ข่าวในประเทศ
1. ธปท.เชิญ ธพ.หารือเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.เอเชีย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ว่าการ ธปท. ว่า ธปท.ได้ชี้แจงเกี่ยวกับภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจ รวมทั้งสิ่งที่เป็นกังวลให้สมาคมธนาคารไทยรับทราบ โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธปท.เป็นห่วงว่าจะเป็นการลดเพียงด้านเดียว จึงขอให้สมาคมธนาคารฯ พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย เพื่อช่วยลูกค้าที่ดีและกระตุ้นให้สินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ธปท.เห็นว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายของธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือน ก.ค.43 ซึ่งมีส่วนต่างร้อยละ 1.28 นั้น ทำให้ ธพ.มีช่องว่างพอที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงได้อีก ซึ่ง ธพ.แต่ละแห่งต้องนำไปพิจารณาตามสถานะของแต่ละธนาคาร (กรุงเทพธุรกิจ 14)
2. ธปท.อนุญาตให้สถาบันการเงินขยายขอบเขตการทำธุรกิจ ผู้บริหารอาวุโส ส่วนพัฒนานโยบายระยะยาว สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท.เปิดเผยว่า ธปท.ได้อนุญาตให้ ธพ.สามารถประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้กู้ยืมหลักทรัพย์ และการขายชอร์ตได้ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้มีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการอนุญาตดังกล่าวจะทำให้สามารถทำหน้าที่ของ Market Maker ในตลาดรองได้ดี หลังจากที่ ธปท.เคยอนุญาตให้ ธพ.ทำได้เพียงการเป็นตัวแทนหรือนายหน้าเท่านั้น ให้ ธพ.ที่มีคุณสมบัติคือ มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง และภาระผูกพันไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนด และมีความพร้อมในการประกอบธุรกิจ มีระบบควบคุมภายใน ระบบบริหารความเสี่ยง รวมถึงระบบการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ยื่นแผนการประกอบธุรกิจที่แสดงถึงความพร้อมมาให้ ธปท. พิจารณาอย่างน้อย 30 วัน ก่อนเริ่มประกอบธุรกิจ (ไทยโพสต์ 14)
3. ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าวถึงการว่าจ้าง บ.เฟอร์รียร์ ฮอดจ์สัน เป็นที่ปรึกษากองทุนฟื้นฟู ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.สายจัดการกองทุนเปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินได้ว่าจ้างบริษัทเฟอร์เรียร์ ฮอดจ์สัน เป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยประเมินความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างหนี้ของ ธพ.ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถือหุ้นอยู่ เนื่องจากแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมา มีบางประเด็นที่ต้องขออนุญาตจากกองทุนฟื้นฟูฯ ก่อน เช่น การปรับโครงสร้างของผู้บริหาร การปรับโครงสร้างหนี้ของลูกค้าเดิม ที่ต้องตัดหนี้สูญและการตีราคาการขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ เป็นต้น การว่าจ้างบริษัทฯ ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ามีความสามารถและเชี่ยวชาญการปรับโครงสร้างทางการเงินและการฟื้นฟูกิจการ ขณะเดียวกันค่าธรรมเนียมอยู่ในอัตราต่ำกว่ารายอื่นๆ โดยทำสัญญาว่าจ้างเป็นเวลา 5 เดือน หลังจากนั้นจะมีการประเมินและต่อสัญญาใหม่อีกครั้ง ซึ่งการว่าจ้างบริษัทฯ จะช่วยให้การตัดสินใจของกองทุนฟื้นฟูฯ เป็นไปในเชิงพาณิชย์มากขึ้น (แนวหน้า 14)
4. ก.คลังอาจไม่สามารถออกพันธบัตรชดเชยความเสียหายให้กองทุนฟื้นฟูได้ แหล่งข่าวจาก ก.คลังกล่าวถึงการออกพันธบัตรชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 1-2 แสน ล.บาท ว่า จากการพิจารณาเบื้องต้น ก.คลังไม่สามารถออกพันธบัตรโดยใช้กฎหมายให้อำนาจ ก.คลังค้ำประกัน เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ เนื่องจากตามกฎหมาย ก.คลังจะค้ำประกันการออกพันธบัตรได้ต่อเมื่อทุนของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ มีทุนประเดิมจากรัฐบาล (เดลินิวส์,วัฏจักร 14)
ข่าวต่างประเทศ
1. สรอ. ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 13 ก.ย.43 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า ไตรมาสที่ 2 ปี 43 สรอ. ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปรับฤดูกาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 หรือเท่ากับจำนวน 106.14 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่ขาดดุลฯ 101.51 พัน ล.ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 1 ปี 43 เป็นการขาดดุลฯ จำนวนมากที่สุดนับแต่มีการจัดเก็บข้อมูล แต่ยังต่ำกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดว่า สรอ. จะขาดดุลฯ ถึงจำนวน 131.3 พัน ล.ดอลลาร์ ทั้งนี้ การขาดดุลฯ เพิ่มขึ้นมากในไตรมาสที่ 2 นี้ มีสาเหตุหลักมาจากการขาดดุลการค้าซึ่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่จำนวน 110.22 พัน ล.ดอลลาร์ จากจำนวน 105.84 พัน ล.ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 1 เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่มีการจัดเก็บข้อมูลเช่นกัน แต่เกินดุลบริการจำนวน 20.96 พัน ล.ดอลลาร์ จากที่เกินดุลฯ 20.72 พัน ล.ดอลลาร์ ในไตรมาสก่อน โดย ก.พาณิชย์ รายงานว่า ในไตรมาสที่ 2 นี้ สรอ.นำเข้าสินค้าและบริการคิดเป็นมูลค่า 354.39 พัน ล.ดอลลาร์ ขณะที่ส่งออกสินค้าและบริการมูลค่า 265.13 พัน ล.ดอลลาร์ (รอยเตอร์ 13)
2. ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ส.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 43 ก. แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ส.ค. 43 ราคาสินค้านำเข้าโดยรวม ที่ยังไม่ปรับตัวเลข เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.2 หลังจากที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือน ก.ค. 43 ซึ่งต่ำกว่าผลการสำรวจของรอยเตอร์ ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และต่ำกว่าระยะเดียวกันของปี 42 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 ทั้งนี้เนื่องจากราคานำเข้าปิโตรเลียมและอาหารที่สูงขึ้นชดเชยกับราคาสินค้าทุนและรถยนต์ที่ลดลง ขณะเดียวกัน ถ้าไม่รวมราคาปิโตรเลียม ราคาสินค้านำเข้าในเดือน ส.ค. 43 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ค. 43 ต่ำกว่าที่เคยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ในเดือน ส.ค. 42 สำหรับ ราคาปิโตรเลียมนำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในเดือน ส.ค. 43 หลังจากลดลงร้อยละ 1.6 ในเดือน ก.ค. 43 และเทียบกับเดือน ส.ค. 42 ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45.8 ขณะที่ราคานำเข้าอาหาร และ เครื่องดื่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 แต่ราคานำเข้าสินค้าทุน ลดลงร้อยละ 0.2 จากไม่เปลี่ยนแปลงในเดือน ก.ค. 43 และราคานำเข้ารถยนต์ และชิ้นส่วนลดลงร้อยละ 0.1 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ก.ค. 43 จากรายงานครั้งนี้ น่าจะเป็นข่าวดีที่ทำให้ ธ. กลาง คลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ในการประชุมนโยบายการเงินที่กำหนดขึ้นในวันที่ 3 ต.ค. 43 (รอยเตอร์ 13)
3. ดัชนีราคาผู้ผลิตของ สรอ. คาดว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ส.ค. 43 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 43 จากการสำรวจของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เดือน ส.ค. 43 ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) โดยรวม จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และ PPI ที่เป็นแกน ก็จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เช่นกัน (รอยเตอร์ 13)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 13ก.ย. 43 41.615 (41.441)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน)ณสิ้นวันทำการ 13 ก.ย.43
ซื้อ 41.4171 (41.2917) ขาย 41.7222 (41.5899)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,350 (5,300) ขาย 5,450 (5,400)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 30.11 (30.37)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 14.24 (14.24) หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.เชิญ ธพ.หารือเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.เอเชีย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ว่าการ ธปท. ว่า ธปท.ได้ชี้แจงเกี่ยวกับภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจ รวมทั้งสิ่งที่เป็นกังวลให้สมาคมธนาคารไทยรับทราบ โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธปท.เป็นห่วงว่าจะเป็นการลดเพียงด้านเดียว จึงขอให้สมาคมธนาคารฯ พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย เพื่อช่วยลูกค้าที่ดีและกระตุ้นให้สินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ธปท.เห็นว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายของธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือน ก.ค.43 ซึ่งมีส่วนต่างร้อยละ 1.28 นั้น ทำให้ ธพ.มีช่องว่างพอที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงได้อีก ซึ่ง ธพ.แต่ละแห่งต้องนำไปพิจารณาตามสถานะของแต่ละธนาคาร (กรุงเทพธุรกิจ 14)
2. ธปท.อนุญาตให้สถาบันการเงินขยายขอบเขตการทำธุรกิจ ผู้บริหารอาวุโส ส่วนพัฒนานโยบายระยะยาว สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท.เปิดเผยว่า ธปท.ได้อนุญาตให้ ธพ.สามารถประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้กู้ยืมหลักทรัพย์ และการขายชอร์ตได้ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้มีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการอนุญาตดังกล่าวจะทำให้สามารถทำหน้าที่ของ Market Maker ในตลาดรองได้ดี หลังจากที่ ธปท.เคยอนุญาตให้ ธพ.ทำได้เพียงการเป็นตัวแทนหรือนายหน้าเท่านั้น ให้ ธพ.ที่มีคุณสมบัติคือ มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง และภาระผูกพันไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนด และมีความพร้อมในการประกอบธุรกิจ มีระบบควบคุมภายใน ระบบบริหารความเสี่ยง รวมถึงระบบการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ยื่นแผนการประกอบธุรกิจที่แสดงถึงความพร้อมมาให้ ธปท. พิจารณาอย่างน้อย 30 วัน ก่อนเริ่มประกอบธุรกิจ (ไทยโพสต์ 14)
3. ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าวถึงการว่าจ้าง บ.เฟอร์รียร์ ฮอดจ์สัน เป็นที่ปรึกษากองทุนฟื้นฟู ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.สายจัดการกองทุนเปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินได้ว่าจ้างบริษัทเฟอร์เรียร์ ฮอดจ์สัน เป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยประเมินความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างหนี้ของ ธพ.ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถือหุ้นอยู่ เนื่องจากแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมา มีบางประเด็นที่ต้องขออนุญาตจากกองทุนฟื้นฟูฯ ก่อน เช่น การปรับโครงสร้างของผู้บริหาร การปรับโครงสร้างหนี้ของลูกค้าเดิม ที่ต้องตัดหนี้สูญและการตีราคาการขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ เป็นต้น การว่าจ้างบริษัทฯ ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ามีความสามารถและเชี่ยวชาญการปรับโครงสร้างทางการเงินและการฟื้นฟูกิจการ ขณะเดียวกันค่าธรรมเนียมอยู่ในอัตราต่ำกว่ารายอื่นๆ โดยทำสัญญาว่าจ้างเป็นเวลา 5 เดือน หลังจากนั้นจะมีการประเมินและต่อสัญญาใหม่อีกครั้ง ซึ่งการว่าจ้างบริษัทฯ จะช่วยให้การตัดสินใจของกองทุนฟื้นฟูฯ เป็นไปในเชิงพาณิชย์มากขึ้น (แนวหน้า 14)
4. ก.คลังอาจไม่สามารถออกพันธบัตรชดเชยความเสียหายให้กองทุนฟื้นฟูได้ แหล่งข่าวจาก ก.คลังกล่าวถึงการออกพันธบัตรชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 1-2 แสน ล.บาท ว่า จากการพิจารณาเบื้องต้น ก.คลังไม่สามารถออกพันธบัตรโดยใช้กฎหมายให้อำนาจ ก.คลังค้ำประกัน เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ เนื่องจากตามกฎหมาย ก.คลังจะค้ำประกันการออกพันธบัตรได้ต่อเมื่อทุนของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ มีทุนประเดิมจากรัฐบาล (เดลินิวส์,วัฏจักร 14)
ข่าวต่างประเทศ
1. สรอ. ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 13 ก.ย.43 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า ไตรมาสที่ 2 ปี 43 สรอ. ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปรับฤดูกาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 หรือเท่ากับจำนวน 106.14 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่ขาดดุลฯ 101.51 พัน ล.ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 1 ปี 43 เป็นการขาดดุลฯ จำนวนมากที่สุดนับแต่มีการจัดเก็บข้อมูล แต่ยังต่ำกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดว่า สรอ. จะขาดดุลฯ ถึงจำนวน 131.3 พัน ล.ดอลลาร์ ทั้งนี้ การขาดดุลฯ เพิ่มขึ้นมากในไตรมาสที่ 2 นี้ มีสาเหตุหลักมาจากการขาดดุลการค้าซึ่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่จำนวน 110.22 พัน ล.ดอลลาร์ จากจำนวน 105.84 พัน ล.ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 1 เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่มีการจัดเก็บข้อมูลเช่นกัน แต่เกินดุลบริการจำนวน 20.96 พัน ล.ดอลลาร์ จากที่เกินดุลฯ 20.72 พัน ล.ดอลลาร์ ในไตรมาสก่อน โดย ก.พาณิชย์ รายงานว่า ในไตรมาสที่ 2 นี้ สรอ.นำเข้าสินค้าและบริการคิดเป็นมูลค่า 354.39 พัน ล.ดอลลาร์ ขณะที่ส่งออกสินค้าและบริการมูลค่า 265.13 พัน ล.ดอลลาร์ (รอยเตอร์ 13)
2. ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ส.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 43 ก. แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ส.ค. 43 ราคาสินค้านำเข้าโดยรวม ที่ยังไม่ปรับตัวเลข เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.2 หลังจากที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือน ก.ค. 43 ซึ่งต่ำกว่าผลการสำรวจของรอยเตอร์ ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และต่ำกว่าระยะเดียวกันของปี 42 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 ทั้งนี้เนื่องจากราคานำเข้าปิโตรเลียมและอาหารที่สูงขึ้นชดเชยกับราคาสินค้าทุนและรถยนต์ที่ลดลง ขณะเดียวกัน ถ้าไม่รวมราคาปิโตรเลียม ราคาสินค้านำเข้าในเดือน ส.ค. 43 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ค. 43 ต่ำกว่าที่เคยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ในเดือน ส.ค. 42 สำหรับ ราคาปิโตรเลียมนำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในเดือน ส.ค. 43 หลังจากลดลงร้อยละ 1.6 ในเดือน ก.ค. 43 และเทียบกับเดือน ส.ค. 42 ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45.8 ขณะที่ราคานำเข้าอาหาร และ เครื่องดื่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 แต่ราคานำเข้าสินค้าทุน ลดลงร้อยละ 0.2 จากไม่เปลี่ยนแปลงในเดือน ก.ค. 43 และราคานำเข้ารถยนต์ และชิ้นส่วนลดลงร้อยละ 0.1 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ก.ค. 43 จากรายงานครั้งนี้ น่าจะเป็นข่าวดีที่ทำให้ ธ. กลาง คลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ในการประชุมนโยบายการเงินที่กำหนดขึ้นในวันที่ 3 ต.ค. 43 (รอยเตอร์ 13)
3. ดัชนีราคาผู้ผลิตของ สรอ. คาดว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ส.ค. 43 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 43 จากการสำรวจของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เดือน ส.ค. 43 ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) โดยรวม จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และ PPI ที่เป็นแกน ก็จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เช่นกัน (รอยเตอร์ 13)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 13ก.ย. 43 41.615 (41.441)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน)ณสิ้นวันทำการ 13 ก.ย.43
ซื้อ 41.4171 (41.2917) ขาย 41.7222 (41.5899)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,350 (5,300) ขาย 5,450 (5,400)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 30.11 (30.37)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 14.24 (14.24) หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-