ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะธุรกรรมตลาดซื้อคืนประจำเดือนพฤศจิกายน 2543 เฉลี่ย 3.7 หมื่นล้านบาทต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย และส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายในระยะสั้น
นายโอบเอื้อ ครุฑานุช ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารมวลชน ในฐานะรองโฆษกธปท. เปิดเผยว่าในเดือนพฤศจิกายน 2543 ที่ผ่านมา ปริมาณธุรกรรมในตลาดซื้อคืนเดือนพฤศจิกายน 2543 ลดลงจากเดือนก่อนซึ่งมีมูลค่าเฉลี่ยวันละ 4.0 หมื่นล้านบาท เป็นประมาณวันละ 3.7 หมื่นล้านบาท ธุรกรรมส่วนใหญ่ยังคงเป็นการซื้อขายประเภทระยะ 1-14 วัน ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ความต้องการซื้อขายประเภทระยะ 1 วันเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นรวดเร็วกว่าระยะอื่นจากร้อยละ 1.0 ต่อปี ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2543 ไปสูงสุดที่ร้อยละ 2.375 ต่อปี ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2543 ทั้งนี้เป็นผลเนื่องจากความต้องการกู้ยืมเพื่อชำระดุลในระบบบาทเนตที่ค่อนข้างสูง จากการที่สถาบันการเงินปรับตัวไม่ทันต่อกฎเกณฑ์ด้านธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของ ธปท. อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยประเภทระยะ 1 วัน ได้กลับอ่อนตัวลงมาเป็นร้อยละ 1.375 ต่อปี ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของเดือน ภายหลังจากที่ ธปท.ได้ดำเนินการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ชั่วคราวในระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2543 เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อการชำระดุลในระบบบาทเนตให้ลื่นไหลได้ดีขึ้น สำหรับประเภทระยะ 7 วัน ธุรกรรมยังคงเบาบาง อัตราดอกเบี้ยขึ้นลงตามระยะ 1 วัน และอยู่ในช่วงร้อยละ 1.0-1.75 ต่อปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยส่งสัญญาณนโยบายการเงินคือระยะ 14 วัน ยังคงเดิมที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตามมติคณะกรรมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2543 ที่ผ่านมา ธุรกรรมประเภทระยะ 1 เดือน 2 เดือน และ 3 เดือนเบาบางมาก อัตราดอกเบี้ยเคลื่อนไหวในช่วงแคบเช่นเดียวกับเดือนก่อนที่ร้อยละ 2.0-2.0625, 2.375 และ 2.4375 ต่อปี ตามลำดับ ประเภทระยะ 6 เดือนไม่มีการซื้อขายมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2542
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/7 ธันวาคม 2543--
-ยก-
นายโอบเอื้อ ครุฑานุช ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารมวลชน ในฐานะรองโฆษกธปท. เปิดเผยว่าในเดือนพฤศจิกายน 2543 ที่ผ่านมา ปริมาณธุรกรรมในตลาดซื้อคืนเดือนพฤศจิกายน 2543 ลดลงจากเดือนก่อนซึ่งมีมูลค่าเฉลี่ยวันละ 4.0 หมื่นล้านบาท เป็นประมาณวันละ 3.7 หมื่นล้านบาท ธุรกรรมส่วนใหญ่ยังคงเป็นการซื้อขายประเภทระยะ 1-14 วัน ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ความต้องการซื้อขายประเภทระยะ 1 วันเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นรวดเร็วกว่าระยะอื่นจากร้อยละ 1.0 ต่อปี ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2543 ไปสูงสุดที่ร้อยละ 2.375 ต่อปี ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2543 ทั้งนี้เป็นผลเนื่องจากความต้องการกู้ยืมเพื่อชำระดุลในระบบบาทเนตที่ค่อนข้างสูง จากการที่สถาบันการเงินปรับตัวไม่ทันต่อกฎเกณฑ์ด้านธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของ ธปท. อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยประเภทระยะ 1 วัน ได้กลับอ่อนตัวลงมาเป็นร้อยละ 1.375 ต่อปี ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของเดือน ภายหลังจากที่ ธปท.ได้ดำเนินการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ชั่วคราวในระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2543 เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อการชำระดุลในระบบบาทเนตให้ลื่นไหลได้ดีขึ้น สำหรับประเภทระยะ 7 วัน ธุรกรรมยังคงเบาบาง อัตราดอกเบี้ยขึ้นลงตามระยะ 1 วัน และอยู่ในช่วงร้อยละ 1.0-1.75 ต่อปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยส่งสัญญาณนโยบายการเงินคือระยะ 14 วัน ยังคงเดิมที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตามมติคณะกรรมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2543 ที่ผ่านมา ธุรกรรมประเภทระยะ 1 เดือน 2 เดือน และ 3 เดือนเบาบางมาก อัตราดอกเบี้ยเคลื่อนไหวในช่วงแคบเช่นเดียวกับเดือนก่อนที่ร้อยละ 2.0-2.0625, 2.375 และ 2.4375 ต่อปี ตามลำดับ ประเภทระยะ 6 เดือนไม่มีการซื้อขายมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2542
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/7 ธันวาคม 2543--
-ยก-