กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ จะร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมศุลกากร และกรมการค้าต่างประเทศ จัดฝึกอบรม และดูงาน ให้แก่ ประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ในเรื่อง การกำหนดนโยบายในลดภาษีภายใต้ CEPT/AFTA และการใช้แบบฟอร์ม D (Training Course on the Policy Implementation on Harmonized System and Certification of Origin and Form D Issuing) ในระหว่างวันที่ 25-29 มิถุนายน 2544 ณ กรุงเทพฯ
ในการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ เห็นชอบให้กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์เป็น ผู้ดำเนินโครงการส่งเสริมตลาดการค้า และการลงทุนสินค้าอุตสาหกรรมภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยเหลือให้ประเทศสมาชิกใหม่อาเซียนสามารถ ปรับตัวในการรวมกลุ่มเศรษฐกิจอาเซียน และเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเปิด อันจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ โครงการนี้เป็นโครงการที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน
กิจกรรมหลัก คือ การสนับสนุนประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เข้ารับการฝึกอบรม ดูงาน ณ ประเทศไทย และการส่งผู้เชี่ยวชาญไทยไปให้คำแนะนำ ณ ประเทศดังกล่าว สำหรับในเดือนมิถุนายน 2544 ไทยได้จัดฝึกอบรม และดูงาน ณ ประเทศไทย 2 เรื่อง และส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้คำแนะนำ ณ ประเทศเวียดนาม 1 เรื่อง คือ
1. การเตรียมตัวเข้าเป็นสมาชิก WTO (Training Course on the Preparation for WTO Accession) ระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน 2544 จัดโดยสำนักเจรจาการค้าพหุภาคี ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์การการค้าโลก ส่งวิทยากรมาให้การอบรมแก่ประเทศดังกล่าว ผลที่ได้รับในการอบรมครั้งนี้ คือ เวียดนามและกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการเป็นสมาชิก WTO มีความตื่นตัว และต้องการให้ไทยส่งคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ไปให้คำแนะนำ ณ ประเทศดังกล่าวด้วย เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเตรียมการของไทย และการจัดฝึกอบรมที่ประเทศเหล่านั้น จะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ารับฟัง และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นได้ในวงกว้างมากขึ้น
2. การกำหนดนโยบายในลดภาษีภายใต้ CEPT/AFTA และการใช้แบบฟอร์ม D (Training Course on the Policy Implementation on Harmonized System and Certification of Origin and Form D Issuing) ในระหว่างวันที่ 25-29 มิถุนายน 2544 โดยกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมศุลกากร และกรมการค้าต่างประเทศ จัดฝึกอบรม และดูงาน เรื่องนี้ไทยเคยจัดฝึกอบรมเมื่อปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้จะเน้นเนื้อหาให้เข้มข้นขึ้น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมฯ สามารถนำผลไปปฏิบัติได้ โดยเฉพาะการใช้ Form D ซึ่งประเทศลาว และเวียดนาม จะเริ่มลดภาษีภายใต้กรอบการค้าเสรี อาเซียน และจะต้องใช้ Form D แต่ยังใช้ไม่เป็น ทำให้เกิดความไม่คล่องตัวทางการค้าระหว่างอาเซียน ซึ่งรวมถึงไทยด้วย
3. การส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้คำแนะนำในการร่วมลงทุนภายในอาเซียน โดยกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมไปให้คำแนะนำเรื่อง Technical Assistance on AICO Scheme Implementation ณ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 25-29 มิถุนายน 2544 ผลที่คาดว่าจะได้รับคือการสร้างความเข้าใจในการร่วมลงทุนภายในอาเซียน การให้คำแนะนำในเรื่องนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของประโยชน์อีกหลายด้านของนักลงทุนของไทยในประเทศเวียดนาม นอกจากเป็นกลไกในการร่วมกันสร้างความสามารถเฉพาะด้านของอาเซียนแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสร้างความแข็งแกร่งทางการค้า และความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบทางการค้าด้วย
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 82-6623--จบ--
-สส-
ในการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ เห็นชอบให้กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์เป็น ผู้ดำเนินโครงการส่งเสริมตลาดการค้า และการลงทุนสินค้าอุตสาหกรรมภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยเหลือให้ประเทศสมาชิกใหม่อาเซียนสามารถ ปรับตัวในการรวมกลุ่มเศรษฐกิจอาเซียน และเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเปิด อันจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ โครงการนี้เป็นโครงการที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน
กิจกรรมหลัก คือ การสนับสนุนประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เข้ารับการฝึกอบรม ดูงาน ณ ประเทศไทย และการส่งผู้เชี่ยวชาญไทยไปให้คำแนะนำ ณ ประเทศดังกล่าว สำหรับในเดือนมิถุนายน 2544 ไทยได้จัดฝึกอบรม และดูงาน ณ ประเทศไทย 2 เรื่อง และส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้คำแนะนำ ณ ประเทศเวียดนาม 1 เรื่อง คือ
1. การเตรียมตัวเข้าเป็นสมาชิก WTO (Training Course on the Preparation for WTO Accession) ระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน 2544 จัดโดยสำนักเจรจาการค้าพหุภาคี ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์การการค้าโลก ส่งวิทยากรมาให้การอบรมแก่ประเทศดังกล่าว ผลที่ได้รับในการอบรมครั้งนี้ คือ เวียดนามและกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการเป็นสมาชิก WTO มีความตื่นตัว และต้องการให้ไทยส่งคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ไปให้คำแนะนำ ณ ประเทศดังกล่าวด้วย เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเตรียมการของไทย และการจัดฝึกอบรมที่ประเทศเหล่านั้น จะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ารับฟัง และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นได้ในวงกว้างมากขึ้น
2. การกำหนดนโยบายในลดภาษีภายใต้ CEPT/AFTA และการใช้แบบฟอร์ม D (Training Course on the Policy Implementation on Harmonized System and Certification of Origin and Form D Issuing) ในระหว่างวันที่ 25-29 มิถุนายน 2544 โดยกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมศุลกากร และกรมการค้าต่างประเทศ จัดฝึกอบรม และดูงาน เรื่องนี้ไทยเคยจัดฝึกอบรมเมื่อปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้จะเน้นเนื้อหาให้เข้มข้นขึ้น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมฯ สามารถนำผลไปปฏิบัติได้ โดยเฉพาะการใช้ Form D ซึ่งประเทศลาว และเวียดนาม จะเริ่มลดภาษีภายใต้กรอบการค้าเสรี อาเซียน และจะต้องใช้ Form D แต่ยังใช้ไม่เป็น ทำให้เกิดความไม่คล่องตัวทางการค้าระหว่างอาเซียน ซึ่งรวมถึงไทยด้วย
3. การส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้คำแนะนำในการร่วมลงทุนภายในอาเซียน โดยกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมไปให้คำแนะนำเรื่อง Technical Assistance on AICO Scheme Implementation ณ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 25-29 มิถุนายน 2544 ผลที่คาดว่าจะได้รับคือการสร้างความเข้าใจในการร่วมลงทุนภายในอาเซียน การให้คำแนะนำในเรื่องนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของประโยชน์อีกหลายด้านของนักลงทุนของไทยในประเทศเวียดนาม นอกจากเป็นกลไกในการร่วมกันสร้างความสามารถเฉพาะด้านของอาเซียนแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสร้างความแข็งแกร่งทางการค้า และความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบทางการค้าด้วย
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 82-6623--จบ--
-สส-