บทสรุปสำหรับนักลงทุน
เทียนสมุนไพร Aroma นับได้ว่าเป็นพัฒนาการผลิตเทียนไข โดยเทียนอโรมาสามารถใช้ในการบำบัดทางด้านจิตใจและอารมณ์ของผู้คนในยุคที่มีความเครียดสูง เพราะกลิ่นอโรมาในเทียนมีคุณสมบัติ ในการกระตุ้นหรือผ่อนคลายร่างกายหลายรูปแบบ เช่น กลิ่นตะไคร้ กลิ่นมะกรูด กลิ่นมะนาว กลิ่นอบเชย ซึ่งเป็นกลิ่นไทยๆจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกาย ส่วนกลิ่นอื่นๆทางด้านตะวัน-ตกด้วย เช่น ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ ก็มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอื่นๆที่ทำให้เกิดความกระฉับกระเฉงของร่างกาย ดังนั้นความต้องการสินค้าประเภทนี้จึงนับได้ว่ามีแนวโน้มที่ดีตามสภาวะของผู้คนที่ต้องการการผ่อนคลายทางด้านจิตใจมากขึ้น
ตลาดของเทียนอโรมา จึงมีอยู่ทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออก โดยในประเทศนั้นความต้องการหลักๆอยู่ที่กลุ่มโรงแรม สปา ห้องอาหาร และผู้บริโภคทั่วไปที่มีระดับรายได้ปานกลางถึงสูง ส่วนตลาดส่งออกนั้นตลาดที่สำคัญคือประเทศกลุ่มยุโรป ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ซึ่งให้ความสนใจเรื่องการบำบัดด้วยธรรมชาติค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีผู้ผลิตเทียนอโรมาเพียง 4 ราย เท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตรายเล็กมีเงินทุนในธุรกิจประมาณ 1 ล้านบาท โดยใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่ภายในประเทศ และบางชนิด เช่น พาราฟิน และกลิ่นหอมบางชนิดจากต่างประเทศ
ส่วนเครื่องจักรนั้นไม่มีความจำเป็นต้องใช้เพราะเป็นการผลิตโดยใช้แรงงานคนหล่อเทียนในแม่พิมพ์ด้วยมือทั้งสิ้น จึงเห็นได้ว่าเงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ในการดำเนินการด้านการผลิตเกือบทั้งหมดถึง 90 % และอีก 10% เป็นค่าใช้จ่ายในด้านการตลาดและการขาย ซึ่งการขายในประเทศมีช่องทางหลักคือ แผนกของตกแต่งบ้านในห้างสรรพสินค้าและการเปิดร้านของตนเองในศูนย์สรรพ-สินค้าเพื่อใช้เป็นโชว์รูมและเพื่อให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศสามารถติดต่อซื้อขายส่งออกได้ด้วยอีกทางหนึ่ง
การลงทุนด้านการผลิตเทียนสมุนไพรนั้น สามารถเริ่มต้นด้วยเงินทุนเท่าที่จะสามารถหาได้เนื่องจากจะแปรผันตามปริมาณเทียนที่ต้องการผลิตและความสามารถในการทำตลาด โดยผู้ผลิตไม่มีความกังวลเรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเหมือนกิจการอื่นๆ จึงมีความเสี่ยงน้อยสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่
ในกรณีที่ทำการลงทุนผลิตและสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 9,600 แท่ง/เดือน จากการใช้เงินลงทุนขั้นต้นประมาณ 1 ล้านบาท และได้รับกำไรสุทธิโดยเฉลี่ยประมาณ 13.2% จะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 1 ปี ณ ระดับราคาจำหน่ายประมาณ 120 บาท/แท่ง และถ้าโครงการลงทุนมีอายุ 5 ปี โดยสามารถจำหน่ายเทียนได้ผลตอบแทนสุทธิเท่ากันโดยตลอด ผู้ลงทุนจะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 181%
ผู้สนใจลงทุนสามารถรับทราบข้อมูลด้านเทคนิคการผลิตได้ที่โครงการฝึกอบรมอาชีพของ-ประชาชน สำนักฝึกอบรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือฝ่ายวิเคราะห์โครงการ มหาวิทยาลัย-เกษตรศาสตร์ หรือบ้านเบญจวรรณสีลมคอมเพล็กซ์
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
เทียนสมุนไพร Aroma นับได้ว่าเป็นพัฒนาการผลิตเทียนไข โดยเทียนอโรมาสามารถใช้ในการบำบัดทางด้านจิตใจและอารมณ์ของผู้คนในยุคที่มีความเครียดสูง เพราะกลิ่นอโรมาในเทียนมีคุณสมบัติ ในการกระตุ้นหรือผ่อนคลายร่างกายหลายรูปแบบ เช่น กลิ่นตะไคร้ กลิ่นมะกรูด กลิ่นมะนาว กลิ่นอบเชย ซึ่งเป็นกลิ่นไทยๆจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกาย ส่วนกลิ่นอื่นๆทางด้านตะวัน-ตกด้วย เช่น ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ ก็มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอื่นๆที่ทำให้เกิดความกระฉับกระเฉงของร่างกาย ดังนั้นความต้องการสินค้าประเภทนี้จึงนับได้ว่ามีแนวโน้มที่ดีตามสภาวะของผู้คนที่ต้องการการผ่อนคลายทางด้านจิตใจมากขึ้น
ตลาดของเทียนอโรมา จึงมีอยู่ทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออก โดยในประเทศนั้นความต้องการหลักๆอยู่ที่กลุ่มโรงแรม สปา ห้องอาหาร และผู้บริโภคทั่วไปที่มีระดับรายได้ปานกลางถึงสูง ส่วนตลาดส่งออกนั้นตลาดที่สำคัญคือประเทศกลุ่มยุโรป ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ซึ่งให้ความสนใจเรื่องการบำบัดด้วยธรรมชาติค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีผู้ผลิตเทียนอโรมาเพียง 4 ราย เท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตรายเล็กมีเงินทุนในธุรกิจประมาณ 1 ล้านบาท โดยใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่ภายในประเทศ และบางชนิด เช่น พาราฟิน และกลิ่นหอมบางชนิดจากต่างประเทศ
ส่วนเครื่องจักรนั้นไม่มีความจำเป็นต้องใช้เพราะเป็นการผลิตโดยใช้แรงงานคนหล่อเทียนในแม่พิมพ์ด้วยมือทั้งสิ้น จึงเห็นได้ว่าเงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ในการดำเนินการด้านการผลิตเกือบทั้งหมดถึง 90 % และอีก 10% เป็นค่าใช้จ่ายในด้านการตลาดและการขาย ซึ่งการขายในประเทศมีช่องทางหลักคือ แผนกของตกแต่งบ้านในห้างสรรพสินค้าและการเปิดร้านของตนเองในศูนย์สรรพ-สินค้าเพื่อใช้เป็นโชว์รูมและเพื่อให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศสามารถติดต่อซื้อขายส่งออกได้ด้วยอีกทางหนึ่ง
การลงทุนด้านการผลิตเทียนสมุนไพรนั้น สามารถเริ่มต้นด้วยเงินทุนเท่าที่จะสามารถหาได้เนื่องจากจะแปรผันตามปริมาณเทียนที่ต้องการผลิตและความสามารถในการทำตลาด โดยผู้ผลิตไม่มีความกังวลเรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเหมือนกิจการอื่นๆ จึงมีความเสี่ยงน้อยสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่
ในกรณีที่ทำการลงทุนผลิตและสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 9,600 แท่ง/เดือน จากการใช้เงินลงทุนขั้นต้นประมาณ 1 ล้านบาท และได้รับกำไรสุทธิโดยเฉลี่ยประมาณ 13.2% จะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 1 ปี ณ ระดับราคาจำหน่ายประมาณ 120 บาท/แท่ง และถ้าโครงการลงทุนมีอายุ 5 ปี โดยสามารถจำหน่ายเทียนได้ผลตอบแทนสุทธิเท่ากันโดยตลอด ผู้ลงทุนจะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 181%
ผู้สนใจลงทุนสามารถรับทราบข้อมูลด้านเทคนิคการผลิตได้ที่โครงการฝึกอบรมอาชีพของ-ประชาชน สำนักฝึกอบรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือฝ่ายวิเคราะห์โครงการ มหาวิทยาลัย-เกษตรศาสตร์ หรือบ้านเบญจวรรณสีลมคอมเพล็กซ์
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--