นายเกริกไกร จีระแพทย์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าในปีที่ผ่านมาไทยได้ส่งออกสินค้าภายใต้สิทธิพิเศษทางการค้าระหว่างประเทศกำลังพัฒนา(GSTP)เพิ่มขึ้นหลายรายการได้แก่ ปลาซาร์ดีนปรุงแต่ง ปลาทูนา ปลาสคิปแจ็กปรุงแต่ง ปลาเมกเคอเรลปรุงแต่ง สับปะรดปรุงแต่ง ยอดอ่อนต้นปาล์มปรุงแต่ง ผลไม้และลูกนัทปรุงแต่ง ครั่ง เรซิน กัมเซซินและชันหอม ยางธรรมชาติ เครื่องปรับอากาศ คาสก์ ดรัม กระป๋องทำจากอลูมิเนียม สินแร่และหัวแร่นิกเกิล สิ่งสกัดและน้ำคั้นที่ได้จากเนื้อสัตว์ ปลา เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวที่สีแล้ว และน้ำตาลทราย ซึ่งสามารถส่งออกได้มากที่สุดโดยเป็นการส่งออกไปยังประเทศเกาหลีใต้
การขอใช้สิทธิส่งออกภายใต้ GSTP ของไทยยังมีไม่มากนักและส่งออกไปยังไม่กี่ประเทศ โดยใน พ.ศ. 2540 ส่งออกไปเพียง 3 ประเทศคือ เกาหลีใต้ โรมาเนีย และอินเดีย มูลค่าการขอใช้สิทธิ GSTP ทั้ง 3 ประเทศรวม 191.01 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ส่วนใน พ.ศ. 2541 มูลค่า 34.98 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และปีล่าสุด พ.ศ. 2542 มีการใช้สิทธิภายใต้ GSTP เพิ่มขึ้นอีก 2 ประเทศคือ อิหร่านและยูโกสลาเวีย มูลค่าส่งออก 19.17 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
นายเกริกไกร กล่าวต่อไปว่ามูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิ GSTP ที่ผ่านมายังมีมูลค่าไม่มากนัก อาจจะเป็นเพราะว่ารายการสินค้า ที่แต่ละประเทศสมาชิกทำความตกลงกันไว้ ไม่จูงใจและได้รับสิทธิพิเศษน้อยกว่าระบบอื่นๆ เช่นภายใต้ GSP AFTA เป็นต้น และอีกประการหนึ่งที่เป็นสาเหตุทำให้มีการขอใช้สิทธิน้อยคือ การเจรจาตามข้อตกลงภายใต้ระบบ GSTP รอบที่ 2 ซึ่งกำลังเจรจาอยู่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ทำให้ยังไม่มีรายการสินค้าใหม่ที่ได้รับสิทธิเพิ่มเติม หรือสินค้าบางรายการได้รับสิทธิแต่ก็ไม่มีการส่งออก
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่าหากผู้ส่งออกและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ความสนใจและให้ความสำคัญในการขอใช้สิทธิภายใต้ระบบ GSTP มากขึ้นก็จะสามารถขยายตลาดสินค้าของตนเองได้กว้างขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการส่งออกอีกทางหนึ่งด้วย
อนึ่ง ระบบ GSTP เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศกำลังพัฒนาที่จะลดหย่อนภาษีศุลกากรระหว่างกัน ซึ่งปัจจุบันมีรายการสินค้าที่อยู่ในข้อตกลงทั้งสิ้น 1,627 รายการ โดยมีอัตราลดหย่อนภาษีร้อยละ 2.5-100 สำหรับสมาชิกที่ลงนามในข้อตกลงรวมทั้งไทยมีทั้งสิ้น 48 ประเทศเช่น เอเชียมี เกาหลีใต้ เวียดนาม บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา เป็นต้น อเมริกาใต้มี อาร์เยนตินา บราซิล โบลิเวีย ชิลี โคลัมเบีย อุรุกวัย เป็นต้น แอฟริกามี แอลจีเรีย อียิปต์ เบนิน กานา ตูนีเซีย ยุโรปตะวันออกมี ยูโกสลาเวีย โรมาเนีย เป็นต้น
--กรมการค้าต่างประเทศ กันยายน 2543--
-อน-
การขอใช้สิทธิส่งออกภายใต้ GSTP ของไทยยังมีไม่มากนักและส่งออกไปยังไม่กี่ประเทศ โดยใน พ.ศ. 2540 ส่งออกไปเพียง 3 ประเทศคือ เกาหลีใต้ โรมาเนีย และอินเดีย มูลค่าการขอใช้สิทธิ GSTP ทั้ง 3 ประเทศรวม 191.01 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ส่วนใน พ.ศ. 2541 มูลค่า 34.98 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และปีล่าสุด พ.ศ. 2542 มีการใช้สิทธิภายใต้ GSTP เพิ่มขึ้นอีก 2 ประเทศคือ อิหร่านและยูโกสลาเวีย มูลค่าส่งออก 19.17 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา
นายเกริกไกร กล่าวต่อไปว่ามูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิ GSTP ที่ผ่านมายังมีมูลค่าไม่มากนัก อาจจะเป็นเพราะว่ารายการสินค้า ที่แต่ละประเทศสมาชิกทำความตกลงกันไว้ ไม่จูงใจและได้รับสิทธิพิเศษน้อยกว่าระบบอื่นๆ เช่นภายใต้ GSP AFTA เป็นต้น และอีกประการหนึ่งที่เป็นสาเหตุทำให้มีการขอใช้สิทธิน้อยคือ การเจรจาตามข้อตกลงภายใต้ระบบ GSTP รอบที่ 2 ซึ่งกำลังเจรจาอยู่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ทำให้ยังไม่มีรายการสินค้าใหม่ที่ได้รับสิทธิเพิ่มเติม หรือสินค้าบางรายการได้รับสิทธิแต่ก็ไม่มีการส่งออก
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่าหากผู้ส่งออกและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ความสนใจและให้ความสำคัญในการขอใช้สิทธิภายใต้ระบบ GSTP มากขึ้นก็จะสามารถขยายตลาดสินค้าของตนเองได้กว้างขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการส่งออกอีกทางหนึ่งด้วย
อนึ่ง ระบบ GSTP เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศกำลังพัฒนาที่จะลดหย่อนภาษีศุลกากรระหว่างกัน ซึ่งปัจจุบันมีรายการสินค้าที่อยู่ในข้อตกลงทั้งสิ้น 1,627 รายการ โดยมีอัตราลดหย่อนภาษีร้อยละ 2.5-100 สำหรับสมาชิกที่ลงนามในข้อตกลงรวมทั้งไทยมีทั้งสิ้น 48 ประเทศเช่น เอเชียมี เกาหลีใต้ เวียดนาม บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา เป็นต้น อเมริกาใต้มี อาร์เยนตินา บราซิล โบลิเวีย ชิลี โคลัมเบีย อุรุกวัย เป็นต้น แอฟริกามี แอลจีเรีย อียิปต์ เบนิน กานา ตูนีเซีย ยุโรปตะวันออกมี ยูโกสลาเวีย โรมาเนีย เป็นต้น
--กรมการค้าต่างประเทศ กันยายน 2543--
-อน-