แท็ก
จีดีพี
ข่าวในประเทศ
1. สศช.ประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 43 และ 44 เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 ขยายตัวในอัตราชะลอลงเหลือร้อยละ 2.6 เทียบกับร้อยละ 6.3 ในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากความต้องการในประเทศลดลง ต้นทุนการผลิตเพิ่มจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนในอัตราร้อยละ 4.7 หากพิจารณาเครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือน ต.ค. แสดงว่าแม้เศรษฐกิจยังขยายตัว แต่มีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3 ส่วนการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ สรอ.ยังไม่มีผลต่อการส่งออกของไทยอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 4 โดยปัจจัยที่จะส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดี และการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวในเกณฑ์ดี ทั้งนี้ คาดว่าการเติบโตของจีดีพีในปี 43 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.5 การลงทุนขยายตัวร้อยละ 4 การบริโภคในประเทศขยายตัวร้อยละ 4.8 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 20 แต่การนำเข้าขยายตัวร้อยละ 31.8 ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพีอยู่ที่ระดับร้อยละ 6.7 ขณะที่อัตราเงินฟ้อเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.7 สำหรับปี 44 เศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 4.0-4.5 โดยการขยายตัวจะเป็นลักษณะพึ่งพาอุปสงค์ในประเทศมากขึ้น การลงทุนขยายตัวร้อยละ 5.6 การบริโภคในประเทศชะลอลงเหลือร้อยละ 4 การส่งออกมีมูลค่า 74,300-75,700 ล.ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9-11 การนำเข้ามีมูลค่า 70,000-72,500 ล.ดอลาร์ มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 12.5-15 ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพีเท่ากับร้อยละ 4.2 และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.6 (วัฏจักร,ไทยโพสต์ 19)
2. แนวทางการบริหารเอ็นพีแอลสถาบันการเงินที่กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นเจ้าของ นายจักรทิพย์ นิติพน ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเอ็นพีแอลของสถาบันการเงินว่า สถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นเจ้าของคือ ธพ.จำนวน 6 แห่ง บริษัทบริหารสินทรัพย์(เอเอ็มซี) 4 แห่ง ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ มีแนวทางบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ที่มีจำนวน 1.2 ล้านล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 70 ของเอ็นพีแอลทั้งระบบ โดยมาตรการที่สำคัญ ได้แก่ การขายธนาคารรัฐให้นักลงทุนระยะยาว รวมถึงการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญเพื่อบริหารเอ็นพีแอลของเอเอ็มซี และการจ้างผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหารเอเอ็มซี ซึ่งแนวทางดังกล่าวเตรียมการเพื่อนำมาใช้ในปี 44 ในส่วนความคืบหน้าในการบริหาร กองทุนฟื้นฟูฯ จะจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศสำหรับการบริหารทรัพย์สินของกองทุน จัดการด้านทรัพย์สินและลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่กองทุนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ จัดวางระบบการควบคุมภายใน รวมถึงการตรวจสอบการปฏิบัติงาน เพื่อให้เป็นไปตามระบบการควบคุมภายในที่ดี (กรุงเทพธุรกิจ 19)
3. รมช.คลังกล่าวถึงการรวมบัญชีของ ธปท. นายพิสิฐ ลี้อาธรรม รมช.คลังกล่าวถึงการแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย และ พ.ร.บ.เงินตรา เพื่อรวมบัญชีฝ่ายการธนาคารเข้ากับฝ่ายออกบัตรว่า ขึ้นอยู่กับ ธปท.ว่าจะต้องการถอนเรื่องดังกล่าวออกจากสภาหรือไม่ หากต้องการก็สามารถส่งเรื่องมายัง ก.คลัง เพื่อดำเนินการต่อไป (มติชน 19)
ข่าวต่างประเทศ
1. เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกจะขยายตัวชะลอลงในปี 44 รายงานจากโตเกียวเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 43 สถาบันพัฒนาเศรษฐกิจ (IDE) -ขององค์การส่งเสริมการค้าของญี่ปุ่น (JETRO) ประมาณการว่า เศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดใหญ่ 10 ประเทศในเอเชียตะวันออก ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียตนาม น่าจะเติบโตชะลอลงอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 6.8 ในปี 44 ลดลงร้อยละ 1 จากที่ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 7.8 ในปี 43 เนื่องจากการส่งออกจะชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลจากแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงของ สรอ. และ ยุโรป โดยความต้องการสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี่สารสนเทศกำลังโน้มต่ำลง อย่างไรก็ตาม คาดว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะยังคงสูงกว่าร้อยละ 8 เนื่องความต้องการภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ IDE ประมาณการว่า ปี 44 เศรษฐกิจ สรอ. จะเติบโตชะลอลงเหลือประมาณร้อยละ 3-4 จากที่ขยายตัวมากกว่าร้อยละ 5 ในปี 43 และเศรษฐกิจของ 15 ประเทศในสหภาพยุโรป จะเติบโตชะลอลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 ในปี 44 (รอยเตอร์18)
2. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของญี่ปุ่นจะขยายตัวร้อยละ 1.2 ในปี งปม.43/44 และจะขยายตัวร้อยละ 1.7 ในปี งปม. 44/45 รายงานจากโตเกียว เมื่อ18 ธ.ค.43 รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า ปี งปม.43/44 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.44 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) จะขยายตัวลดลงอยู่ที่ร้อยละ 1.2 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 1.5 ส่วนปี งปม. 44/45 ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือน เม.ย.44 GDP จะขยายตัวร้อยละ 1.7 โดยคาดว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ใหญ่สุดของระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นแต่เป็นส่วนประกอบที่อ่อนแอที่สุดในขณะนี้ จะขยายตัวร้อยละ 1.5 เพิ่มขึ้นจากปี งปม.43/44 ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.6 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 1.2 ขณะที่การใช้จ่ายลงทุนของบริษัทจะขยายตัวร้อยละ 3.8 เท่ากับปี งปม.43/44 ซึ่งถูกปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 6.5 ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงขยายตัว แต่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งสอดคล้องกับที่ ธ.กลางญี่ปุ่นระบุในรายงานเศรษฐกิจประจำเดือน ธ.ค.43 ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงค่อย ๆ ฟื้นตัว แต่ฟื้นตัวในระดับที่ช้าลง โดยมีสาเหตุจากการส่งออกชะลอตัว เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ สรอ. และเอเชีย (รอยเตอร์ 18)
3. สถาบันวิจัยเศรษฐกิจชี้ เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงในปี 44 รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.43 Institute for World Economics (IfW) ซึ่งเป็น 1 ในสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนี ประมาณการว่า ปี 44 เศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ร้อยละ 2.4 จากที่ขยายตัวร้อยละ 3.0 ในปี 43โดยมีสาเหตุมาจากการส่งออกซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอ่อนตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่นโยบายการลดภาษีซึ่งจะมีผลในปี 44 จะสามารถฉุดเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอยไปได้ (รอยเตอร์ 18)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 18 ธ.ค.43 43.324 (43.437) อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 18ธ.ค. 43
ซื้อ 43.1759 (43.2325) ขาย 43.4897 (43.5444) ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600) น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 22.49 (22.62) น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.19 (16.49) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64) หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. สศช.ประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 43 และ 44 เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 ขยายตัวในอัตราชะลอลงเหลือร้อยละ 2.6 เทียบกับร้อยละ 6.3 ในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากความต้องการในประเทศลดลง ต้นทุนการผลิตเพิ่มจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนในอัตราร้อยละ 4.7 หากพิจารณาเครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือน ต.ค. แสดงว่าแม้เศรษฐกิจยังขยายตัว แต่มีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3 ส่วนการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ สรอ.ยังไม่มีผลต่อการส่งออกของไทยอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 4 โดยปัจจัยที่จะส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดี และการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวในเกณฑ์ดี ทั้งนี้ คาดว่าการเติบโตของจีดีพีในปี 43 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.5 การลงทุนขยายตัวร้อยละ 4 การบริโภคในประเทศขยายตัวร้อยละ 4.8 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 20 แต่การนำเข้าขยายตัวร้อยละ 31.8 ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพีอยู่ที่ระดับร้อยละ 6.7 ขณะที่อัตราเงินฟ้อเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.7 สำหรับปี 44 เศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 4.0-4.5 โดยการขยายตัวจะเป็นลักษณะพึ่งพาอุปสงค์ในประเทศมากขึ้น การลงทุนขยายตัวร้อยละ 5.6 การบริโภคในประเทศชะลอลงเหลือร้อยละ 4 การส่งออกมีมูลค่า 74,300-75,700 ล.ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9-11 การนำเข้ามีมูลค่า 70,000-72,500 ล.ดอลาร์ มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 12.5-15 ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพีเท่ากับร้อยละ 4.2 และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.6 (วัฏจักร,ไทยโพสต์ 19)
2. แนวทางการบริหารเอ็นพีแอลสถาบันการเงินที่กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นเจ้าของ นายจักรทิพย์ นิติพน ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเอ็นพีแอลของสถาบันการเงินว่า สถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นเจ้าของคือ ธพ.จำนวน 6 แห่ง บริษัทบริหารสินทรัพย์(เอเอ็มซี) 4 แห่ง ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ มีแนวทางบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ที่มีจำนวน 1.2 ล้านล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 70 ของเอ็นพีแอลทั้งระบบ โดยมาตรการที่สำคัญ ได้แก่ การขายธนาคารรัฐให้นักลงทุนระยะยาว รวมถึงการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญเพื่อบริหารเอ็นพีแอลของเอเอ็มซี และการจ้างผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหารเอเอ็มซี ซึ่งแนวทางดังกล่าวเตรียมการเพื่อนำมาใช้ในปี 44 ในส่วนความคืบหน้าในการบริหาร กองทุนฟื้นฟูฯ จะจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศสำหรับการบริหารทรัพย์สินของกองทุน จัดการด้านทรัพย์สินและลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่กองทุนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ จัดวางระบบการควบคุมภายใน รวมถึงการตรวจสอบการปฏิบัติงาน เพื่อให้เป็นไปตามระบบการควบคุมภายในที่ดี (กรุงเทพธุรกิจ 19)
3. รมช.คลังกล่าวถึงการรวมบัญชีของ ธปท. นายพิสิฐ ลี้อาธรรม รมช.คลังกล่าวถึงการแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย และ พ.ร.บ.เงินตรา เพื่อรวมบัญชีฝ่ายการธนาคารเข้ากับฝ่ายออกบัตรว่า ขึ้นอยู่กับ ธปท.ว่าจะต้องการถอนเรื่องดังกล่าวออกจากสภาหรือไม่ หากต้องการก็สามารถส่งเรื่องมายัง ก.คลัง เพื่อดำเนินการต่อไป (มติชน 19)
ข่าวต่างประเทศ
1. เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกจะขยายตัวชะลอลงในปี 44 รายงานจากโตเกียวเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 43 สถาบันพัฒนาเศรษฐกิจ (IDE) -ขององค์การส่งเสริมการค้าของญี่ปุ่น (JETRO) ประมาณการว่า เศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดใหญ่ 10 ประเทศในเอเชียตะวันออก ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียตนาม น่าจะเติบโตชะลอลงอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 6.8 ในปี 44 ลดลงร้อยละ 1 จากที่ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 7.8 ในปี 43 เนื่องจากการส่งออกจะชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลจากแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงของ สรอ. และ ยุโรป โดยความต้องการสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี่สารสนเทศกำลังโน้มต่ำลง อย่างไรก็ตาม คาดว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะยังคงสูงกว่าร้อยละ 8 เนื่องความต้องการภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ IDE ประมาณการว่า ปี 44 เศรษฐกิจ สรอ. จะเติบโตชะลอลงเหลือประมาณร้อยละ 3-4 จากที่ขยายตัวมากกว่าร้อยละ 5 ในปี 43 และเศรษฐกิจของ 15 ประเทศในสหภาพยุโรป จะเติบโตชะลอลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 ในปี 44 (รอยเตอร์18)
2. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของญี่ปุ่นจะขยายตัวร้อยละ 1.2 ในปี งปม.43/44 และจะขยายตัวร้อยละ 1.7 ในปี งปม. 44/45 รายงานจากโตเกียว เมื่อ18 ธ.ค.43 รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า ปี งปม.43/44 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.44 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) จะขยายตัวลดลงอยู่ที่ร้อยละ 1.2 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 1.5 ส่วนปี งปม. 44/45 ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือน เม.ย.44 GDP จะขยายตัวร้อยละ 1.7 โดยคาดว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ใหญ่สุดของระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นแต่เป็นส่วนประกอบที่อ่อนแอที่สุดในขณะนี้ จะขยายตัวร้อยละ 1.5 เพิ่มขึ้นจากปี งปม.43/44 ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.6 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 1.2 ขณะที่การใช้จ่ายลงทุนของบริษัทจะขยายตัวร้อยละ 3.8 เท่ากับปี งปม.43/44 ซึ่งถูกปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 6.5 ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงขยายตัว แต่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งสอดคล้องกับที่ ธ.กลางญี่ปุ่นระบุในรายงานเศรษฐกิจประจำเดือน ธ.ค.43 ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงค่อย ๆ ฟื้นตัว แต่ฟื้นตัวในระดับที่ช้าลง โดยมีสาเหตุจากการส่งออกชะลอตัว เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ สรอ. และเอเชีย (รอยเตอร์ 18)
3. สถาบันวิจัยเศรษฐกิจชี้ เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงในปี 44 รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.43 Institute for World Economics (IfW) ซึ่งเป็น 1 ในสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนี ประมาณการว่า ปี 44 เศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ร้อยละ 2.4 จากที่ขยายตัวร้อยละ 3.0 ในปี 43โดยมีสาเหตุมาจากการส่งออกซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอ่อนตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่นโยบายการลดภาษีซึ่งจะมีผลในปี 44 จะสามารถฉุดเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอยไปได้ (รอยเตอร์ 18)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 18 ธ.ค.43 43.324 (43.437) อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 18ธ.ค. 43
ซื้อ 43.1759 (43.2325) ขาย 43.4897 (43.5444) ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600) น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 22.49 (22.62) น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.19 (16.49) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64) หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-