อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่: ความสำคัญของระบบการชำระเงินที่สะดวกต่อความสำเร็จของธุรกรรม B2B

ผู้ประกอบการที่ทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศหลายรายยังประสบปัญหาเกี่ยวกับความยุ่งยาก ในเรื่องของกระบวนการชำระเงินระหว่างประเทศ โดย Gregg M. Adelsheimer ประธาน National Sporting Goods กล่าวว่า "ปริมาณธุรกรรมการส่งมอบสินค้ากว่า 30-40 รายการในแต่ละปี ซึ่งครอบคลุมการส่งสินค้าจากผู้ค้าในอาเซียน ยังคงมีต้นทุนทางด้านแรงงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆ สูงมาก" ทั้งนี้ เนื่องจากระบบการชำระเงินในปัจจุบันยังคงเป็นรูปแบบเดิมๆ กล่าวคือ วงเงินเครดิตของผู้ซื้อจะต้องถูกกันไว้ก่อน ผู้ขายจึงจะส่งสินค้าให้ หรือต้องออก L/C (Letters of credit) หรือทำ credit insurance ส่งให้ก่อน ซึ่งรูปแบบการค้าเหล่านี้มีต้นทุนสูงและใช้เวลาค่อนข้างมาก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกรรม online โดยเฉพาะธุรกรรม B2B ที่กำลังเป็นที่รู้จักและขยายตัวอย่างมาก
การชำระเงินในธุรกรรม B2B ในปัจจุบันยังคงทำในลักษณะ Paper - Based เนื่องจากมีมูลค่าธุรกรรมค่อนข้างสูง นอกจากนี้ เครื่องมือในกระบวนการชำระเงินที่มีอยู่ก็มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันอีกด้วย ปัจจุบัน TradeCard เป็นผู้พัฒนาระบบการค้าและการชำระเงิน B2B ขึ้นมาทดแทนการออก L/C และการเรียกเก็บเงิน รวมทั้ง ลดปริมาณงานด้านเอกสาร ซึ่งช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายทางการเงินของผู้ที่อยู่ในกลุ่ม Automate Financial Supply Chain ได้ถึง 50-100 basis points ต่อรายการ นอกจากนี้ยังมี iPlanet โปรแกรมการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่ออกโดย Sun Microsystems ที่ผู้ซื้อสามารถทำรายการชำระเงินและควบคุมติดตามการชำระเงินทาง online ได้ และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงได้ส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการชำระเงินสำหรับการค้า B2B จำนวนมากยังคงมีลักษณะเป็น Paper-Based และอยู่ในอำนาจการควบคุมของผู้ขาย
--จุลสารระบบการชำระเงิน/ตุลาคม 2544--
-ยก-