เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2544 กระทรวงเกษตรและป่าไม้ของสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกกฎกระทรวงภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมและป้องกันโรคระบาดในปศุสัตว์ (the Livestock Epidemics Prevention and Control Act) เพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย โดยกำหนดให้ประเทศผู้ส่งออกอาหารสัตว์จะต้องแจ้งขั้นตอนการอบไอน้ำ หรือการทำให้ปลอดจากเชื้อโรคให้หน่วยงานด้านกักกันโรคและการวิจัยป้องกันสัตว์แห่งชาติทราบภายในวันที่ 28 ส.ค. 2544 ตามแบบฟอร์ม ซึ่งสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกมาใหม่ ก่อนที่จะอนุญาตให้มีการนำเข้า
จากกฎระเบียบดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกมันอัดเม็ด (Tapioca Pellet) ของไทย ซึ่งส่งอาหารสัตว์ คือ มันอัดเม็ด (Tapioca Pellet) HS. 0714.10 โดยสาธารณรัฐเกาหลีกำหนด โควต้านำเข้า 1 ล้านตันต่อปี อัตราภาษี 2% สำหรับ 300,000 ตันแรกและ 3% สำหรับ 700,000 ตัน นอกโควต้าอัตราภาษี 986% ในปี 2543 สาธารณรัฐเกาหลีนำเข้าจากไทยเพียงประเทศเดียวปริมาณ 15,829 ตัน มูลค่า 1.015 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยมีคู่แข่งขันที่สำคัญ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย และจีน อย่างไรก็ตาม ในการนำเข้าตามระเบียบใหม่ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2544 สาธารณรัฐเกาหลีจะเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น โดยหน่วยงานตรวจสอบของประเทศผู้ส่งออกจะต้องเป็นที่ยอมรับว่าได้มาตรฐานตามกฎ OIE (Office of International des Epizootices) และตรวจสอบตามรายละเอียดในระเบียบใหม่ เช่น อาหารสัตว์ หรือพืชเส้นใยที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ต้องปลูกห่างจากพื้นที่ที่เคยเป็นโรคปากและเท้าเปื่อย 50 กิโลเมตร หลังจากโรคหายไปแล้ว 2 ปี หรือจะต้องผ่านความร้อนหรือการอบไอน้ำอย่างน้อย 10 นาที ที่อุณหภูมิอย่างต่ำ 80๐C เป็นต้น ทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องเพิ่มความระมัดระวังในการผลิตมันอัดเม็ดให้ได้คุณภาพตามระเบียบใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ของเกาหลีเป็นผู้ขออนุญาตนำเข้ามันอัดเม็ด โดยการประมูลราคาขั้นต่ำ แต่เนื่องจากราคาข้าวโพดจากสหรัฐฯ มีราคาถูกกว่าและเป็นสินค้าที่ใช้ทดแทนกันได้ ทำให้การนำเข้ามันอัดเม็ดไม่เต็มตามจำนวนโควต้าที่กำหนดไว้
(ที่มา : กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์)
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 15/2544 วันที่ 15 สิงหาคม 2544--
-อน-
จากกฎระเบียบดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกมันอัดเม็ด (Tapioca Pellet) ของไทย ซึ่งส่งอาหารสัตว์ คือ มันอัดเม็ด (Tapioca Pellet) HS. 0714.10 โดยสาธารณรัฐเกาหลีกำหนด โควต้านำเข้า 1 ล้านตันต่อปี อัตราภาษี 2% สำหรับ 300,000 ตันแรกและ 3% สำหรับ 700,000 ตัน นอกโควต้าอัตราภาษี 986% ในปี 2543 สาธารณรัฐเกาหลีนำเข้าจากไทยเพียงประเทศเดียวปริมาณ 15,829 ตัน มูลค่า 1.015 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยมีคู่แข่งขันที่สำคัญ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย และจีน อย่างไรก็ตาม ในการนำเข้าตามระเบียบใหม่ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2544 สาธารณรัฐเกาหลีจะเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น โดยหน่วยงานตรวจสอบของประเทศผู้ส่งออกจะต้องเป็นที่ยอมรับว่าได้มาตรฐานตามกฎ OIE (Office of International des Epizootices) และตรวจสอบตามรายละเอียดในระเบียบใหม่ เช่น อาหารสัตว์ หรือพืชเส้นใยที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ต้องปลูกห่างจากพื้นที่ที่เคยเป็นโรคปากและเท้าเปื่อย 50 กิโลเมตร หลังจากโรคหายไปแล้ว 2 ปี หรือจะต้องผ่านความร้อนหรือการอบไอน้ำอย่างน้อย 10 นาที ที่อุณหภูมิอย่างต่ำ 80๐C เป็นต้น ทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องเพิ่มความระมัดระวังในการผลิตมันอัดเม็ดให้ได้คุณภาพตามระเบียบใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ของเกาหลีเป็นผู้ขออนุญาตนำเข้ามันอัดเม็ด โดยการประมูลราคาขั้นต่ำ แต่เนื่องจากราคาข้าวโพดจากสหรัฐฯ มีราคาถูกกว่าและเป็นสินค้าที่ใช้ทดแทนกันได้ ทำให้การนำเข้ามันอัดเม็ดไม่เต็มตามจำนวนโควต้าที่กำหนดไว้
(ที่มา : กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์)
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 15/2544 วันที่ 15 สิงหาคม 2544--
-อน-