นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมใหญ ่ของพรรคประชาธิปัตย์ว่าการ จัดการประชุมให่นั้นต้องเรียนก่อนว่าความจริงแล้ว เป็นการจัดประชุมใหญ ่สามัประจำปีซึ่งจะต้องจะให้มี ขึ้นตามข้อบังคับพรรค ซึ่งออกตามความในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองทุกปี แต่ว่าทาง พรรคประชาธิปัตย์เองเราได้พิจารณาว่า การประชุมให่สามัญ ประจำปีในแต่ละปีก็น่าที่จะเป็นโอกาสที่พรรค จะ ได้ถือโอกาสนั้นเชื้อเชิญ บรรดาสมาชิกผู้สังเกตการณ์ ของพรรคจากทั่วประเทศรวมทั้งกรรมการในสาขา พรรคต่าง ๆ ให้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ประชุมให่ และนอกจากสังเกตการณ์ประชุมให่แล้ว ควรที่จะต้อง ให้มีการจัดกิจกรรม เพื่อที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานแนวทางการดำเนินงานของพรรค ให้กับสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุน และก็ประชาชนทั่วไป ได้รับทราบด้วย ดังนั้นในปีนี้พรรคก็เลยจัดให้มีกิจกรรมเสริมพิเศษขึ้นนอก เหนือจากการจัดการประชุมให่ โดยกิจกรรมที่จัดเสริมพิเศษนี้ก็จะจัดทั้ง 2 วัน คือกำหนดจัดในวันที่ 22-23 เมษายน 2543
ในวันที่ 22 เมษายน 2543 นั้น ก็จะเป็นวันที่สมาชิกพรรคจากทั่วประเทศรวมทั้งกรรมการบริหารสาขาพรรค ต่างจะเดินทางมาถึง โดยทางพรรคจะได้จัดที่พักไว้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้า พรรครวมทั้งสิ้นประมาณ 8,000 คน ในตอนเย็นของวันที่ 22 เมษายน 2543 ที่นั้นก็จะมีงานเลี้ยงต้อนรับ ซึ่ง ในงานเลี้ยงตอนรับนี้เราก็จะเน้นความประหยัด ความเรียบง่ายและก็ความสามัคคี โดยจะมีซุ้มอาหาร ซึ่งส.ส. แต่ละท่านของพรรคกับรัฐมนตรีจำนวน 100 กว่าท่านก็จะบริจาคเงินเพื่อที่จะจัดซุ้มอาหารมาประมาณ 100 กว่าซุ้ม ก็จัดเป็นลักษณะบุปเฟ่ ดังนั้นสมาชิกต่าง ๆ ก็จะเข้าร่วมในงานเลี้ยงต้อนรับ ซึ่งจะเริ่มในเวลา 6 โมงเย็น ที่ลานพานาค โดยกิจกรรมที่จัดให้มีในงานเลี้ยงตอนรับจะมีอยู่ 2 ประการ 1. จะจัดให้มีการออกร้านของบรรดาแม่บ้านประชาธิปัตย์ ต่าง ๆ จากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะนำของ ซึ่งเป็นของพื้นบ้านต่าง ๆ มาจำหน่าย รวมทั้งจะมีของที่ระลึกของพรรคด้วย 2. การแสดงบนเวทีจะมีการ แสดงสามัคคี 4 ภาค แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีกันของสมาชิกและคนในพรรค ประชาธิปัตย์ กิจกรรมบนเวทีที่สำคั ซึ่งจะเริ่มเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ก็คือการปราศรัยทางการเมือง ซึ่งอันนี้ถือ เป็นวัฒนธรรม ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ โดยผู้ปราศรัยบนเวทีจะมีทั้งหมด 6 ท่าน เริ่มต้นจากท่าน บัญญัติ บรรทัดฐาน รองหัวหน้าพรรค จะได้กล่าวต้อนรับและกล่าวปราศรัยกับผู้ร่วมงานถัดจากนั้นก็จะเป็นรอง หัวหน้าพรรคพรรคแต่ละภาค จะขึ้นมาปราศรัยพบปะกับพี่น้องประชาชน เริ่มจากภาคอีสานโดยท่านสุทัศน์ เงินหมื่น ต่อด้วยภาคเหนือ โดยท่านเทอดพงษ์ ไชยนันท์ ภาคกลาง โดยท่านดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ กทม. โดยคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และก็ภาคใต้โดยท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ และก็จะมีการแสดงของแต่ละภาค สลับกันไปจน กระทั่งปิดงานในเวลา 4 ทุ่ม สำหรับทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมภาคกลางคืน
อันนี้ก็เป็นกิจกรรม วันแรกของวันที่ 22 เมษายน 2543 ซึ่งมีกิจกรรมเฉพาะในส่วนภาคกลางคืน และในส่วน วันนี้จะมีกิจกรรมพิเศษอีกอันหนึ่ง คือจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารสาขาพรรคจาก 141 สาขาทั่ว ประเทศ ซึ่งอันนี้จะจัดให้มีขึ้นตอนกลางวันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต แต่ว่ากิจกรรมให่จริง ๆ คือ การประชุมให่นั้นอยู่ในวันอาทิตย์ครับ ก็คือวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2543 ซึ่งสถานที่ที่จัดนั้นเราได้ไปเช่า สถานที่ไว้ที่อาคารอิมแพคเมืองทองธานี ถ.แจ้งวัฒนะ โดยในการจัดประชุมใหญ่ในครั้งนี้กิจกรรมจะแบ่งออก เป็น 3 ส่วนครับ
ส่วนที่ 1 ก็คือกิจกรรมนอกห้องประชุมนั้นก็คือเราจะจัดให้มีนิทรรศการครับ ก็จะมีนิทรรศการภาพเก่า ๆ ของ พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการจัดแสดงโต๊ะประวัติศาสตร์ของพรรค ซึ่งเป็นโต๊ะที่คณะผู้ก่อการตั้งพรรคจำนวน ทั้งสิ้น 9 ท่านได้ประชุมกันเมื่อ 54 ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้นำมามอบให้กับพรรคเมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมานอกจาก นั้นก็จะมีภาพยนต์ 16 มิลลิเมตร ซึ่งมีคนถ่ายเอาไว้ในสมัยปี 2518 ซึ่งเป็นการไปออกหาเสียงของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมทย์ อดีตหัวหน้าพรรตประชาธิปัตย์ และก็ท่านพิชัย รัตตกุล รวมทั้ง ส.ส. หลายท่าน โดยเราได้ทำเป็น รูปแบบ VDO เพื่อนำเสนอ รวมทั้งมีนิทรรศการที่เกี่ยวกับสาขาพรรค นิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการ การเลือกตั้ง นอกจากนั้นก็จะมีนิทรรศการของรัฐมนตรีของพรรคเกี่ยวกับผลงานของรัฐมนตรีแต ่ละท่านตั้งเรียง รายรอบห้องประชุม เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาร่วมประชุมสังเกตการณ์ได้เห็นด้วย นอกจากนั้นในห้องประชุมก็จะมีการ จัดจำหน่ายของที่ระลึกพรรคสำหรับผู้ที่สนใจ ที่สำคัญ ในวันนี้เราจะมีการจัดทำสารประชาธิปัตย์ เป็นฉบับต้อน รับการประชุมให่ของพรรคออกแจกจ่ายในวันนั้นด้วย สารประชาธิปัตย์ฉบับนี้ก็จะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผล งานของพรรคประชาธิปัตย์ กับประวัติศาสตร์ของพรรคเป็นพิเศษ
ส่วนกิจกรรมภายในห้องประชุมจะมี 2 ส่วน ในภาคเช้าจะเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งจะมีวาระประชุมเช่น การรับรองงบดุลประจำปี มีการรับรองการแก้ไขข้อบังคับพรรค การรับรองรายงาน ของคณะ กรรมการบริหารพรรคประจำปี 2542 เป็นต้น
ซึ่งวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเป็นประธานในที่ประชุม จบจากภาคเช้าของการ ประชุมให่ เวลาประมาณสักประมาณเกือบ ๆ เที่ยงจะมีการจัดอาหารไว้รองรับผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งคาดว่า จะมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 12,000 คนไว้ทางด้านห้องโถงใกล้ ๆ กับห้องประชุมที่ เมืองทองธานี เสร็จจากนั้น แล้วในภาคบ่ายก็จะเป็นกิจกรรมที่เราเสริมขึ้นมา เนื่องจากเราเห็นว่าการประชุมให่ครั้งนี้นั้นก็จะเป็นโอกาส ที่จะบอกเล่าในฐานะที่เป็นรัฐบาลว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง และก็จะได้ประกาศถึงแนวทางที่เราจะได้เดินต่อไป แล้วก็ช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่ใกล้กับการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ด้วย ก็จะเป็นเวลาที่พรรคจะได้ประกาศความพร้อม ว่าพรรคประชาธิปัตย์เราพร้อมแล้วที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ในภาคบ่ายงานจะเริ่มเวลา 13.30 น. ครับเราจะเริ่มต้นโดยรายการพบว่าที่ผู้ว่ากทม.ฯ จะเป็นการเปิดตัวปราศรัยที่ประชุมให่ครั้งแรก ของคุณ ธวัชชัย สัจจกุล ซึ่งเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งจากพรรค ให้ไปลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกทม. เสร็จจาก นั้นจะเป็น VDO ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงผลงานของพรรค ทั้งในส่วนที่เป็นฝ่ายค้านและเป็นรัฐบาล โดย เฉพาะเราได้เป็นรัฐบาลในช่วง 2 ปีเศษ มีรัฐมนตรี 20 กว่าท่านเราทำอะไรไปบ้าง จบจากนั้นแล้วก็จะเป็น การอภิปรายซึ่งเราได้จะตามนโยบายเรื่องภาคเกษตร ของพรรคประชาธิปัตย์มาพูดกันเป็นการเฉพาะ แต่เรา เห็นว่าเรื่องเกษตรฯนั้นเป็นเรื่องของคนมากกว่าครึ่งค่อนประเทศ แล้วเป็นเเรื่องซึ่งจะมีการต่อสู้กันมากในเชิง นโยบาย ในการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาธิปัตย์ก็จะชี้ให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเราสนใจภาคเกษตรมาเป็นเวลานาน นโยบายหลายอย่างที่ทำไปก็บรรลุผลแล้วต่อไปข้างหน้าเราก็จะเก็บถึงเรื่องเก ษตรฯ ในฐานะที่เป็นแนวทาง พัฒนาประเทศ เป็นแนวทางหลักให้เห็นชัดเจน โดยผู้อภิปรายทั้งสิ้น 4 ท่าน ก็คือ 1. ท่านดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 2. คุณธารินทร์ นิมมานเหมินท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 3. คุณพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 4. คุณอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ
โดยมีคุณจุติ ไกรกฤษ์ เป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการ จากนั้นก็จะเป็นรายการสำคัก็คือเป็นปาฐกถาพิเศษของ ท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คือท่านชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะปาฐกถาพิเศษต่อที่ประชุมใหญ ่เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จนถึง 16.00 น. แล้วทางพรรคก็ได้ซื้อเวลาจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 9 ถ่าย ทอดสดให้กับสมาชิกพรรค แล้วก็ผู้ชมทั่วประเทศได้ชมด้วยเนื่องจากหลายท่านไม่สามารถมาร่วมประชุม ได้ อันนี้ก็เป็นกิจกรรมทั้ง 2 วันครับ ผมเรียนเพิ่มเติมอีกนิดครับก็คือว่าแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้เราให้ ชื่อว่าประชาชน ประชาธิปไตย ประชาธิปัตย์ ซึ่งความหมายของเราก็คือ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ก็คือประชาชนนั้นก่อให้เกิดระบอบประชาธิปไตย และภายใต้ระบอบประชาธิปไตยนั้นก็จะมีพรรคประชา ธิปัตย์ซึ่งอยู่เคียงคู่กับสังคมไทยและระบอบประชาธิปไตยกว่า 54 ปี วันนี้ก้าวเดินของพรรคนั้นเป็นก้าวเดิน บนหนทางที่เคียงคู่กับสังคมไทยและประชาธิปไตยมาโดยตลอด.--จบ--
ในวันที่ 22 เมษายน 2543 นั้น ก็จะเป็นวันที่สมาชิกพรรคจากทั่วประเทศรวมทั้งกรรมการบริหารสาขาพรรค ต่างจะเดินทางมาถึง โดยทางพรรคจะได้จัดที่พักไว้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้า พรรครวมทั้งสิ้นประมาณ 8,000 คน ในตอนเย็นของวันที่ 22 เมษายน 2543 ที่นั้นก็จะมีงานเลี้ยงต้อนรับ ซึ่ง ในงานเลี้ยงตอนรับนี้เราก็จะเน้นความประหยัด ความเรียบง่ายและก็ความสามัคคี โดยจะมีซุ้มอาหาร ซึ่งส.ส. แต่ละท่านของพรรคกับรัฐมนตรีจำนวน 100 กว่าท่านก็จะบริจาคเงินเพื่อที่จะจัดซุ้มอาหารมาประมาณ 100 กว่าซุ้ม ก็จัดเป็นลักษณะบุปเฟ่ ดังนั้นสมาชิกต่าง ๆ ก็จะเข้าร่วมในงานเลี้ยงต้อนรับ ซึ่งจะเริ่มในเวลา 6 โมงเย็น ที่ลานพานาค โดยกิจกรรมที่จัดให้มีในงานเลี้ยงตอนรับจะมีอยู่ 2 ประการ 1. จะจัดให้มีการออกร้านของบรรดาแม่บ้านประชาธิปัตย์ ต่าง ๆ จากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะนำของ ซึ่งเป็นของพื้นบ้านต่าง ๆ มาจำหน่าย รวมทั้งจะมีของที่ระลึกของพรรคด้วย 2. การแสดงบนเวทีจะมีการ แสดงสามัคคี 4 ภาค แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีกันของสมาชิกและคนในพรรค ประชาธิปัตย์ กิจกรรมบนเวทีที่สำคั ซึ่งจะเริ่มเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ก็คือการปราศรัยทางการเมือง ซึ่งอันนี้ถือ เป็นวัฒนธรรม ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ โดยผู้ปราศรัยบนเวทีจะมีทั้งหมด 6 ท่าน เริ่มต้นจากท่าน บัญญัติ บรรทัดฐาน รองหัวหน้าพรรค จะได้กล่าวต้อนรับและกล่าวปราศรัยกับผู้ร่วมงานถัดจากนั้นก็จะเป็นรอง หัวหน้าพรรคพรรคแต่ละภาค จะขึ้นมาปราศรัยพบปะกับพี่น้องประชาชน เริ่มจากภาคอีสานโดยท่านสุทัศน์ เงินหมื่น ต่อด้วยภาคเหนือ โดยท่านเทอดพงษ์ ไชยนันท์ ภาคกลาง โดยท่านดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ กทม. โดยคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และก็ภาคใต้โดยท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ และก็จะมีการแสดงของแต่ละภาค สลับกันไปจน กระทั่งปิดงานในเวลา 4 ทุ่ม สำหรับทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมภาคกลางคืน
อันนี้ก็เป็นกิจกรรม วันแรกของวันที่ 22 เมษายน 2543 ซึ่งมีกิจกรรมเฉพาะในส่วนภาคกลางคืน และในส่วน วันนี้จะมีกิจกรรมพิเศษอีกอันหนึ่ง คือจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารสาขาพรรคจาก 141 สาขาทั่ว ประเทศ ซึ่งอันนี้จะจัดให้มีขึ้นตอนกลางวันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต แต่ว่ากิจกรรมให่จริง ๆ คือ การประชุมให่นั้นอยู่ในวันอาทิตย์ครับ ก็คือวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2543 ซึ่งสถานที่ที่จัดนั้นเราได้ไปเช่า สถานที่ไว้ที่อาคารอิมแพคเมืองทองธานี ถ.แจ้งวัฒนะ โดยในการจัดประชุมใหญ่ในครั้งนี้กิจกรรมจะแบ่งออก เป็น 3 ส่วนครับ
ส่วนที่ 1 ก็คือกิจกรรมนอกห้องประชุมนั้นก็คือเราจะจัดให้มีนิทรรศการครับ ก็จะมีนิทรรศการภาพเก่า ๆ ของ พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการจัดแสดงโต๊ะประวัติศาสตร์ของพรรค ซึ่งเป็นโต๊ะที่คณะผู้ก่อการตั้งพรรคจำนวน ทั้งสิ้น 9 ท่านได้ประชุมกันเมื่อ 54 ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้นำมามอบให้กับพรรคเมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมานอกจาก นั้นก็จะมีภาพยนต์ 16 มิลลิเมตร ซึ่งมีคนถ่ายเอาไว้ในสมัยปี 2518 ซึ่งเป็นการไปออกหาเสียงของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมทย์ อดีตหัวหน้าพรรตประชาธิปัตย์ และก็ท่านพิชัย รัตตกุล รวมทั้ง ส.ส. หลายท่าน โดยเราได้ทำเป็น รูปแบบ VDO เพื่อนำเสนอ รวมทั้งมีนิทรรศการที่เกี่ยวกับสาขาพรรค นิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการ การเลือกตั้ง นอกจากนั้นก็จะมีนิทรรศการของรัฐมนตรีของพรรคเกี่ยวกับผลงานของรัฐมนตรีแต ่ละท่านตั้งเรียง รายรอบห้องประชุม เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาร่วมประชุมสังเกตการณ์ได้เห็นด้วย นอกจากนั้นในห้องประชุมก็จะมีการ จัดจำหน่ายของที่ระลึกพรรคสำหรับผู้ที่สนใจ ที่สำคัญ ในวันนี้เราจะมีการจัดทำสารประชาธิปัตย์ เป็นฉบับต้อน รับการประชุมให่ของพรรคออกแจกจ่ายในวันนั้นด้วย สารประชาธิปัตย์ฉบับนี้ก็จะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผล งานของพรรคประชาธิปัตย์ กับประวัติศาสตร์ของพรรคเป็นพิเศษ
ส่วนกิจกรรมภายในห้องประชุมจะมี 2 ส่วน ในภาคเช้าจะเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งจะมีวาระประชุมเช่น การรับรองงบดุลประจำปี มีการรับรองการแก้ไขข้อบังคับพรรค การรับรองรายงาน ของคณะ กรรมการบริหารพรรคประจำปี 2542 เป็นต้น
ซึ่งวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเป็นประธานในที่ประชุม จบจากภาคเช้าของการ ประชุมให่ เวลาประมาณสักประมาณเกือบ ๆ เที่ยงจะมีการจัดอาหารไว้รองรับผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งคาดว่า จะมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 12,000 คนไว้ทางด้านห้องโถงใกล้ ๆ กับห้องประชุมที่ เมืองทองธานี เสร็จจากนั้น แล้วในภาคบ่ายก็จะเป็นกิจกรรมที่เราเสริมขึ้นมา เนื่องจากเราเห็นว่าการประชุมให่ครั้งนี้นั้นก็จะเป็นโอกาส ที่จะบอกเล่าในฐานะที่เป็นรัฐบาลว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง และก็จะได้ประกาศถึงแนวทางที่เราจะได้เดินต่อไป แล้วก็ช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่ใกล้กับการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ด้วย ก็จะเป็นเวลาที่พรรคจะได้ประกาศความพร้อม ว่าพรรคประชาธิปัตย์เราพร้อมแล้วที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ในภาคบ่ายงานจะเริ่มเวลา 13.30 น. ครับเราจะเริ่มต้นโดยรายการพบว่าที่ผู้ว่ากทม.ฯ จะเป็นการเปิดตัวปราศรัยที่ประชุมให่ครั้งแรก ของคุณ ธวัชชัย สัจจกุล ซึ่งเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งจากพรรค ให้ไปลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกทม. เสร็จจาก นั้นจะเป็น VDO ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงผลงานของพรรค ทั้งในส่วนที่เป็นฝ่ายค้านและเป็นรัฐบาล โดย เฉพาะเราได้เป็นรัฐบาลในช่วง 2 ปีเศษ มีรัฐมนตรี 20 กว่าท่านเราทำอะไรไปบ้าง จบจากนั้นแล้วก็จะเป็น การอภิปรายซึ่งเราได้จะตามนโยบายเรื่องภาคเกษตร ของพรรคประชาธิปัตย์มาพูดกันเป็นการเฉพาะ แต่เรา เห็นว่าเรื่องเกษตรฯนั้นเป็นเรื่องของคนมากกว่าครึ่งค่อนประเทศ แล้วเป็นเเรื่องซึ่งจะมีการต่อสู้กันมากในเชิง นโยบาย ในการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาธิปัตย์ก็จะชี้ให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเราสนใจภาคเกษตรมาเป็นเวลานาน นโยบายหลายอย่างที่ทำไปก็บรรลุผลแล้วต่อไปข้างหน้าเราก็จะเก็บถึงเรื่องเก ษตรฯ ในฐานะที่เป็นแนวทาง พัฒนาประเทศ เป็นแนวทางหลักให้เห็นชัดเจน โดยผู้อภิปรายทั้งสิ้น 4 ท่าน ก็คือ 1. ท่านดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 2. คุณธารินทร์ นิมมานเหมินท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 3. คุณพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 4. คุณอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ
โดยมีคุณจุติ ไกรกฤษ์ เป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการ จากนั้นก็จะเป็นรายการสำคัก็คือเป็นปาฐกถาพิเศษของ ท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คือท่านชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะปาฐกถาพิเศษต่อที่ประชุมใหญ ่เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จนถึง 16.00 น. แล้วทางพรรคก็ได้ซื้อเวลาจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 9 ถ่าย ทอดสดให้กับสมาชิกพรรค แล้วก็ผู้ชมทั่วประเทศได้ชมด้วยเนื่องจากหลายท่านไม่สามารถมาร่วมประชุม ได้ อันนี้ก็เป็นกิจกรรมทั้ง 2 วันครับ ผมเรียนเพิ่มเติมอีกนิดครับก็คือว่าแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้เราให้ ชื่อว่าประชาชน ประชาธิปไตย ประชาธิปัตย์ ซึ่งความหมายของเราก็คือ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน ก็คือประชาชนนั้นก่อให้เกิดระบอบประชาธิปไตย และภายใต้ระบอบประชาธิปไตยนั้นก็จะมีพรรคประชา ธิปัตย์ซึ่งอยู่เคียงคู่กับสังคมไทยและระบอบประชาธิปไตยกว่า 54 ปี วันนี้ก้าวเดินของพรรคนั้นเป็นก้าวเดิน บนหนทางที่เคียงคู่กับสังคมไทยและประชาธิปไตยมาโดยตลอด.--จบ--