นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเข้าร่วมการประชุม รัฐมนตรีการค้าเอเปค ระหว่างวันที่ 6-7 มิถุนายน 2543 ณ นครดาร์วิน ประเทศออสเตรเลีย โดยมี รัฐมนตรีการค้าเอเปค 21 ประเทศเข้าร่วมประชุม และมีนาย Mark Vaile รัฐมนตรีการค้าของ ออสเตรเลีย เป็นประธาน ผลการประชุม เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2543 ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุม สรุปได้ดังนี้
1. ที่ประชุมพิจารณาปัญหาที่เอเปคดำเนินการมา 10 ปี แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าประโยชน์ของ เอเปคเป็นอย่างไร ซึ่งออสเตรเลียได้รายงานผลของเอเปคต่อรายได้ประชาชาติ ความเป็นอยู่ และการจ้าง งานดีขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติให้เพิ่มเติมปรับปรุง รายงานในเรื่องนี้ให้สมบูรณ์ต่อไป และเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเรื่องนี้ทางอินเตอร์เนต (APEC website)
2. ที่ประชุมเห็นว่า การจัดทำแผนปฏิบัติการรายสมาชิก (Individual Action Plan : IAP) ยังไม่ชัดเจน และไม่เป็นประโยชน์ต่อวงการธุรกิจเท่าที่ควร จึงเสนอแนวคิดที่จะปรับปรุงกลไกการนำเสนอ LAP ทางอินเตอร์เนตตามโครงการ e-LAP เพื่อเพิ่มความโปร่งใสเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและใช้งานง่ายขึ้น (use-friendly) ซึ่งออสเตรเลียจะให้ความช่วยเหลือในการฝึกอบรมสมาชิกกำลังพัฒนาในเอเปครวมทั้ง ไทย ให้สามารถจัดทำ LAP ตามระบบใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าโครงการ e-AP จะเป็นผลงานรูปธรรมอย่างหนึ่ง ของเอเปคในช่วงการประชุมรัฐมนตรีและผู้นำเอเปคในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้
3. ก่อนหน้าการประชุมนี้ ไทยได้เสนอ LAP ให้สมาชิกอื่น ๆ ในเอเปควิพากวิจารณ์ ซึ่งได้รับความสนใจ อย่างมาก คำถามส่วนใหญ่เกี่ยวกับการปรับภาษีของไทยว่ามีแนวทางอย่างไร
4. ที่ประชุมพิจารณาเรื่องบทบาทของเอเปคในการผลักดันการดำเนินงานของ WTO และมีความเห็นร่วม กันว่า ควรผลักดันให้มีการเริ่มการเจรจารอบใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ในการนี้จะต้องไม่ปล่อย ให้ประเทศมหาอำนาจตกลงกันเองเพียง 3-4 ประเทศ แล้วผลักดันประเทศต่าง ๆ แต่ต้องเปิดโอกาสให้ ประเทศต่าง ๆ มีส่วนร่วมและหาฉันทามติ รวมทั้ง สร้างความเชื่อมั่นในระบบการค้าพหุภาคีที่ประเทศ กำลังพัฒนาจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งได้มีการเสนอโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถของ ประเทศกำลังพัฒนาในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามพันธกรณีรอบอุรุกวัย และการเปิดตลาดให้ สินค้าจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุดเข้าสู่ตลาดประเทศพัฒนาแล้วโดยไม่เสียภาษี และไม่มีการจำกัดโควตา
--กรมส่งเสริมการส่งออก มิถุนายน 2543--
-ยก-
1. ที่ประชุมพิจารณาปัญหาที่เอเปคดำเนินการมา 10 ปี แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าประโยชน์ของ เอเปคเป็นอย่างไร ซึ่งออสเตรเลียได้รายงานผลของเอเปคต่อรายได้ประชาชาติ ความเป็นอยู่ และการจ้าง งานดีขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติให้เพิ่มเติมปรับปรุง รายงานในเรื่องนี้ให้สมบูรณ์ต่อไป และเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเรื่องนี้ทางอินเตอร์เนต (APEC website)
2. ที่ประชุมเห็นว่า การจัดทำแผนปฏิบัติการรายสมาชิก (Individual Action Plan : IAP) ยังไม่ชัดเจน และไม่เป็นประโยชน์ต่อวงการธุรกิจเท่าที่ควร จึงเสนอแนวคิดที่จะปรับปรุงกลไกการนำเสนอ LAP ทางอินเตอร์เนตตามโครงการ e-LAP เพื่อเพิ่มความโปร่งใสเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและใช้งานง่ายขึ้น (use-friendly) ซึ่งออสเตรเลียจะให้ความช่วยเหลือในการฝึกอบรมสมาชิกกำลังพัฒนาในเอเปครวมทั้ง ไทย ให้สามารถจัดทำ LAP ตามระบบใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าโครงการ e-AP จะเป็นผลงานรูปธรรมอย่างหนึ่ง ของเอเปคในช่วงการประชุมรัฐมนตรีและผู้นำเอเปคในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้
3. ก่อนหน้าการประชุมนี้ ไทยได้เสนอ LAP ให้สมาชิกอื่น ๆ ในเอเปควิพากวิจารณ์ ซึ่งได้รับความสนใจ อย่างมาก คำถามส่วนใหญ่เกี่ยวกับการปรับภาษีของไทยว่ามีแนวทางอย่างไร
4. ที่ประชุมพิจารณาเรื่องบทบาทของเอเปคในการผลักดันการดำเนินงานของ WTO และมีความเห็นร่วม กันว่า ควรผลักดันให้มีการเริ่มการเจรจารอบใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ในการนี้จะต้องไม่ปล่อย ให้ประเทศมหาอำนาจตกลงกันเองเพียง 3-4 ประเทศ แล้วผลักดันประเทศต่าง ๆ แต่ต้องเปิดโอกาสให้ ประเทศต่าง ๆ มีส่วนร่วมและหาฉันทามติ รวมทั้ง สร้างความเชื่อมั่นในระบบการค้าพหุภาคีที่ประเทศ กำลังพัฒนาจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งได้มีการเสนอโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถของ ประเทศกำลังพัฒนาในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามพันธกรณีรอบอุรุกวัย และการเปิดตลาดให้ สินค้าจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุดเข้าสู่ตลาดประเทศพัฒนาแล้วโดยไม่เสียภาษี และไม่มีการจำกัดโควตา
--กรมส่งเสริมการส่งออก มิถุนายน 2543--
-ยก-