ข่าวในประเทศ
1. เศรษฐกิจปี 44 มีแนวโน้มชะลอตัวลงอยู่ที่ระดับบีบวกถึงซีลบ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ธปท.กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง "เศรษฐกิจไทยปี 44 : ความหวัง..ความอยู่รอด" เมื่อ 19 ธ.ค.44 ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวลง หากเทียบเป็นคะแนนจะอยู่ที่ระดับ B+ ถึง C- ขึ้นอยู่กับนโยบายแก้ปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ รวมทั้งปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การส่งออกอาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ สรอ.ที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ดังนั้นรัฐบาลใหม่ต้องพยายามกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน และการลงทุนภาคเอกชน สำหรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 2.6 ในไตรมาสที่ 3 ตามที่ สศช.ประกาศนั้น เป็นไปตามที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ แต่เชื่อว่าไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจจะขยายตัวสูงขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายในช่วงเลือกตั้ง (ไทยโพสต์ 20)
2. ธนาคารไอเอ็นจี แบริ่งส์คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะถดถอยอีกครั้ง ธนาคารไอเอ็นจี แบริ่งส์ เสนอรายงานเมื่อ 19 ธ.ค.43 ว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยรอบสอง หากไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ขณะเดียวกันได้ปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 44 จากร้อยละ 4.8 เหลือร้อยละ 4 ส่วนการที่ ธปท.พยายามแทรกแซงค่าเงินบาทมิให้อ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ.นั้น ไม่สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอของเศรษฐกิจไทย และยิ่งฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ คาดว่าในไตรมาสที่ 4 ปี 43 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวชะลอลงเหลือร้อยละ 2 และหากการส่งออกไม่สดใสในปีหน้า ไทยจะกลับสู่ความตกต่ำทางเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง สำหรับค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนลงอยู่ที่ 44.50 บาท/ดอลลาร์ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ระยะ 3 เดือนจะลดลงเหลือร้อยละ 3 (กรุงเทพธุรกิจ 20)
3. สศก.ไม่สั่งฟ้องอดีตผู้บริหาร ธพ. 3 แห่ง ผู้บังคับการกองสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนมีความเห็นไม่สั่งฟ้องอดีตผู้บริหาร ธพ. 3 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินบริษัทในเครือของ บง.เอกธนกิจ (ฟินวัน) ซึ่งรวมถึงนายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล และนายจักรทิพย์ นิติพน เนื่องจากเห็นว่าการทำธุรกรรมรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัทลูกในเครือฟินวันนั้น ถือเป็นการทำธุรกรรมตามปกติของสถาบันการเงิน (เดลินิวส์ 20)
4. ธปท.ปรับบทบาทตลาดอาร์พีเป็นของเอกชน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวถึงการสร้างกลไกการดำเนินนโยบายการเงินว่า ปัจจุบัน ธปท.ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมซื้อขายในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) ทำให้รับความเสี่ยงทั้งระบบไว้เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่เป็นสากล ควรให้ภาคเอกชนดำเนินการเอง โดยให้มีการทำสัญญาเป็นคู่ ในส่วนของบทบาทหลักในการดูดซับเงินนั้น ธปท. จะทำธุรกรรมผ่านคู่ค้าของจำนวน 9 ราย และเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่สถาบันการเงินคู่ค้า ธปท.จะซ้อมการทำอาร์พีเฉพาะรายกับสถาบันการเงินฯ ตั้งแต่ต้นปี 44 ในส่วนการทำอาร์พีระหว่างเอกชน ธปท.ได้เตรียมความพร้อมโดยการยกร่างสัญญามาตรฐานไว้แล้ว และเมื่อตลาดอาร์พีเอกชนมีความคล่องตัว ธปท.จะลดบทบาทการทำหน้าที่ในตลาดดังกล่าวลง (วัฏจักร 20)
ข่าวต่างประเทศ
1. ธ. กลาง สรอ. ไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 43 ธ. กลาง สรอ. ประกาศไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 43 โดยคง Federal funds rate และ Discount rate ไว้ที่ร้อยละ 6.5 และ ร้อยละ 6 ตามลำดับ แต่เตือนว่าการที่เศรษฐกิจ สรอ. กำลังชะลอตัวอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง และเป็นสัญญาณว่า ธ. กลางกำลังเตรียมลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ( รอยเตอร์ 19)
2. สรอ. ขาดดุลการค้าลดลงในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 43 สรอ. ขาดดุลการค้าอยู่ที่มูลค่า 33.18 พัน ล. ดอลลาร์ ลดลงจากมูลค่า 33.74 พัน ล.ดอลลาร์ ในเดือน ก.ย. 43 โดยการนำเข้าอยู่ที่มูลค่า 124.42 พัน ล. ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.6 จากมูลค่า 126.40 พัน ล. ดอลลาร์ในเดือน ก.ย. 43 ขณะเดียวกัน การส่งออก อยู่ที่มูลค่า 91.23 พัน ล. ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.5 จากมูลค่า 92.65 พัน ล. ดอลลาร์ ในเดือน ก.ย. 43 ทั้งนี้ การขาดดุลฯ ที่ลดลงในเดือนดังกล่าว เนื่องจากการนำเข้าทั้งรถยนต์ สินค้าอุตสาหกรรมและอาหารลดลง ซึ่งจากรายงานครั้งนี้ สนับสนุนตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ชี้ว่าเศรษฐกิจ สรอ. กำลังชะลอตัวลง (รอยเตอร์19)
3. ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าลดลงร้อยละ 9.8 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.43 ก.คลังญี่ปุ่นรายงานว่า เดือน พ.ย.43 ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าก่อนปรับฤดูกาล อยู่ที่มูลค่า 598.5 พัน ล.เยน (5.32 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) ลดลงร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 42 และลดลงร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.43 ซึ่งในเดือน พ.ย.นี้ ญี่ปุ่นเกินดุลฯ ลดลงมากเกินความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 10.1 ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 42 อย่างไรก็ตาม หากปรับปัจจัยฤดูกาลแล้ว ญี่ปุ่นเกินดุลฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 จากเดือน ต.ค.43 อยู่ที่มูลค่า 624.5 พัน ล.เยน โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 ขณะที่การนำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 ทั้งนี้ ในปี 43 ญี่ปุ่นเกินดุลฯ ลดลงเนื่องจากมีการนำเข้าสินค้ามากกว่าการส่งออก โดยมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันนำเข้าสูงขึ้น และผู้ผลิตย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศในเอเชียที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า นอกจากนั้น การชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ สรอ. และเอเชียยังมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบให้การส่งออกของญี่ปุ่นชะลอลงในเดือนต่อ ๆ ไป (รอยเตอร์ 20)
4. เงินเฟ้อของ 11 ประเทศในกลุ่มยูโรขยายตัวขึ้นอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.9 ในเดือน พ.ย. 43 รายงานจากบรัสเซลส์เมื่อวันที่19 ธ.ค. 43 สำนักงานสถิติกลางของกลุ่มยูโร (Eurostat) รายงานว่า เดือน พ.ย. 43 ดัชนีราคาผู้บริโภคของ 11 ประเทศในกลุ่มยูโรขยายตัวมากที่สุดตั้งแต่ช่วงต้นปี 37 อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.9 จากร้อยละ 2.7 ในเดือน ต.ค. 43 และจากร้อยละ 1.5 ในเดือนเดียวกันของปี 42 ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อของ15 ประเทศในสหภาพ
ยุโรปเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 2.6 จากร้อยละ 2.4 ในเดือน ต.ค. 43 และจากร้อยละ 1.4 ในปี 42 (รอยเตอร์ 19)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 19 ธ.ค.43 43.161 (43.324)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 19ธ.ค. 43
ซื้อ 43.0520 (43.1759) ขาย 43.3623 (43.4897)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 21.62 (22.49)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.19 (16.19) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. เศรษฐกิจปี 44 มีแนวโน้มชะลอตัวลงอยู่ที่ระดับบีบวกถึงซีลบ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ธปท.กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง "เศรษฐกิจไทยปี 44 : ความหวัง..ความอยู่รอด" เมื่อ 19 ธ.ค.44 ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวลง หากเทียบเป็นคะแนนจะอยู่ที่ระดับ B+ ถึง C- ขึ้นอยู่กับนโยบายแก้ปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ รวมทั้งปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การส่งออกอาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ สรอ.ที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ดังนั้นรัฐบาลใหม่ต้องพยายามกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน และการลงทุนภาคเอกชน สำหรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 2.6 ในไตรมาสที่ 3 ตามที่ สศช.ประกาศนั้น เป็นไปตามที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ แต่เชื่อว่าไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจจะขยายตัวสูงขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายในช่วงเลือกตั้ง (ไทยโพสต์ 20)
2. ธนาคารไอเอ็นจี แบริ่งส์คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะถดถอยอีกครั้ง ธนาคารไอเอ็นจี แบริ่งส์ เสนอรายงานเมื่อ 19 ธ.ค.43 ว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยรอบสอง หากไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ขณะเดียวกันได้ปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 44 จากร้อยละ 4.8 เหลือร้อยละ 4 ส่วนการที่ ธปท.พยายามแทรกแซงค่าเงินบาทมิให้อ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ.นั้น ไม่สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอของเศรษฐกิจไทย และยิ่งฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ คาดว่าในไตรมาสที่ 4 ปี 43 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวชะลอลงเหลือร้อยละ 2 และหากการส่งออกไม่สดใสในปีหน้า ไทยจะกลับสู่ความตกต่ำทางเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง สำหรับค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนลงอยู่ที่ 44.50 บาท/ดอลลาร์ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ระยะ 3 เดือนจะลดลงเหลือร้อยละ 3 (กรุงเทพธุรกิจ 20)
3. สศก.ไม่สั่งฟ้องอดีตผู้บริหาร ธพ. 3 แห่ง ผู้บังคับการกองสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนมีความเห็นไม่สั่งฟ้องอดีตผู้บริหาร ธพ. 3 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินบริษัทในเครือของ บง.เอกธนกิจ (ฟินวัน) ซึ่งรวมถึงนายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล และนายจักรทิพย์ นิติพน เนื่องจากเห็นว่าการทำธุรกรรมรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัทลูกในเครือฟินวันนั้น ถือเป็นการทำธุรกรรมตามปกติของสถาบันการเงิน (เดลินิวส์ 20)
4. ธปท.ปรับบทบาทตลาดอาร์พีเป็นของเอกชน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวถึงการสร้างกลไกการดำเนินนโยบายการเงินว่า ปัจจุบัน ธปท.ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมซื้อขายในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) ทำให้รับความเสี่ยงทั้งระบบไว้เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่เป็นสากล ควรให้ภาคเอกชนดำเนินการเอง โดยให้มีการทำสัญญาเป็นคู่ ในส่วนของบทบาทหลักในการดูดซับเงินนั้น ธปท. จะทำธุรกรรมผ่านคู่ค้าของจำนวน 9 ราย และเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่สถาบันการเงินคู่ค้า ธปท.จะซ้อมการทำอาร์พีเฉพาะรายกับสถาบันการเงินฯ ตั้งแต่ต้นปี 44 ในส่วนการทำอาร์พีระหว่างเอกชน ธปท.ได้เตรียมความพร้อมโดยการยกร่างสัญญามาตรฐานไว้แล้ว และเมื่อตลาดอาร์พีเอกชนมีความคล่องตัว ธปท.จะลดบทบาทการทำหน้าที่ในตลาดดังกล่าวลง (วัฏจักร 20)
ข่าวต่างประเทศ
1. ธ. กลาง สรอ. ไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 43 ธ. กลาง สรอ. ประกาศไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 43 โดยคง Federal funds rate และ Discount rate ไว้ที่ร้อยละ 6.5 และ ร้อยละ 6 ตามลำดับ แต่เตือนว่าการที่เศรษฐกิจ สรอ. กำลังชะลอตัวอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง และเป็นสัญญาณว่า ธ. กลางกำลังเตรียมลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ( รอยเตอร์ 19)
2. สรอ. ขาดดุลการค้าลดลงในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 43 สรอ. ขาดดุลการค้าอยู่ที่มูลค่า 33.18 พัน ล. ดอลลาร์ ลดลงจากมูลค่า 33.74 พัน ล.ดอลลาร์ ในเดือน ก.ย. 43 โดยการนำเข้าอยู่ที่มูลค่า 124.42 พัน ล. ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.6 จากมูลค่า 126.40 พัน ล. ดอลลาร์ในเดือน ก.ย. 43 ขณะเดียวกัน การส่งออก อยู่ที่มูลค่า 91.23 พัน ล. ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.5 จากมูลค่า 92.65 พัน ล. ดอลลาร์ ในเดือน ก.ย. 43 ทั้งนี้ การขาดดุลฯ ที่ลดลงในเดือนดังกล่าว เนื่องจากการนำเข้าทั้งรถยนต์ สินค้าอุตสาหกรรมและอาหารลดลง ซึ่งจากรายงานครั้งนี้ สนับสนุนตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ชี้ว่าเศรษฐกิจ สรอ. กำลังชะลอตัวลง (รอยเตอร์19)
3. ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าลดลงร้อยละ 9.8 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.43 ก.คลังญี่ปุ่นรายงานว่า เดือน พ.ย.43 ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าก่อนปรับฤดูกาล อยู่ที่มูลค่า 598.5 พัน ล.เยน (5.32 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) ลดลงร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 42 และลดลงร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.43 ซึ่งในเดือน พ.ย.นี้ ญี่ปุ่นเกินดุลฯ ลดลงมากเกินความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 10.1 ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 42 อย่างไรก็ตาม หากปรับปัจจัยฤดูกาลแล้ว ญี่ปุ่นเกินดุลฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 จากเดือน ต.ค.43 อยู่ที่มูลค่า 624.5 พัน ล.เยน โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 ขณะที่การนำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 ทั้งนี้ ในปี 43 ญี่ปุ่นเกินดุลฯ ลดลงเนื่องจากมีการนำเข้าสินค้ามากกว่าการส่งออก โดยมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันนำเข้าสูงขึ้น และผู้ผลิตย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศในเอเชียที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า นอกจากนั้น การชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ สรอ. และเอเชียยังมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบให้การส่งออกของญี่ปุ่นชะลอลงในเดือนต่อ ๆ ไป (รอยเตอร์ 20)
4. เงินเฟ้อของ 11 ประเทศในกลุ่มยูโรขยายตัวขึ้นอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.9 ในเดือน พ.ย. 43 รายงานจากบรัสเซลส์เมื่อวันที่19 ธ.ค. 43 สำนักงานสถิติกลางของกลุ่มยูโร (Eurostat) รายงานว่า เดือน พ.ย. 43 ดัชนีราคาผู้บริโภคของ 11 ประเทศในกลุ่มยูโรขยายตัวมากที่สุดตั้งแต่ช่วงต้นปี 37 อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.9 จากร้อยละ 2.7 ในเดือน ต.ค. 43 และจากร้อยละ 1.5 ในเดือนเดียวกันของปี 42 ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อของ15 ประเทศในสหภาพ
ยุโรปเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 2.6 จากร้อยละ 2.4 ในเดือน ต.ค. 43 และจากร้อยละ 1.4 ในปี 42 (รอยเตอร์ 19)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 19 ธ.ค.43 43.161 (43.324)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 19ธ.ค. 43
ซื้อ 43.0520 (43.1759) ขาย 43.3623 (43.4897)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 21.62 (22.49)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.19 (16.19) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-