กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2544 ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวในระหว่างการเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับ ผลการหารือกับ นาย Alexander Downer รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย ที่ Mount Lofty House ณ เมืองอะดิเหลด ประเทศออสเตรเลีย ว่ารัฐมนตรีทั้งสองได้หารือเป็นการส่วนตัวในวันที่ 3 กรกฎาคม 2544 และได้หารือเต็มคณะอีกครั้งในวันที่ 4 กรกฎาคม 2544 สรุปได้ดังนี้
1. ความร่วมมือในกรอบพหุภาคี ฝ่ายไทยได้ขอให้ออสเตรเลียมีบทบาทที่แข็งขันยิ่งขึ้นกว่าเดิมในเรื่องของการ ร่วมมือสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยฝ่ายไทยแจ้งว่า ประเทศไทยได้หารือกับประเทศต่างๆ ในลุ่มแม่น้ำโขงเกี่ยวกับการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน อาทิ การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่สองและการพัฒนาถนนสายที่ 9 ที่จะเชื่อมไทย ลาว และเมืองท่าดานังในเวียดนาม ซึ่งไทยหารือกับประเทศทั้งสองเพื่อร่วมกันวางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ ในแถบนั้น ให้สอดคล้องและสนับสนุนซึ่งกันและกัน เช่น การจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะมีเส้นทางคมนาคมและท่าเรือสำหรับการขนส่งสินค้า และการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว การสร้างถนนจากปอยเปตไปเสียมราฐเพื่อช่วยให้การไปท่องเที่ยวที่นครวัดมีความสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งความร่วมมือกับจีนและลาวในการสร้างถนนเชื่อมภาคเหนือของประเทศไทยกับประเทศ ดังกล่าว ทั้งนี้ ประเทศไทยประสงค์ให้ภาครัฐบาลและเอกชนของออสเตรเลียมองว่าไทยเป็นประตูเข้าสู่ภูมิภาคดังกล่าว และขอให้พิจารณาการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านเศรษฐกิจต่างๆ โดยร่วมมือกับประเทศไทยอย่างใกล้ชิด
นาย Downer ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างมากและแจ้งว่าจะขอหารือกับฝ่ายไทย ในรายละเอียดอีกครั้งว่าภาคเอกชนและภาครัฐบาลของออสเตรเลียจะเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างไร
2. ความร่วมมือในกรอบ Asian Cooperation Dialogue
ฝ่ายไทยแจ้งว่า ประเทศไทยมีแนวคิดเกี่ยวกับการที่ควรให้รัฐมนตรีต่างประเทศ ของประเทศต่างๆ ในเอเชียได้มีโอกาสพบปะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือ ร่วมกันในด้านต่างๆ ของภูมิภาค ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลียได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างมาก พร้อมทั้งกล่าวว่า ออสเตรเลียพร้อมที่จะเข้ามาร่วมหารือในเวทีนี้ทั้งอย่างเป็นทางการและอย่างไม่เป็นทางการ
3. ความร่วมมือในกรอบทวิภาคี
3.1 การจัดตั้งเขตการค้าเสรี ฝ่ายไทยแจ้งว่า คณะกรรมการนโยบายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศของไทยได้ให้ความเห็นชอบที่จะให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำความตกลงเขตการค้า เสรีระหว่างไทยกับออสเตรเลีย รัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้แถลงร่วมกันว่า รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองได้หารือกันในหลักการและเห็นพ้องที่จะให้มีการศึกษาร่วมกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ ซึ่งหากดำเนินการได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ทั้งนี้ นาย Downer กล่าวว่า ปัญหาของประเทศไทยในการส่งสินค้าการเกษตร อาทิ กุ้ง ไก่ ทุเรียน ไปยังออสเตรเลีย น่าจะได้รับการแก้ไขได้หากมีการจัดตั้ง เขตการค้าเสรีร่วมกัน นอกจากนั้น สินค้าอุตสาหกรรมที่มีปัญหาระหว่างกันอยู่บ้างก็น่าที่จะหมดไป อย่างไรก็ดี ฝ่ายไทยเสนอว่า ในช่วงระหว่างที่มีการศึกษาเรื่องเขตการค้าเสรีระหว่างกัน ทั้งสองประเทศน่าที่จะนำข้อตกลงที่มีอยู่คือ Mutual Recognition Arrangement หรือ ข้อตกลงที่จะรับมาตรฐานซึ่งกันและกันโดยไม่ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพในทุกๆ ครั้งที่มีการส่งออกหรือนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมของกันและกันควรจะนำมาปรับใช้กับสินค้าเกษตรด้วย ซึ่งไทยใช้ได้ผลกับแคนาดามาแล้ว ทั้งนี้ นาย Downer เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และน่าจะช่วยส่งเสริมเพิ่มพูนปริมาณการค้าระหว่างกันได้
3.2 ความร่วมมือด้านการศึกษา ฝ่ายไทยเสนอให้ออสเตรเลียเข้ามาร่วมมือและลงทุนในเรื่องของการศึกษาใน ประเทศไทย โดยเฉพาะการมาเปิด campus ในไทย เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาและสร้างทางเลือกให้มากขึ้นสำหรับคนไทยแล้ว ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนาย Downer แจ้งว่า ออสเตรเลียพร้อมที่จะสนับสนุนในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
3.3 การสมัครเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังสหประชาชาติในติมอร์ ตะวันออกของไทย
ฝ่ายออสเตรเลียแจ้งว่า ในหลักการพร้อมสนับสนุน พลโทวินัย ภัททิยกุล เป็นผู้บัญชาการกองกำลังสหประชาชาติให้ติมอร์ตะวันออก
3.4 ความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติด
ฝ่ายไทยได้แจ้งเกี่ยวกับการที่จีน พม่า และลาวได้เห็นชอบกับข้อเสนอของไทยที่จะจัดให้มีการประชุม 4 ฝ่าย ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยเริ่มตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส รัฐมนตรีต่างประเทศและนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยเห็นว่า ออสเตรเลียควรเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ เพราะว่าเป็นเรื่องของภูมิภาค และออสเตรเลียก็มีบทบาทสำคัญอยู่แล้วในการให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปราบปรามยาเสพติดในระดับทวิภาคีกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้
ฝ่ายออสเตรเลียได้แสดงความเห็นด้วย เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของออสเตรเลียเช่นเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียได้ให้ความร่วมมือในด้านนี้กับทั้งพม่าและไทยมาโดยตลอด และขอคำแนะนำจากไทยว่าออสเตรเลียจะสามารถเข้ามามีบทบาทเพิ่มเติมใน เรื่องนี้ได้อย่างไร
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2544 ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวในระหว่างการเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับ ผลการหารือกับ นาย Alexander Downer รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย ที่ Mount Lofty House ณ เมืองอะดิเหลด ประเทศออสเตรเลีย ว่ารัฐมนตรีทั้งสองได้หารือเป็นการส่วนตัวในวันที่ 3 กรกฎาคม 2544 และได้หารือเต็มคณะอีกครั้งในวันที่ 4 กรกฎาคม 2544 สรุปได้ดังนี้
1. ความร่วมมือในกรอบพหุภาคี ฝ่ายไทยได้ขอให้ออสเตรเลียมีบทบาทที่แข็งขันยิ่งขึ้นกว่าเดิมในเรื่องของการ ร่วมมือสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยฝ่ายไทยแจ้งว่า ประเทศไทยได้หารือกับประเทศต่างๆ ในลุ่มแม่น้ำโขงเกี่ยวกับการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน อาทิ การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่สองและการพัฒนาถนนสายที่ 9 ที่จะเชื่อมไทย ลาว และเมืองท่าดานังในเวียดนาม ซึ่งไทยหารือกับประเทศทั้งสองเพื่อร่วมกันวางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ ในแถบนั้น ให้สอดคล้องและสนับสนุนซึ่งกันและกัน เช่น การจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะมีเส้นทางคมนาคมและท่าเรือสำหรับการขนส่งสินค้า และการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว การสร้างถนนจากปอยเปตไปเสียมราฐเพื่อช่วยให้การไปท่องเที่ยวที่นครวัดมีความสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งความร่วมมือกับจีนและลาวในการสร้างถนนเชื่อมภาคเหนือของประเทศไทยกับประเทศ ดังกล่าว ทั้งนี้ ประเทศไทยประสงค์ให้ภาครัฐบาลและเอกชนของออสเตรเลียมองว่าไทยเป็นประตูเข้าสู่ภูมิภาคดังกล่าว และขอให้พิจารณาการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านเศรษฐกิจต่างๆ โดยร่วมมือกับประเทศไทยอย่างใกล้ชิด
นาย Downer ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างมากและแจ้งว่าจะขอหารือกับฝ่ายไทย ในรายละเอียดอีกครั้งว่าภาคเอกชนและภาครัฐบาลของออสเตรเลียจะเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างไร
2. ความร่วมมือในกรอบ Asian Cooperation Dialogue
ฝ่ายไทยแจ้งว่า ประเทศไทยมีแนวคิดเกี่ยวกับการที่ควรให้รัฐมนตรีต่างประเทศ ของประเทศต่างๆ ในเอเชียได้มีโอกาสพบปะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือ ร่วมกันในด้านต่างๆ ของภูมิภาค ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลียได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างมาก พร้อมทั้งกล่าวว่า ออสเตรเลียพร้อมที่จะเข้ามาร่วมหารือในเวทีนี้ทั้งอย่างเป็นทางการและอย่างไม่เป็นทางการ
3. ความร่วมมือในกรอบทวิภาคี
3.1 การจัดตั้งเขตการค้าเสรี ฝ่ายไทยแจ้งว่า คณะกรรมการนโยบายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศของไทยได้ให้ความเห็นชอบที่จะให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำความตกลงเขตการค้า เสรีระหว่างไทยกับออสเตรเลีย รัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้แถลงร่วมกันว่า รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองได้หารือกันในหลักการและเห็นพ้องที่จะให้มีการศึกษาร่วมกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ ซึ่งหากดำเนินการได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ทั้งนี้ นาย Downer กล่าวว่า ปัญหาของประเทศไทยในการส่งสินค้าการเกษตร อาทิ กุ้ง ไก่ ทุเรียน ไปยังออสเตรเลีย น่าจะได้รับการแก้ไขได้หากมีการจัดตั้ง เขตการค้าเสรีร่วมกัน นอกจากนั้น สินค้าอุตสาหกรรมที่มีปัญหาระหว่างกันอยู่บ้างก็น่าที่จะหมดไป อย่างไรก็ดี ฝ่ายไทยเสนอว่า ในช่วงระหว่างที่มีการศึกษาเรื่องเขตการค้าเสรีระหว่างกัน ทั้งสองประเทศน่าที่จะนำข้อตกลงที่มีอยู่คือ Mutual Recognition Arrangement หรือ ข้อตกลงที่จะรับมาตรฐานซึ่งกันและกันโดยไม่ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพในทุกๆ ครั้งที่มีการส่งออกหรือนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมของกันและกันควรจะนำมาปรับใช้กับสินค้าเกษตรด้วย ซึ่งไทยใช้ได้ผลกับแคนาดามาแล้ว ทั้งนี้ นาย Downer เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และน่าจะช่วยส่งเสริมเพิ่มพูนปริมาณการค้าระหว่างกันได้
3.2 ความร่วมมือด้านการศึกษา ฝ่ายไทยเสนอให้ออสเตรเลียเข้ามาร่วมมือและลงทุนในเรื่องของการศึกษาใน ประเทศไทย โดยเฉพาะการมาเปิด campus ในไทย เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาและสร้างทางเลือกให้มากขึ้นสำหรับคนไทยแล้ว ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนาย Downer แจ้งว่า ออสเตรเลียพร้อมที่จะสนับสนุนในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
3.3 การสมัครเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังสหประชาชาติในติมอร์ ตะวันออกของไทย
ฝ่ายออสเตรเลียแจ้งว่า ในหลักการพร้อมสนับสนุน พลโทวินัย ภัททิยกุล เป็นผู้บัญชาการกองกำลังสหประชาชาติให้ติมอร์ตะวันออก
3.4 ความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติด
ฝ่ายไทยได้แจ้งเกี่ยวกับการที่จีน พม่า และลาวได้เห็นชอบกับข้อเสนอของไทยที่จะจัดให้มีการประชุม 4 ฝ่าย ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยเริ่มตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส รัฐมนตรีต่างประเทศและนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยเห็นว่า ออสเตรเลียควรเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ เพราะว่าเป็นเรื่องของภูมิภาค และออสเตรเลียก็มีบทบาทสำคัญอยู่แล้วในการให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปราบปรามยาเสพติดในระดับทวิภาคีกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้
ฝ่ายออสเตรเลียได้แสดงความเห็นด้วย เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของออสเตรเลียเช่นเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาออสเตรเลียได้ให้ความร่วมมือในด้านนี้กับทั้งพม่าและไทยมาโดยตลอด และขอคำแนะนำจากไทยว่าออสเตรเลียจะสามารถเข้ามามีบทบาทเพิ่มเติมใน เรื่องนี้ได้อย่างไร
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-