แท็ก
เครดิต
1. NPL คงค้างของระบบสถาบันการเงินที่ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
1.1ระบบสถาบันการเงิน(ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ทั้งสิ้น 1,113.0 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 4,904.2 พันล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลง NPL สุทธิในเดือนนี้ยังคงลดลงต่อเนื่องในจำนวน 1.2 พันล้านบาท ในขณะที่สินเชื่อรวมเปลี่ยนแปลงลดลงสุทธิถึง 39.3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสาขา ธพ. ต่างประเทศ จากเหตุดังกล่าวมีผลให้อัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมของระบบสถาบันการเงิน ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน เท่ากับร้อยละ 22.70 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.54 เมื่อสิ้นเดือนตุลาคม
1.2ระบบสถาบันการเงิน(ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 แยกแสดงรายกลุ่มได้ดังนี้
1.2.1ธนาคารเอกชนมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 528.4 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 2,625.9 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 20.12
1.2.2ธนาคารของรัฐมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 488.0 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 1,482.1 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 32.92
1.2.3สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 39.3 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 632.4 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 6.22
1.2.4.บริษัทเงินทุนมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 57.2 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 163.7 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 34.97
1.3 ประเภทธุรกิจที่มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 จำนวนสูงแสดงได้ดังนี้
1.3.1ภาคอุตสาหกรรมมี NPL คงค้าง 280.2 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.18 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.2ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มี NPL คงค้าง 181.3 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.29 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.3ธุรกิจการค้าส่งและค้าปลีกมี NPL คงค้าง 171.8 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.43 ของ NPL ทั้งสิ้น2. การเปลี่ยนแปลง NPL ของระบบสถาบันการเงินที่ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
2.การเปลี่ยนแปลง NPL ของระบบสถาบันการเงิน(ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ในเดือนพฤศจิกายน 2543 แสดงรายละเอียดได้ดังนี้
พันล้านบาท
2.1.1 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2543 1,114.2
2.1.2 NPL ที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. 2543
- จำนวนใหม่ 13.6
- รายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 20.6 34.2
2.1.3 NPL ที่ลดลงในเดือน พ.ย. 2543
- ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (24.1)
- เหตุผลอื่น(แสดงรายละเอียดในหมายเหตุ)
(11.3) (35.4)
2.1.4 NPL ลดลงสุทธิในเดือน พ.ย. 2543 (1.2)
2.1.5 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2543 1,113.0
หมายเหตุ เหตุผลอื่น ประกอบด้วย
1) NPL ที่มาชำระจนค้างไม่ถึง 3 เดือนจำนวน 5.2 พันล้านบาท
2) ตัดหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญที่กันสำรองครบร้อยละ 100 แล้วออกจากบัญชี รวมเป็นจำนวน 0.8 พันล้านบาท
3) อื่นๆ เช่น จำนวนเงินที่รับชำระหนี้ การตัดหนี้สูญเนื่องจากหมดสิทธิเรียกร้องการขายหนี้ เป็นต้น รวมเป็นจำนวน 5.3 พันล้านบาท
2.2การเปลี่ยนแปลง NPL ในเดือนพฤศจิกายน 2543 พิจารณาตามกลุ่มสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) แสดงได้ดังนี้
2.2.1ธนาคารเอกชนมี NPL ลดลงสุทธิ 3.4 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.63 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 531.8 พันล้านบาท
2.2.2ธนาคารของรัฐมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 2.5 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.52 ของ NPL สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 485.5 พันล้านบาท
2.2.3สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL ลดลงสุทธิ 0.7 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.77 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 40.0 พันล้านบาท
2.2.4บริษัทเงินทุนมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.3 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.60 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 56.9 พันล้านบาท
2.3การเปลี่ยนแปลง NPL ในเดือนพฤศจิกายน 2543 พิจารณาตามประเภทธุรกิจ แสดงได้ดังนี้
2.3.1NPL รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 13.6 พันล้านบาท อยู่ในภาคอุตสาหกรรม 5.6 พันล้านบาท การค้าส่งและค้าปลีก 1.7 พันล้านบาท และการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล 1.6 พันล้านบาท
2.3.2NPL ที่เพิ่มขึ้นจากรายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้จำนวน 20.6 พันล้านบาท อยู่ในภาคอุตสาหกรรม 5.1 พันล้านบาท ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 3.4 พันล้านบาท และการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล 2.5 พันล้านบาท
3. NPL ของสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
3.1สำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ทั้งสิ้น 3.7 พันล้านบาท ลดลงจากสิ้นเดือนก่อน 0.9 พันล้านบาท และมีสินเชื่อรวม 79.0 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 4.63
3.2บริษัทเครดิตฟองซิเอร์มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ทั้งสิ้น 1.6 พันล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 0.05 พันล้านบาท และมีสินเชื่อรวม 3.5 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 46.73
4. NPL คงค้างของระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ทั้งสิ้น 1,118.3 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 4,986.6 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 22.43 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.31 ณ สิ้นเดือนก่อน
5. การปรับปรุงโครงสร้างหนี้การปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จของระบบสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2543 มีจำนวนทั้งสิ้น 46.2 พันล้านบาท เป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากหนี้ NPL จำนวน 24.1 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากหนี้ที่มีการค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่เกิน 3 เดือน
6. NPL คงค้างหลังหักเงินสำรอง
6.1ระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ได้กันเงินสำรองสำหรับ NPL ส่วนที่ไม่มีหลักประกันรองรับจำนวน 404.0 พันล้านบาท ดังนั้น NPL หลังหักเงินสำรองจึงเท่ากับ 709.0 พันล้านบาท และสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับ 4,500.2 พันล้านบาท NPL หลังหักเงินสำรองต่อสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับร้อยละ 15.76
6.2ระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ได้กันเงินสำรองสำหรับ NPL ส่วนที่ไม่มีหลักประกันรองรับจำนวน 406.2 พันล้านบาทดังนั้น NPL หลังหักเงินสำรองจึงเท่ากับ 712.1 พันล้านบาท และสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับ 4,580.5 พันล้านบาท NPL หลังหักเงินสำรองต่อสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับร้อยละ 15.55
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/8 มกราคม 2544--
-ยก-
1.1ระบบสถาบันการเงิน(ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ทั้งสิ้น 1,113.0 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 4,904.2 พันล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลง NPL สุทธิในเดือนนี้ยังคงลดลงต่อเนื่องในจำนวน 1.2 พันล้านบาท ในขณะที่สินเชื่อรวมเปลี่ยนแปลงลดลงสุทธิถึง 39.3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสาขา ธพ. ต่างประเทศ จากเหตุดังกล่าวมีผลให้อัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมของระบบสถาบันการเงิน ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน เท่ากับร้อยละ 22.70 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.54 เมื่อสิ้นเดือนตุลาคม
1.2ระบบสถาบันการเงิน(ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 แยกแสดงรายกลุ่มได้ดังนี้
1.2.1ธนาคารเอกชนมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 528.4 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 2,625.9 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 20.12
1.2.2ธนาคารของรัฐมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 488.0 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 1,482.1 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 32.92
1.2.3สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 39.3 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 632.4 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 6.22
1.2.4.บริษัทเงินทุนมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 57.2 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 163.7 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 34.97
1.3 ประเภทธุรกิจที่มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 จำนวนสูงแสดงได้ดังนี้
1.3.1ภาคอุตสาหกรรมมี NPL คงค้าง 280.2 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.18 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.2ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มี NPL คงค้าง 181.3 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.29 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.3ธุรกิจการค้าส่งและค้าปลีกมี NPL คงค้าง 171.8 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.43 ของ NPL ทั้งสิ้น2. การเปลี่ยนแปลง NPL ของระบบสถาบันการเงินที่ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
2.การเปลี่ยนแปลง NPL ของระบบสถาบันการเงิน(ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ในเดือนพฤศจิกายน 2543 แสดงรายละเอียดได้ดังนี้
พันล้านบาท
2.1.1 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2543 1,114.2
2.1.2 NPL ที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. 2543
- จำนวนใหม่ 13.6
- รายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 20.6 34.2
2.1.3 NPL ที่ลดลงในเดือน พ.ย. 2543
- ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (24.1)
- เหตุผลอื่น(แสดงรายละเอียดในหมายเหตุ)
(11.3) (35.4)
2.1.4 NPL ลดลงสุทธิในเดือน พ.ย. 2543 (1.2)
2.1.5 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2543 1,113.0
หมายเหตุ เหตุผลอื่น ประกอบด้วย
1) NPL ที่มาชำระจนค้างไม่ถึง 3 เดือนจำนวน 5.2 พันล้านบาท
2) ตัดหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญที่กันสำรองครบร้อยละ 100 แล้วออกจากบัญชี รวมเป็นจำนวน 0.8 พันล้านบาท
3) อื่นๆ เช่น จำนวนเงินที่รับชำระหนี้ การตัดหนี้สูญเนื่องจากหมดสิทธิเรียกร้องการขายหนี้ เป็นต้น รวมเป็นจำนวน 5.3 พันล้านบาท
2.2การเปลี่ยนแปลง NPL ในเดือนพฤศจิกายน 2543 พิจารณาตามกลุ่มสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) แสดงได้ดังนี้
2.2.1ธนาคารเอกชนมี NPL ลดลงสุทธิ 3.4 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.63 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 531.8 พันล้านบาท
2.2.2ธนาคารของรัฐมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 2.5 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.52 ของ NPL สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 485.5 พันล้านบาท
2.2.3สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL ลดลงสุทธิ 0.7 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.77 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 40.0 พันล้านบาท
2.2.4บริษัทเงินทุนมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.3 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.60 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 56.9 พันล้านบาท
2.3การเปลี่ยนแปลง NPL ในเดือนพฤศจิกายน 2543 พิจารณาตามประเภทธุรกิจ แสดงได้ดังนี้
2.3.1NPL รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 13.6 พันล้านบาท อยู่ในภาคอุตสาหกรรม 5.6 พันล้านบาท การค้าส่งและค้าปลีก 1.7 พันล้านบาท และการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล 1.6 พันล้านบาท
2.3.2NPL ที่เพิ่มขึ้นจากรายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้จำนวน 20.6 พันล้านบาท อยู่ในภาคอุตสาหกรรม 5.1 พันล้านบาท ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 3.4 พันล้านบาท และการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล 2.5 พันล้านบาท
3. NPL ของสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
3.1สำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ทั้งสิ้น 3.7 พันล้านบาท ลดลงจากสิ้นเดือนก่อน 0.9 พันล้านบาท และมีสินเชื่อรวม 79.0 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 4.63
3.2บริษัทเครดิตฟองซิเอร์มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ทั้งสิ้น 1.6 พันล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 0.05 พันล้านบาท และมีสินเชื่อรวม 3.5 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 46.73
4. NPL คงค้างของระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ทั้งสิ้น 1,118.3 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 4,986.6 พันล้านบาท NPL ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับร้อยละ 22.43 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.31 ณ สิ้นเดือนก่อน
5. การปรับปรุงโครงสร้างหนี้การปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จของระบบสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2543 มีจำนวนทั้งสิ้น 46.2 พันล้านบาท เป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากหนี้ NPL จำนวน 24.1 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากหนี้ที่มีการค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่เกิน 3 เดือน
6. NPL คงค้างหลังหักเงินสำรอง
6.1ระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ได้กันเงินสำรองสำหรับ NPL ส่วนที่ไม่มีหลักประกันรองรับจำนวน 404.0 พันล้านบาท ดังนั้น NPL หลังหักเงินสำรองจึงเท่ากับ 709.0 พันล้านบาท และสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับ 4,500.2 พันล้านบาท NPL หลังหักเงินสำรองต่อสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับร้อยละ 15.76
6.2ระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ได้กันเงินสำรองสำหรับ NPL ส่วนที่ไม่มีหลักประกันรองรับจำนวน 406.2 พันล้านบาทดังนั้น NPL หลังหักเงินสำรองจึงเท่ากับ 712.1 พันล้านบาท และสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับ 4,580.5 พันล้านบาท NPL หลังหักเงินสำรองต่อสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับร้อยละ 15.55
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/8 มกราคม 2544--
-ยก-