นายการุณ กิตติสถาพร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2544 (ม.ค.-มิ.ย.) มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย มีมูลค่ารวม 46,802 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2543 ร้อยละ 4.3 เป็นมูลค่าการส่งออก 32,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 และมูลค่าการนำเข้า 14,650 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.6 ไทยยังคงได้ดุลการค้ามูลค่า 17,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 สินค้าสำคัญในการส่งออกยังคงเป็นสินค้าประเภทยางพาราและผลิตภัณฑ์ รองลงไปได้แก่ เครื่องจักร/เครื่องใช้กล/ส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้า/เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า สัตว์น้ำมีชีวิต/แช่แข็ง อาหารบรรจุกระป๋อง ถุงมือยาง ผักสด/ผลไม้ และไม้ยางพาราแปรรูป เป็นต้น สำหรับการนำเข้าสินค้าสำคัญเป็นประเภท เครื่องจักร/เครื่องใช้กล/ส่วนประกอบ หลอดภาพโทรทัศน์ ไม้แปรรูป/ไม้หมอน/ไม้อัด และเหล็ก/ผลิตภัณฑ์ทำจากเหล็ก เป็นต้น
นายการุณฯ กล่าวว่า จากสถิติดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การเพิ่มขึ้นของมูลค่าการค้าชายแดนในครึ่งแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง หากเปรียบเทียบการเพิ่มขึ้นในระยะเดียวกันของปี 2543 กับ ปี 2542 ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30.4 ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้สำนักงานการค้าต่างประเทศจังหวัดสงขลา ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้อันประกอบด้วย จังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จัดทำโครงการ “การดำเนินการเพื่อส่งเสริมและแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย” โดยจัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ออกไปพบปะ รับฟังประเด็นปัญหาข้อขัดข้องในการทำการค้าชายแดนในพื้นที่ที่ทำการค้าชายแดน 5 จังหวัดภาคใต้ หากปัญหาใดสามารถดำเนินการแก้ไขได้ก็ให้ดำเนินการทันที หากแก้ไขไม่ได้ก็ให้รับมาเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เริ่มดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 6 — 9 สิงหาคม 2544 นี้ ผู้ประกอบการการค้าชายแดนที่สนใจติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้กับหน่วยงานที่กล่าวมาแล้วโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
นายการุณฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวได้เริ่มครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2543 ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง จากการดำเนินการที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเข้าร่วมชี้แจงปัญหาต่างๆ สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการได้ระดับหนึ่ง และยังส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ช่วงครึ่งหลังของปี 2543 มีมูลค่าสูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก ฉะนั้นคาดได้ว่าจากการดำเนินโครงการครั้งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในการทำการค้าชายแดน รวมทั้งเป็นการชักชวนให้ผู้ประกอบการหันมาทำการค้าชายแดนในระบบมากยิ่งขึ้น คาดว่าถึงสิ้นปี 2544 จะมีมูลค่าการค้ารวมถึงแสนล้านบาทอย่างแน่นอน--จบ--
--กรมการค้าต่างประเทศ สิงหาคม 2544--
-อน-
นายการุณฯ กล่าวว่า จากสถิติดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การเพิ่มขึ้นของมูลค่าการค้าชายแดนในครึ่งแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง หากเปรียบเทียบการเพิ่มขึ้นในระยะเดียวกันของปี 2543 กับ ปี 2542 ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30.4 ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้สำนักงานการค้าต่างประเทศจังหวัดสงขลา ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้อันประกอบด้วย จังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จัดทำโครงการ “การดำเนินการเพื่อส่งเสริมและแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย” โดยจัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ออกไปพบปะ รับฟังประเด็นปัญหาข้อขัดข้องในการทำการค้าชายแดนในพื้นที่ที่ทำการค้าชายแดน 5 จังหวัดภาคใต้ หากปัญหาใดสามารถดำเนินการแก้ไขได้ก็ให้ดำเนินการทันที หากแก้ไขไม่ได้ก็ให้รับมาเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เริ่มดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 6 — 9 สิงหาคม 2544 นี้ ผู้ประกอบการการค้าชายแดนที่สนใจติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้กับหน่วยงานที่กล่าวมาแล้วโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
นายการุณฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวได้เริ่มครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2543 ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง จากการดำเนินการที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเข้าร่วมชี้แจงปัญหาต่างๆ สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการได้ระดับหนึ่ง และยังส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ช่วงครึ่งหลังของปี 2543 มีมูลค่าสูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก ฉะนั้นคาดได้ว่าจากการดำเนินโครงการครั้งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในการทำการค้าชายแดน รวมทั้งเป็นการชักชวนให้ผู้ประกอบการหันมาทำการค้าชายแดนในระบบมากยิ่งขึ้น คาดว่าถึงสิ้นปี 2544 จะมีมูลค่าการค้ารวมถึงแสนล้านบาทอย่างแน่นอน--จบ--
--กรมการค้าต่างประเทศ สิงหาคม 2544--
-อน-