดาษ เป็นต้น เพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวและปริมาณสำนักงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง อุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายใน ประเทศถึงร้อยละ 90 โดยความต้องการในประเทศในปี 2539 ขยายตัวร้อยละ 23.4 คิดเป็นมูล
ค่าประมาณ 650 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2540-2541 เศรษฐกิจของประเทศเริ่มซบเซามีการปิดกิจการของผู้ประกอบการหลายราย ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องใช้สำนักงานในประเทศส่งผลให้ความต้องในประเทศขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเหลือเพียงร้อยละ 7.7 และ 2.9 คิดเป็น 700 ล้านบาทและ 720 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ในปี 2542-2543 คาดว่าภาวะอุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการตั้งสำนักงานและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจึงคาดว่าความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะในประเทศปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการที่ผู้ประกอบการยังคงเน้นคุณภาพสินค้าให้มีคุณภาพสูงกว่าคู่แข่งจากต่างประเทศโดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่มีราคาถูกกว่าแต่คุณภาพต่ำกว่า จึงคาดว่าความต้องการในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และร้อยละ 15 คิดเป็น 790 ล้านบาทและ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ
นอกจากความต้องการในประเทศที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องแล้วทางด้านการส่งออกเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดย ในปี 2538 มีมูลค่าส่งออก 58.51 ล้านบาทเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 89.59 ในปี 2539 และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงร้อยละ 116.3 เป็น 147.89 ล้านบาท ในปี 2540 ส่วนมูลค่าส่งออกในปี 2541 ปรับตัวลดลงร้อยละ 22.03 เนื่องจากสินค้าจีนเข้ามาแข่งขันในตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มูลค่าส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 55.84 โดยส่งออกไปยังฝรั่งเศสร้อยละ 31.9 รองลงมาได้แก่ สิงคโปร์และออสเตรเลียร้อยละ 8.99 และ 5.96 ตามลำดับ คาดว่ามูลค่าส่งออกทั้งปี 2542 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 เป็น 190 ล้านบาทและเพิ่มขึ้นเป็น 228 ล้านบาทหรือขยายตัวร้อยละ 20 ในปี 2543 ในขณะที่การนำเข้าปรับ ตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากการผลิตได้เองในประเทศ โดยมูลค่านำเข้าชะลอลงในปี 2540 เป็น 110.49 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 8.36 ส่วนมูลค่านำเข้าในปี 2541 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 34.79 จาก การที่ตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่มีการนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อมาจำหน่ายในประเทศเนื่องจากสินค้ามี ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามการนำเข้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 ปรับตัวลดลงร้อยละ 27.61 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากระดับราคาที่ลดลงเป็นหลัก ปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงร้อยละ 97 โดยส่วนใหญ่ยังเป็น การนำเข้าจากจีนถึงร้อยละ 39.58 รองลงมาได้แก่ ไต้หวันและญี่ปุ่น ร้อยละ 14.0 คาดว่าการนำเข้าทั้งปี 2542 จะลดลงร้อยละ 12.7 เป็น 130 ล้านบาทก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 5 เป็น 139.8 ล้านบาทในปี 2543 ตามสภาพเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นและความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กราคาถูกจากประเทศจีนยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตามจากความต้องการเครื่องใช้สำนักงานในประเทศที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และการส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในขณะที่การนำเข้าลดลง ดังนั้นอุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะจึงยังคงเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มดีในอนาคต
ผู้ผลิตในปัจจุบัน (คู่แข่ง)
อุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะของไทยส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศแต่จำนวนผู้ผลิตมีน้อยกว่าจำนวนของผู้แทนจำหน่าย ทั้งนี้เนื่องจากการผลิตเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะมีมูลค่าตลาดไม่สูงมากนักและผู้ผลิตควรมีการผลิตที่ครบวงจรจึงจะคุ้มทุน ผู้ผลิตในปัจจุบัน เช่น บริษัท สหสิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ใช้เครื่องหมายการค้า UA และ บริษัท
ออร์ก้า (ประเทศไทย) จำกัด เครื่องหมายการค้ารูปปลาฉลาม เป็นต้น ส่วนจำนวนรายชื่อผู้ประกอบการเครื่องใช้สำนักงานขนาดเล็กที่ทำด้วยโลหะของกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีเพียง 3 รายเท่านั้นแต่จากการสำรวจตามแหล่งขายเครื่องเขียนทั่วไปพบว่ามีผู้ผลิตจำนวนประมาณ 10 รายและส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตขนาดกลางและย่อม
รายชื่อผู้ประกอบการสำคัญ
ขนาดกลางและย่อม เงินทุนจดทะเบียน (บาท)
บริษัท นิจิ (ประเทศไทย) จำกัด 112,000,000
บริษัท บางกอกไฮเทคอินดัสทรี (1995) จำกัด 84,500,000
บริษัท ไทยยงเกียรติ์ อินดัสทรี จำกัด 31,000,000
บริษัท สหสิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 30,000,000
บริษัท แอ็คไทร้ย์ จำกัด 7,500,000
บริษัท ออร์ก้า (ประเทศไทย) จำกัด 5,000,000
บริษัท เจ.ซี.ซี. จำกัด 4,000,000
บริษัท ฟอร์จูน ดีไซน์ จำกัด 800,000
ที่มา: กรมโรงงานอุตสาหกรรม
ช่องทางการจำหน่าย
ช่องทางการจำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กในประเทศนั้น ผู้ประกอบการสามารถใช้ช่องทางการจำหน่ายได้หลายรูปแบบ ดังนี้
1. ห้างสรรพสินค้า โดยวางขายรวมอยู่ในแผนกเครื่องเขียนในห้างสรรพสินค้าทั่วไป
2. ดิสเคาสโตร์ เช่น แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ และ ออฟฟิศ ดีโป เป็นต้น
3. ร้านเครื่องเขียนทั่วไป
4.! ขายผ่านตัวแทนจำหน่าย
การผลิต
วัตถุดิบที่ใช้และแหล่งวัตถุดิบ วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กประเภทคลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) ได้แก่ เหล็กสปริงและลวด ซึ่งต้องนำเข้าเหล็กสปริงจากต่างประเทศทั้งหมดโดยผ่านบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่นำเข้า ส่วนการผลิตลวด เสียบกระดาษ (Paper Clips) สามารถหาซื้อลวดได้ในประเทศ
โครงสร้างต้นทุนการผลิต
ประเภท สัดส่วน (%)
1. วัตถุดิบ !50
- วัตถุดิบในประเทศ !30
- วัตถุดิบนำเข้า !70
!2. ค่าแรงงาน !15
!3. ค่าเสื่อมราคา !10
!4. ค่าโสหุ้ยการผลิต !25
!รวม !100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
กรรมวิธีการผลิต
กรรมวิธีการผลิตเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะประเภทคลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips)
ขั้นที่ 1 กรรมวิธีการผลิตส่วนตัว Double Clips
เตรียมเหล็กแผ่นประเภทเหล็กสปริง
นำแผ่นเหล็กเข้าเครื่องปั๊ม
(Progressive Dies Machine)
นำตัวคลิปเข้าเครื่องชุบแข็ง
นำตัวคลิปเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิ
900 องศาเซลเซียส
นำตัวคลิปชุปในน้ำมันชุบแข็ง
!อบซ้ำด้วยเตาอบคืนไฟเพื่อลดความ
แข็งให้ได้ตามมาตรฐาน
!
!ปั๊มตัวคลิปอีกครั้งเพื่อเพิ่มแรงสปริง
!อบซ้ำด้วยเตาอบคืนไฟเพื่อลดความ
แข็งให้ได้ตามมาตรฐานอีกครั้ง
!นำตัวคลิปไปชุบสี
ขั้นที่ 2 กระบวนการผลิตขาของ Double Clips
!นำเส้นลวดเข้าเครื่องดัดและตัด
!นำเส้นลวด ไปชุบนิกเกิ้ล
ขั้นที่ 3 นำตัว Double Clips ประกอบกับส่วนขา
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบและบรรจุกล่อง
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
เครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต
เครื่องจักร (เครื่องมือและอุปกรณ์) ที่ใช้ในธุรกิจการประกอบเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะประเภทคลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) ได้แก่ เครื่องปั๊มเหล็ก (Press Machine) แม่พิมพ์สำหรับตัดเหล็ก (Progressive Dies Machine) และเครื่องดัดและตัดเส้นลวด
การลงทุนและการเงิน
ในการลงทุนอุตสาหกรรมประกอบเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะควรตั้งอยู่บริเวณชานเมืองเนื่องจากในกระบวนการผลิตของเครื่องจักรอาจก่อให้เกิดเสียงดัง กรณีการลงทุนขนาดผลิต 800 ตันต่อปี โดยใช้ชั่วโมงการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน ประกอบด้วยเงินลงทุนและอุปกรณ์ประมาณการเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
เงินทุน
1. เงินทุนจดทะเบียนและเงินทุนเริ่มต้น 30,000,000 บาท
2. ขนาดเงินทุนในสินทรัพย์ถาวร ได้แก่ ค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2,400,000 บาท
3. ค่าเครื่องจักร 3,200,000 บาท
4. ค่ายานพาหนะ 800,000 บาท
5. เงินทุนหมุนเวียน 24,320,000 บาท
บุคลากร ธุรกิจการประกอบเครื่องใช้สำนักงานประเภทโลหะขนาดเล็ก เช่น คลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) และลวดเสียบกระดาษ (Paper Clips) ขนาดกลางใช้บุคลากรประมาณ 120 คน ประกอบด้วย
1.!พนักงานในโรงงานประกอบด้วย
1.1 หัวหน้าโรงงาน จำนวน 1 คน
1.2 ช่างฝีมือ จำนวน 100 คน
2. พนักงานในสำนักงาน จำนวน 17 คน
3. พนักงานบริหาร จำนวน 2 คน
ค่าใช้จ่ายต่อปี
ต้นทุนขาย
1. ต้นทุนวัตถุดิบ 21,000,000 บาทต่อปี
2. ต้นทุนแรงงาน 6,300,000 บาทต่อปี
3. ต้นทุนค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร 320,000 บาทต่อปี
4. ต้นทุนค่าโสหุ้ยการผลิต 3,180,000 บาทต่อปี
4.1 สาธารณูปโภค
- ค่าน้ำ 300,000 บาทต่อปี
- ค่าไฟ 2,400,000 บาทต่อปี
- ค่าโทรศัพท์ 120,000 บาทต่อปี
4.2 ค่าขนส่ง
- ยานพาหนะและน้ำมัน 360,000 บาทต่อปี
กำไรเฉลี่ย ประมาณร้อยละ 30 ของยอดขาย
หมายเหตุ: รายได้ประมาณ 40 ล้านบาทต่อปี
ภาคผนวก
แหล่งขายเครื่องจักร รายชื่อผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย
บริษัท ที่อยู่
บริษัท ตากสินสตีล แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด 32/1 ถนนตากสิน ดาวคนอง กรุงเทพฯ โทร.468-1521
หรือ 896-2223-6 โทรสาร. 468-1654
บริษัท โปรคิวร์เมนต์ เซนเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 61/38 ถ.ศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250 โทร. 322-7201-3 โทรสาร. 322-7204
บริษัท ไวร์เทค จำกัด 230/14 เชิงสะพานกรุงเทพ ฝั่งพระนคร เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ โทร./ โทรสาร 289-1054, 289-4998
บริษัท เจิ้นจี้ แมชชินเนอรี่ จำกัด 428-430 ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600
โทร. 437-9212-4 โทรสาร. 437-0981
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด--จบ--
-ชต-
ความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็ก เช่น คลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) และลวดเสียบกระดาษ (Paper Clips) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นไปตาม ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวและปริมาณสำนักงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศถึงร้อยละ 90 ในปี 2542-2543 คาดว่าภาวะอุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการตั้งสำนักงานเพิ่มขึ้นรวมถึงการที่ผู้ประกอบการยังคงเน้นคุณภาพสินค้าให้มีคุณภาพสูงกว่าคู่แข่งจากต่างประเทศโดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่มีราคาถูกกว่าแต่คุณภาพต่ำกว่า จึงคาดว่าความต้องการในประเทศในปี 2542-2543 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และร้อยละ 15 ตามลำดับ มูลค่าส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 55.84 โดยส่งออกไปยังฝรั่งเศสร้อยละ 31.9 รองลงมาได้แก่ สิงคโปร์และออสเตรเลียร้อยละ 8.99 และ 5.96 ตามลำดับ คาดว่ามูลค่าส่งออกทั้งปี 2542 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ในปี 2543 การนำเข้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 ปรับตัวลดลงร้อยละ 27.61 โดยส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้าจากจีนถึงร้อยละ 39.58 รองลงมาได้แก่ ไต้หวันและญี่ปุ่นร้อยละ 14.0 คาดว่าการนำเข้าทั้งปี 2542 จะลดลงร้อยละ 12.7 ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 5 ในปี 2543 ตามความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กราคาถูกจากประเทศจีน ผู้ผลิตมีจำนวนประมาณ 10 รายและส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตขนาดกลางและย่อม โดยมีช่องทางการจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้า ร้านเครื่องเขียนทั่วไปและขายผ่านตัวแทนจำหน่าย
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะประเภทคลิบหนีบกระดาษ ได้แก่ เหล็กสปริงและลวด ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบ รองลงมาเป็นค่าโสหุ้ยการผลิตและค่าแรงงาน โดยมีกรรมวิธีการผลิตด้วยการนำเหล็กสปริงเข้า เครื่องปั๊มให้ได้ขนาดแล้วนำไปชุบแข็งและอบเพื่อให้ได้ความแข็งตามต้องการแล้วจึงนำไปชุบสี หลังจากนั้นนำไปประกอบกับส่วนขาที่นำเส้นลวดเข้าเครื่องดัดและตัดสำเร็จ ในกระบวนการผลิต ใช้เครื่องปั๊มเหล็ก (Press Machine) แม่พิมพ์สำหรับตัดเหล็ก (Progressive Dies Machine) และ เครื่องดัดและตัดเส้นลวด
กรณีการลงทุนขนาดผลิต 800 ตันต่อปี โดยใช้ชั่วโมงการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน เงินทุนเริ่มต้นประมาณ 30 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ใช้ในการลงทุนสินทรัพย์ถาวรและเครื่องจักร ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในส่วนของค่าใช้จ่ายต่อปีส่วนใหญ่เป็นต้นทุนวัตถุดิบ รองลงมาเป็นค่าโสหุ้ยการผลิตซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นค่าไฟฟ้า นอกนั้นเป็นต้นทุนแรงงานและค่าเสื่อมเครื่องจักร
การตลาด
ความต้องการในปัจจุบันและอนาคต
ความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็ก เช่น คลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) ลวดเสียบกระดาษ (Paper Clips) และลวดเย็บกระดาษ เป็นต้น เพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวและปริมาณสำนักงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง อุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายใน ประเทศถึงร้อยละ 90 โดยความต้องการในประเทศในปี 2539 ขยายตัวร้อยละ 23.4 คิดเป็นมูล
ค่าประมาณ 650 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2540-2541 เศรษฐกิจของประเทศเริ่มซบเซามีการปิดกิจการของผู้ประกอบการหลายราย ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องใช้สำนักงานในประเทศส่งผลให้ความต้องในประเทศขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเหลือเพียงร้อยละ 7.7 และ 2.9 คิดเป็น 700 ล้านบาทและ 720 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ในปี 2542-2543 คาดว่าภาวะอุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการตั้งสำนักงานและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจึงคาดว่าความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะในประเทศปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการที่ผู้ประกอบการยังคงเน้นคุณภาพสินค้าให้มีคุณภาพสูงกว่าคู่แข่งจากต่างประเทศโดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่มีราคาถูกกว่าแต่คุณภาพต่ำกว่า จึงคาดว่าความต้องการในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และร้อยละ 15 คิดเป็น 790 ล้านบาทและ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ
นอกจากความต้องการในประเทศที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องแล้วทางด้านการส่งออกเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดย ในปี 2538 มีมูลค่าส่งออก 58.51 ล้านบาทเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 89.59 ในปี 2539 และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงร้อยละ 116.3 เป็น 147.89 ล้านบาท ในปี 2540 ส่วนมูลค่าส่งออกในปี 2541 ปรับตัวลดลงร้อยละ 22.03 เนื่องจากสินค้าจีนเข้ามาแข่งขันในตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มูลค่าส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 55.84 โดยส่งออกไปยังฝรั่งเศสร้อยละ 31.9 รองลงมาได้แก่ สิงคโปร์และออสเตรเลียร้อยละ 8.99 และ 5.96 ตามลำดับ คาดว่ามูลค่าส่งออกทั้งปี 2542 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 เป็น 190 ล้านบาทและเพิ่มขึ้นเป็น 228 ล้านบาทหรือขยายตัวร้อยละ 20 ในปี 2543 ในขณะที่การนำเข้าปรับ ตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากการผลิตได้เองในประเทศ โดยมูลค่านำเข้าชะลอลงในปี 2540 เป็น 110.49 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 8.36 ส่วนมูลค่านำเข้าในปี 2541 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 34.79 จาก การที่ตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่มีการนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อมาจำหน่ายในประเทศเนื่องจากสินค้ามี ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามการนำเข้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2542 ปรับตัวลดลงร้อยละ 27.61 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากระดับราคาที่ลดลงเป็นหลัก ปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงร้อยละ 97 โดยส่วนใหญ่ยังเป็น การนำเข้าจากจีนถึงร้อยละ 39.58 รองลงมาได้แก่ ไต้หวันและญี่ปุ่น ร้อยละ 14.0 คาดว่าการนำเข้าทั้งปี 2542 จะลดลงร้อยละ 12.7 เป็น 130 ล้านบาทก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 5 เป็น 139.8 ล้านบาทในปี 2543 ตามสภาพเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นและความต้องการเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กราคาถูกจากประเทศจีนยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตามจากความต้องการเครื่องใช้สำนักงานในประเทศที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และการส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในขณะที่การนำเข้าลดลง ดังนั้นอุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะจึงยังคงเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มดีในอนาคต
ผู้ผลิตในปัจจุบัน (คู่แข่ง)
อุตสาหกรรมเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะของไทยส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศแต่จำนวนผู้ผลิตมีน้อยกว่าจำนวนของผู้แทนจำหน่าย ทั้งนี้เนื่องจากการผลิตเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะมีมูลค่าตลาดไม่สูงมากนักและผู้ผลิตควรมีการผลิตที่ครบวงจรจึงจะคุ้มทุน ผู้ผลิตในปัจจุบัน เช่น บริษัท สหสิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ใช้เครื่องหมายการค้า UA และ บริษัท
ออร์ก้า (ประเทศไทย) จำกัด เครื่องหมายการค้ารูปปลาฉลาม เป็นต้น ส่วนจำนวนรายชื่อผู้ประกอบการเครื่องใช้สำนักงานขนาดเล็กที่ทำด้วยโลหะของกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีเพียง 3 รายเท่านั้นแต่จากการสำรวจตามแหล่งขายเครื่องเขียนทั่วไปพบว่ามีผู้ผลิตจำนวนประมาณ 10 รายและส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตขนาดกลางและย่อม
รายชื่อผู้ประกอบการสำคัญ
ขนาดกลางและย่อม เงินทุนจดทะเบียน (บาท)
บริษัท นิจิ (ประเทศไทย) จำกัด 112,000,000
บริษัท บางกอกไฮเทคอินดัสทรี (1995) จำกัด 84,500,000
บริษัท ไทยยงเกียรติ์ อินดัสทรี จำกัด 31,000,000
บริษัท สหสิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 30,000,000
บริษัท แอ็คไทร้ย์ จำกัด 7,500,000
บริษัท ออร์ก้า (ประเทศไทย) จำกัด 5,000,000
บริษัท เจ.ซี.ซี. จำกัด 4,000,000
บริษัท ฟอร์จูน ดีไซน์ จำกัด 800,000
ที่มา: กรมโรงงานอุตสาหกรรม
ช่องทางการจำหน่าย
ช่องทางการจำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กในประเทศนั้น ผู้ประกอบการสามารถใช้ช่องทางการจำหน่ายได้หลายรูปแบบ ดังนี้
1. ห้างสรรพสินค้า โดยวางขายรวมอยู่ในแผนกเครื่องเขียนในห้างสรรพสินค้าทั่วไป
2. ดิสเคาสโตร์ เช่น แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ และ ออฟฟิศ ดีโป เป็นต้น
3. ร้านเครื่องเขียนทั่วไป
4.! ขายผ่านตัวแทนจำหน่าย
การผลิต
วัตถุดิบที่ใช้และแหล่งวัตถุดิบ วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะขนาดเล็กประเภทคลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) ได้แก่ เหล็กสปริงและลวด ซึ่งต้องนำเข้าเหล็กสปริงจากต่างประเทศทั้งหมดโดยผ่านบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่นำเข้า ส่วนการผลิตลวด เสียบกระดาษ (Paper Clips) สามารถหาซื้อลวดได้ในประเทศ
โครงสร้างต้นทุนการผลิต
ประเภท สัดส่วน (%)
1. วัตถุดิบ !50
- วัตถุดิบในประเทศ !30
- วัตถุดิบนำเข้า !70
!2. ค่าแรงงาน !15
!3. ค่าเสื่อมราคา !10
!4. ค่าโสหุ้ยการผลิต !25
!รวม !100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
กรรมวิธีการผลิต
กรรมวิธีการผลิตเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะประเภทคลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips)
ขั้นที่ 1 กรรมวิธีการผลิตส่วนตัว Double Clips
เตรียมเหล็กแผ่นประเภทเหล็กสปริง
นำแผ่นเหล็กเข้าเครื่องปั๊ม
(Progressive Dies Machine)
นำตัวคลิปเข้าเครื่องชุบแข็ง
นำตัวคลิปเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิ
900 องศาเซลเซียส
นำตัวคลิปชุปในน้ำมันชุบแข็ง
!อบซ้ำด้วยเตาอบคืนไฟเพื่อลดความ
แข็งให้ได้ตามมาตรฐาน
!
!ปั๊มตัวคลิปอีกครั้งเพื่อเพิ่มแรงสปริง
!อบซ้ำด้วยเตาอบคืนไฟเพื่อลดความ
แข็งให้ได้ตามมาตรฐานอีกครั้ง
!นำตัวคลิปไปชุบสี
ขั้นที่ 2 กระบวนการผลิตขาของ Double Clips
!นำเส้นลวดเข้าเครื่องดัดและตัด
!นำเส้นลวด ไปชุบนิกเกิ้ล
ขั้นที่ 3 นำตัว Double Clips ประกอบกับส่วนขา
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบและบรรจุกล่อง
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
เครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต
เครื่องจักร (เครื่องมือและอุปกรณ์) ที่ใช้ในธุรกิจการประกอบเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะประเภทคลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) ได้แก่ เครื่องปั๊มเหล็ก (Press Machine) แม่พิมพ์สำหรับตัดเหล็ก (Progressive Dies Machine) และเครื่องดัดและตัดเส้นลวด
การลงทุนและการเงิน
ในการลงทุนอุตสาหกรรมประกอบเครื่องใช้สำนักงานที่ทำด้วยโลหะควรตั้งอยู่บริเวณชานเมืองเนื่องจากในกระบวนการผลิตของเครื่องจักรอาจก่อให้เกิดเสียงดัง กรณีการลงทุนขนาดผลิต 800 ตันต่อปี โดยใช้ชั่วโมงการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน ประกอบด้วยเงินลงทุนและอุปกรณ์ประมาณการเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
เงินทุน
1. เงินทุนจดทะเบียนและเงินทุนเริ่มต้น 30,000,000 บาท
2. ขนาดเงินทุนในสินทรัพย์ถาวร ได้แก่ ค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2,400,000 บาท
3. ค่าเครื่องจักร 3,200,000 บาท
4. ค่ายานพาหนะ 800,000 บาท
5. เงินทุนหมุนเวียน 24,320,000 บาท
บุคลากร ธุรกิจการประกอบเครื่องใช้สำนักงานประเภทโลหะขนาดเล็ก เช่น คลิบหนีบกระดาษ (Double Clips or Binder Clips) และลวดเสียบกระดาษ (Paper Clips) ขนาดกลางใช้บุคลากรประมาณ 120 คน ประกอบด้วย
1.!พนักงานในโรงงานประกอบด้วย
1.1 หัวหน้าโรงงาน จำนวน 1 คน
1.2 ช่างฝีมือ จำนวน 100 คน
2. พนักงานในสำนักงาน จำนวน 17 คน
3. พนักงานบริหาร จำนวน 2 คน
ค่าใช้จ่ายต่อปี
ต้นทุนขาย
1. ต้นทุนวัตถุดิบ 21,000,000 บาทต่อปี
2. ต้นทุนแรงงาน 6,300,000 บาทต่อปี
3. ต้นทุนค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร 320,000 บาทต่อปี
4. ต้นทุนค่าโสหุ้ยการผลิต 3,180,000 บาทต่อปี
4.1 สาธารณูปโภค
- ค่าน้ำ 300,000 บาทต่อปี
- ค่าไฟ 2,400,000 บาทต่อปี
- ค่าโทรศัพท์ 120,000 บาทต่อปี
4.2 ค่าขนส่ง
- ยานพาหนะและน้ำมัน 360,000 บาทต่อปี
กำไรเฉลี่ย ประมาณร้อยละ 30 ของยอดขาย
หมายเหตุ: รายได้ประมาณ 40 ล้านบาทต่อปี
ภาคผนวก
แหล่งขายเครื่องจักร รายชื่อผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย
บริษัท ที่อยู่
บริษัท ตากสินสตีล แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด 32/1 ถนนตากสิน ดาวคนอง กรุงเทพฯ โทร.468-1521
หรือ 896-2223-6 โทรสาร. 468-1654
บริษัท โปรคิวร์เมนต์ เซนเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 61/38 ถ.ศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250 โทร. 322-7201-3 โทรสาร. 322-7204
บริษัท ไวร์เทค จำกัด 230/14 เชิงสะพานกรุงเทพ ฝั่งพระนคร เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ โทร./ โทรสาร 289-1054, 289-4998
บริษัท เจิ้นจี้ แมชชินเนอรี่ จำกัด 428-430 ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600
โทร. 437-9212-4 โทรสาร. 437-0981
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด--จบ--
-ชต-