กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ผลการประชุมองค์การโลกอิสลามระดับรัฐมนตรีต่างประเทศสมัยพิเศษ ครั้งที่ 9 ตามที่รัฐบาลไทยได้แต่งตั้งนายประชา คุณะเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นทูตพิเศษ นำคณะผู้แทนไทย ไปร่วมการประชุมองค์การโลกอิสลาม (Organization of Islamic Conference — OIC) ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2544 ณ กรุงโดฮา ตามคำเชิญของรัฐบาลกาตาร์ เพื่อให้ประเทศสมาชิก OIC 57 ประเทศ ปรึกษาหารือและกำหนดท่าทีร่วมกันต่อผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมที่สหรัฐอมเริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 โดยไทยมีสถานะเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของ OIC นั้น ที่ประชุมได้มีมติที่สำคัญๆ ดังนี้
1. ที่ประชุมมีมติประณามอย่างรุนแรงต่อการก่อวินาศกรรม ซึ่งขัดกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลามที่รังเกียจความก้าวร้าว ใฝ่สันติ ยึดหลักอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ใช้หลักขันติ ให้ความ นับถือต่อผู้อื่น ให้เกียรติต่อคุณค่าของความเป็นมนุษย์และห้ามฆ่าผู้บริสุทธิ์ ที่ประชุมได้แสดงความ เสียใจต่อชาวอเมริกันและญาติมิตรของผู้ประสบภัย ร้อมทั้งย้ำถึงความจำเป็นต้องร่วมมือกันต่อต้านและขจัดการก่อการร้ายทุกรูปแบบอย่างขุดรากถอนโคน ภายใต้กรอบของสหประชาชาติ เพื่อเสถียรภาพและความมั่นคงของประชาคมโลก
2. ที่ประชุมไม่เห็นด้วยที่จะเชื่อมโยงให้เกิดความเกี่ยวข้องระหว่างโลกอิสลามกับขบวนการก่อการร้าย ขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องการให้มีการโจมตีประเทศอาหรับหรือมุสลิมอื่นใด โดยใช้ข้ออ้างว่าเป็นการขจัดขบวนการก่อการร้าย ในการนี้ ที่ประชุมเห็นว่า สหประชาชาติควรจัดการประชุมว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายและต้องพิจารณาคำนิยามที่ถูกต้องระหว่างการก่อการร้ายกับการใช้สิทธิของประชาชนในการกำหนดวิถีชีวิตของตนเอง และการต่อสู้เพื่อรักษาอธิปไตยแห่งดินแดน ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามกฎบัตรของสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ
3. ที่ประชุมแสดงความห่วงใยต่อการใช้กำลังตอบโต้ขบวนการก่อการร้ายที่จะมีผลสร้างความสูญเสียแก่ชาวอัฟกานิสถานผู้บริสุทธิ์และไม่มีส่วนร่วม นอกจากนี้ เช็ค ฮาหมัด บิน คาลีฟา อัลตานี (H.H. Sheikh Hamad bin Khalifa Al Thani) เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ได้ทรงริเริ่มตั้งกองทุนสงเคราะห์ชาวอัฟกานิสถานที่ประสบเคราะห์กรรมอันเป็นผลกระทบจากภัยสงคราม โดยทรงบริจาคเงินทุนก่อตั้ง 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับโอมาน ร่วมบริจาคเงินสมทบ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ ในส่วนของประเทศไทยนั้น รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อชาวอัฟกานิสถานที่ประสบเคราะห์กรรมเช่นเดียวกัน โดยจะส่งข้าวและอาหารจำนวนหนึ่งไปช่วยเหลือตามกำลังทางเศรษฐกิจที่ไทยจะสามารถช่วยได้ในขณะนี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
ผลการประชุมองค์การโลกอิสลามระดับรัฐมนตรีต่างประเทศสมัยพิเศษ ครั้งที่ 9 ตามที่รัฐบาลไทยได้แต่งตั้งนายประชา คุณะเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นทูตพิเศษ นำคณะผู้แทนไทย ไปร่วมการประชุมองค์การโลกอิสลาม (Organization of Islamic Conference — OIC) ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2544 ณ กรุงโดฮา ตามคำเชิญของรัฐบาลกาตาร์ เพื่อให้ประเทศสมาชิก OIC 57 ประเทศ ปรึกษาหารือและกำหนดท่าทีร่วมกันต่อผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมที่สหรัฐอมเริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 โดยไทยมีสถานะเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของ OIC นั้น ที่ประชุมได้มีมติที่สำคัญๆ ดังนี้
1. ที่ประชุมมีมติประณามอย่างรุนแรงต่อการก่อวินาศกรรม ซึ่งขัดกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลามที่รังเกียจความก้าวร้าว ใฝ่สันติ ยึดหลักอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ใช้หลักขันติ ให้ความ นับถือต่อผู้อื่น ให้เกียรติต่อคุณค่าของความเป็นมนุษย์และห้ามฆ่าผู้บริสุทธิ์ ที่ประชุมได้แสดงความ เสียใจต่อชาวอเมริกันและญาติมิตรของผู้ประสบภัย ร้อมทั้งย้ำถึงความจำเป็นต้องร่วมมือกันต่อต้านและขจัดการก่อการร้ายทุกรูปแบบอย่างขุดรากถอนโคน ภายใต้กรอบของสหประชาชาติ เพื่อเสถียรภาพและความมั่นคงของประชาคมโลก
2. ที่ประชุมไม่เห็นด้วยที่จะเชื่อมโยงให้เกิดความเกี่ยวข้องระหว่างโลกอิสลามกับขบวนการก่อการร้าย ขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องการให้มีการโจมตีประเทศอาหรับหรือมุสลิมอื่นใด โดยใช้ข้ออ้างว่าเป็นการขจัดขบวนการก่อการร้าย ในการนี้ ที่ประชุมเห็นว่า สหประชาชาติควรจัดการประชุมว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายและต้องพิจารณาคำนิยามที่ถูกต้องระหว่างการก่อการร้ายกับการใช้สิทธิของประชาชนในการกำหนดวิถีชีวิตของตนเอง และการต่อสู้เพื่อรักษาอธิปไตยแห่งดินแดน ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามกฎบัตรของสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ
3. ที่ประชุมแสดงความห่วงใยต่อการใช้กำลังตอบโต้ขบวนการก่อการร้ายที่จะมีผลสร้างความสูญเสียแก่ชาวอัฟกานิสถานผู้บริสุทธิ์และไม่มีส่วนร่วม นอกจากนี้ เช็ค ฮาหมัด บิน คาลีฟา อัลตานี (H.H. Sheikh Hamad bin Khalifa Al Thani) เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ได้ทรงริเริ่มตั้งกองทุนสงเคราะห์ชาวอัฟกานิสถานที่ประสบเคราะห์กรรมอันเป็นผลกระทบจากภัยสงคราม โดยทรงบริจาคเงินทุนก่อตั้ง 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับโอมาน ร่วมบริจาคเงินสมทบ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ ในส่วนของประเทศไทยนั้น รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อชาวอัฟกานิสถานที่ประสบเคราะห์กรรมเช่นเดียวกัน โดยจะส่งข้าวและอาหารจำนวนหนึ่งไปช่วยเหลือตามกำลังทางเศรษฐกิจที่ไทยจะสามารถช่วยได้ในขณะนี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-