แท็ก
ต้นปาล์ม
1.สถานการณ์สินค้า
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
ปาล์มน้ำมัน : ราคายังคงมีความเคลื่อนไหวไม่แน่นอน
ในปีปกติช่วงที่ต้นปาล์มให้ผลผลิตมาก คือ ช่วงเดือน พค.-พย. ของทุกปี แต่ปีนี้ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงดังกล่าว ต้นปาล์มยังให้ผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี (มค.-มิย.) ผลปาล์มสดออกสู่ตลาด 1.245 ล้านตัน ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่ามี 1.530 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 18.63 ทั้งนี้ โดยผู้ประกอบการและเกษตรกรให้เหตุผลว่า เป็นผลเนื่องจากต้นปาล์มพักตัวหลังจากให้ผลผลิตสูงในปี 2542 และคาดว่าปี 2543 ช่วงที่ต้นปาล์มจะให้ผลผลิตสูง อาจเป็นช่วงเดือน พย.-ธค.
อนึ่ง ช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบมีราคาสูง ส่งผลให้ราคาภายในและต่างประเทศแตกต่างกันมาก และเป็นแรงจูงใจให้มีการลักลอบในปริมาณที่มากขึ้นตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ประกอบกับราคาถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองโน้มตัวลดลง ส่งผลให้อุตสาหกรรมและผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันถั่วเหลืองทดแทนน้ำมันปาล์มมากขึ้น จากปัจจัยด้านผลผลิตและความต้องการ ส่งผลให้ทิศทางของการค้าน้ำมันปาล์มภายในไม่แน่นอน ผู้ค้าต่างไม่กล้าที่จะซื้อน้ำมันปาล์มเหมือนเช่นทุกปี เนื่องจากไม่สามารถทราบทิศทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับราคาที่จะเป็น ประกอบกับราคาตลาดต่างประเทศโน้มตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงผลปาล์มออกมาก อีกทั้งประเทศผู้นำเข้า อาทิเช่น จีน อินเดีย ชะลอการนำเข้าเพื่อคุ้มครองการผลิตพืชน้ำมันและน้ำมันพืชภายใน และมีการหันมาใช้น้ำมันถั่วเหลืองที่มีราคาถูกทดแทนน้ำมันปาล์ม ดังนั้น ในช่วงปลายปีหากผลผลิตปาล์มสดไทยออกสู่ตลาดมาก และตลาดต่างประเทศยังคงซบเซา ช่วงปลายปีราคาผลปาล์มอาจไม่สูงขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ และในทางตรงกันข้าม หากผลปาล์มออกสู่ตลาดน้อยลงเหมือนทุกปี ขณะที่ช่วงปลายปีเป็นช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่จะมีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มสูง ราคาผลปาล์มอาจขยับตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
กล้วยไม้ : การส่งออกกล้วยไม้ไปอิตาลี
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้สอบถามนายกสมาคมผู้ส่งออกกล้วยไม้ ว่าการที่ผู้ส่งออกกล้วยไม้ไทย ไปอิตาลีถูกเบี้ยวค่ากล้วยไม้นั้น บริษัทที่อยู่ในความรับผิดชอบของสมาคมมีหลายบริษัทที่ถูกเบี้ยวค่ากล้วยไม้ เนื่องจากว่าผู้นำเข้ากล้วยไม้ของอิตาลีที่มีความมั่นคงด้านการเงินไม่เกิน 10 ราย และมักจะซื้อกล้วยไม้ในราคาถูก บางครั้งกล้วยไม้ไทยที่ส่งออกไปมีปัญหาเรื่องเพลี้ยไฟใบบาง Shipment จะถูกเผาทำลาย เมื่อผู้ส่งออกไทยได้รับการติดต่อจากลูกค้ารายใหม่เพื่อขอซื้อกล้วยไม้ จึงสนใจที่จะขายให้ เพราะว่าราคาสูงกว่า โดยลูกค้ารายใหม่เหล่านี้จะหลอกให้ผู้ส่งออกของประเทศไทยส่งกล้วยไม้ไป 1-2 Shipment และจะส่งเอกสารการขายและโอนเงินมายังประเทศไทย แต่หลังจากที่ส่งไปให้และขอให้ธนาคารในอิตาลีโอนเงินมา ได้รับการยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอม เนื่องจากที่อิตาลีมีระบบการควบคุมดูแลลูกค้าผู้นำเข้ายังไม่ดีพอ ผู้นำเข้าไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน ทำให้อาจจะเปลี่ยนชื่อหรือที่อยู่ในการนำเข้าได้ง่ายมาก ทำให้ผู้นำเข้าเหล่านี้มักใช้เอกสารปลอมในการส่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ แล้วจะหายไปเลย แนวทางแก้ไข
ควรให้ผู้ส่งออกตรวจสอบว่าลูกค้าส่งเงินค่ากล้วยไม้หรือเช็คเข้าบัญชีธนาคารในอิตาลีให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงส่งสินค้ากล้วยไม้ไปให้ลูกค้าในอิตาลี
กุ้ง: ผลผลิตและราคากุ้งปีนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้รับรายงานจากสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทยว่า ผลผลิตกุ้งปี 2543 คาดว่าจะมีปริมาณ 260,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 230,000 ตัน ในปี 2542 ร้อยละ 13.04 เนื่องจากประเทศผู้ผลิตที่สำคัญ เช่น เอกวาดอร์ และอินเดีย ประสบปัญหาโรคตัวแดงดวงขาวระบาดทำให้ผลผลิตลดลง ในขณะที่ความต้องการกุ้งของตลาดยังคงสูง ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่าลงโดยเฉพาะในช่วงกลางปี ส่งผลให้ราคากุ้งในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีก่อน กล่าวคือ ราคากุ้งกุลาดำที่เกษตรกรขายได้ขนาด 31-40 ตัว/กก. ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2543 ( มค.-กค.) มีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 337.55 บาท เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 272.28 บาท ในช่วงเดียวของปีก่อนร้อยละ 23.97 เป็นเหตุจูงใจให้เกษตรกรขยายการผลิตเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีหากสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยคาดว่าผลผลิตกุ้งจะออกมากส่งผลให้ราคากุ้งอ่อนตัวลง แต่จะไม่ต่ำกว่าปี 2542
สำหรับการส่งออกกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2543 (มค.-พค.) มีปริมาณ 50,521 ตัน มูลค่า 20,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 46,768 ตัน มูลค่า 15,324 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.02 และ 31.06 ตามลำดับ เมื่อถึงสิ้นปี 2543 ภาคเอกชนคาดว่าจะสามารถส่งออกกุ้งได้มีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 31 ประจำวันที่ 7 - 13 ส.ค. 2543--
-สส-
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
ปาล์มน้ำมัน : ราคายังคงมีความเคลื่อนไหวไม่แน่นอน
ในปีปกติช่วงที่ต้นปาล์มให้ผลผลิตมาก คือ ช่วงเดือน พค.-พย. ของทุกปี แต่ปีนี้ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงดังกล่าว ต้นปาล์มยังให้ผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี (มค.-มิย.) ผลปาล์มสดออกสู่ตลาด 1.245 ล้านตัน ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่ามี 1.530 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 18.63 ทั้งนี้ โดยผู้ประกอบการและเกษตรกรให้เหตุผลว่า เป็นผลเนื่องจากต้นปาล์มพักตัวหลังจากให้ผลผลิตสูงในปี 2542 และคาดว่าปี 2543 ช่วงที่ต้นปาล์มจะให้ผลผลิตสูง อาจเป็นช่วงเดือน พย.-ธค.
อนึ่ง ช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบมีราคาสูง ส่งผลให้ราคาภายในและต่างประเทศแตกต่างกันมาก และเป็นแรงจูงใจให้มีการลักลอบในปริมาณที่มากขึ้นตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ประกอบกับราคาถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองโน้มตัวลดลง ส่งผลให้อุตสาหกรรมและผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันถั่วเหลืองทดแทนน้ำมันปาล์มมากขึ้น จากปัจจัยด้านผลผลิตและความต้องการ ส่งผลให้ทิศทางของการค้าน้ำมันปาล์มภายในไม่แน่นอน ผู้ค้าต่างไม่กล้าที่จะซื้อน้ำมันปาล์มเหมือนเช่นทุกปี เนื่องจากไม่สามารถทราบทิศทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับราคาที่จะเป็น ประกอบกับราคาตลาดต่างประเทศโน้มตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงผลปาล์มออกมาก อีกทั้งประเทศผู้นำเข้า อาทิเช่น จีน อินเดีย ชะลอการนำเข้าเพื่อคุ้มครองการผลิตพืชน้ำมันและน้ำมันพืชภายใน และมีการหันมาใช้น้ำมันถั่วเหลืองที่มีราคาถูกทดแทนน้ำมันปาล์ม ดังนั้น ในช่วงปลายปีหากผลผลิตปาล์มสดไทยออกสู่ตลาดมาก และตลาดต่างประเทศยังคงซบเซา ช่วงปลายปีราคาผลปาล์มอาจไม่สูงขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ และในทางตรงกันข้าม หากผลปาล์มออกสู่ตลาดน้อยลงเหมือนทุกปี ขณะที่ช่วงปลายปีเป็นช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่จะมีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มสูง ราคาผลปาล์มอาจขยับตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
กล้วยไม้ : การส่งออกกล้วยไม้ไปอิตาลี
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้สอบถามนายกสมาคมผู้ส่งออกกล้วยไม้ ว่าการที่ผู้ส่งออกกล้วยไม้ไทย ไปอิตาลีถูกเบี้ยวค่ากล้วยไม้นั้น บริษัทที่อยู่ในความรับผิดชอบของสมาคมมีหลายบริษัทที่ถูกเบี้ยวค่ากล้วยไม้ เนื่องจากว่าผู้นำเข้ากล้วยไม้ของอิตาลีที่มีความมั่นคงด้านการเงินไม่เกิน 10 ราย และมักจะซื้อกล้วยไม้ในราคาถูก บางครั้งกล้วยไม้ไทยที่ส่งออกไปมีปัญหาเรื่องเพลี้ยไฟใบบาง Shipment จะถูกเผาทำลาย เมื่อผู้ส่งออกไทยได้รับการติดต่อจากลูกค้ารายใหม่เพื่อขอซื้อกล้วยไม้ จึงสนใจที่จะขายให้ เพราะว่าราคาสูงกว่า โดยลูกค้ารายใหม่เหล่านี้จะหลอกให้ผู้ส่งออกของประเทศไทยส่งกล้วยไม้ไป 1-2 Shipment และจะส่งเอกสารการขายและโอนเงินมายังประเทศไทย แต่หลังจากที่ส่งไปให้และขอให้ธนาคารในอิตาลีโอนเงินมา ได้รับการยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอม เนื่องจากที่อิตาลีมีระบบการควบคุมดูแลลูกค้าผู้นำเข้ายังไม่ดีพอ ผู้นำเข้าไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน ทำให้อาจจะเปลี่ยนชื่อหรือที่อยู่ในการนำเข้าได้ง่ายมาก ทำให้ผู้นำเข้าเหล่านี้มักใช้เอกสารปลอมในการส่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ แล้วจะหายไปเลย แนวทางแก้ไข
ควรให้ผู้ส่งออกตรวจสอบว่าลูกค้าส่งเงินค่ากล้วยไม้หรือเช็คเข้าบัญชีธนาคารในอิตาลีให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงส่งสินค้ากล้วยไม้ไปให้ลูกค้าในอิตาลี
กุ้ง: ผลผลิตและราคากุ้งปีนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้รับรายงานจากสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทยว่า ผลผลิตกุ้งปี 2543 คาดว่าจะมีปริมาณ 260,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 230,000 ตัน ในปี 2542 ร้อยละ 13.04 เนื่องจากประเทศผู้ผลิตที่สำคัญ เช่น เอกวาดอร์ และอินเดีย ประสบปัญหาโรคตัวแดงดวงขาวระบาดทำให้ผลผลิตลดลง ในขณะที่ความต้องการกุ้งของตลาดยังคงสูง ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่าลงโดยเฉพาะในช่วงกลางปี ส่งผลให้ราคากุ้งในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีก่อน กล่าวคือ ราคากุ้งกุลาดำที่เกษตรกรขายได้ขนาด 31-40 ตัว/กก. ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2543 ( มค.-กค.) มีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 337.55 บาท เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 272.28 บาท ในช่วงเดียวของปีก่อนร้อยละ 23.97 เป็นเหตุจูงใจให้เกษตรกรขยายการผลิตเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีหากสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยคาดว่าผลผลิตกุ้งจะออกมากส่งผลให้ราคากุ้งอ่อนตัวลง แต่จะไม่ต่ำกว่าปี 2542
สำหรับการส่งออกกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2543 (มค.-พค.) มีปริมาณ 50,521 ตัน มูลค่า 20,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 46,768 ตัน มูลค่า 15,324 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.02 และ 31.06 ตามลำดับ เมื่อถึงสิ้นปี 2543 ภาคเอกชนคาดว่าจะสามารถส่งออกกุ้งได้มีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 31 ประจำวันที่ 7 - 13 ส.ค. 2543--
-สส-