แท็ก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
อภิปรายไม่ไว้วางใจ
องอาจ คล้ามไพบูลย์
สนามบินสุวรรณภูมิ
พรรคประชาธิปัตย์
กระทรวงคมนาคม
กรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมาระบุว่า สาเหตุที่ทำให้การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิล่าช้าเป็นเพราะฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงการที่เจ้าหน้าที่ต้องมาชี้แจงรายละเอียดต่อคณะกรรมาธิการ ทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคนั้น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวชี้แจงพร้อมนำเอกสารมาแสดงว่า การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่ล่าช้าไม่ใช่เพราะการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สาเหตุสำคัญอยู่ที่การทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในโครงการนี้
โดยข้อความในเอกสารระบุชัดเจนว่า ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ การเปิดใช้สนามบินจะล่าช้าไปจนถึงกลางปี 2549 ดังนั้นถ้าสนามบินจะเลื่อนการเปิดใช้ออกไป คงไม่ใช่เพราะการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านหรือการที่เจ้าหน้าที่เข้ามาชี้แจงกรรมาธิการ แต่เป็นเพราะไม่สามารถที่จะทำงานเปิดได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ด้วยการบริหารงานที่บกพร่อง
ส่วนการที่นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ออกมาเปิดเผยเรื่องการทุจริตต่างๆ ทางพรรคจะมีการติดต่อพูดคุยกับนายเสนาะหรือไม่นั้น นายองอาจ กล่าวว่า เรื่องที่นายเสนาะออกมาเปิดเผย เป็นเรื่องที่พรรคฝ่ายค้าน และคนในสังคมได้รับทราบมาก่อนแล้ว เพียงแต่นายเสนาะออกมาตอกย้ำให้สังคมเห็นชัดเจนขึ้น ว่ารัฐบาลชุดนี้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากถึง 70% แต่เรื่องที่นายเสนาะน่าจะเปิดเผยได้ดีกว่าคนอื่น คือ เรื่องการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะถ้าเราได้นักการเมืองที่มาจากการทุจริต ก็จะเป็นปัญหาต่อบ้านเมือง เพราะเขาอาจจะมาทุจริตกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อเขามีอำนาจแล้วเอาเงินที่ได้จากการทุจริตไปซื้อเสียง กลับมาอีก วนเวียนเป็นวัฏจักรอุบาทว์อย่างนี้ตลอดไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย จะนัดพบกับนายเสนาะ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีนัยสำคัญอะไรหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ปกตินักการเมืองเราก็พูดคุยกันอยู่แล้ว ส่วนจะมีนัยสำคัญอะไรหรือไม่คงต้องไปถามนายบรรหาร กับ นายเสนาะ เพราะเป็นผู้ที่จะไปพบกัน พร้อมกับยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคยพูดว่าจะรับนายเสนาะเข้าพรรค และยังไม่เคยแม้แต่จะคิด จึงไม่ทราบว่า น.ต.ศิธา ทิวารี ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ซึ่งตนคิดว่าอาจเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นความขัดแย้งภายในพรรค และพยายามโยงให้พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปอยู่ในวังวนน้ำเน่านั้นด้วย
‘พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องภายในพรรคไทยรักไทยมา เราไม่เคยเข้าไปก้าวล่วงเรื่องภายในพรรคไทยรักไทยเลย ไม่เคยที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะฉะนั้นขอความกรุณาพรรคไทยรักไทยให้แก้ไขปัญหาภายในพรรคของท่านเอง อย่าได้พยายามเบี่ยงเบนประเด็น อย่าโยนว่าเป็นเรื่องอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและเป็นเรื่องน้ำเน่ามากกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในพรรคไทยรักไทยขณะนี้เสียอีก คุณศิธา เป็นคนที่อาจจะอยู่ในการเมืองไปอีกนานก็ไม่ควรที่จะพยายามสร้างเรื่องอะไรขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจผิด’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 มิ.ย. 2548--จบ--
โดยข้อความในเอกสารระบุชัดเจนว่า ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ การเปิดใช้สนามบินจะล่าช้าไปจนถึงกลางปี 2549 ดังนั้นถ้าสนามบินจะเลื่อนการเปิดใช้ออกไป คงไม่ใช่เพราะการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านหรือการที่เจ้าหน้าที่เข้ามาชี้แจงกรรมาธิการ แต่เป็นเพราะไม่สามารถที่จะทำงานเปิดได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ด้วยการบริหารงานที่บกพร่อง
ส่วนการที่นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ออกมาเปิดเผยเรื่องการทุจริตต่างๆ ทางพรรคจะมีการติดต่อพูดคุยกับนายเสนาะหรือไม่นั้น นายองอาจ กล่าวว่า เรื่องที่นายเสนาะออกมาเปิดเผย เป็นเรื่องที่พรรคฝ่ายค้าน และคนในสังคมได้รับทราบมาก่อนแล้ว เพียงแต่นายเสนาะออกมาตอกย้ำให้สังคมเห็นชัดเจนขึ้น ว่ารัฐบาลชุดนี้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากถึง 70% แต่เรื่องที่นายเสนาะน่าจะเปิดเผยได้ดีกว่าคนอื่น คือ เรื่องการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะถ้าเราได้นักการเมืองที่มาจากการทุจริต ก็จะเป็นปัญหาต่อบ้านเมือง เพราะเขาอาจจะมาทุจริตกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อเขามีอำนาจแล้วเอาเงินที่ได้จากการทุจริตไปซื้อเสียง กลับมาอีก วนเวียนเป็นวัฏจักรอุบาทว์อย่างนี้ตลอดไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย จะนัดพบกับนายเสนาะ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีนัยสำคัญอะไรหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ปกตินักการเมืองเราก็พูดคุยกันอยู่แล้ว ส่วนจะมีนัยสำคัญอะไรหรือไม่คงต้องไปถามนายบรรหาร กับ นายเสนาะ เพราะเป็นผู้ที่จะไปพบกัน พร้อมกับยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคยพูดว่าจะรับนายเสนาะเข้าพรรค และยังไม่เคยแม้แต่จะคิด จึงไม่ทราบว่า น.ต.ศิธา ทิวารี ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ซึ่งตนคิดว่าอาจเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นความขัดแย้งภายในพรรค และพยายามโยงให้พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปอยู่ในวังวนน้ำเน่านั้นด้วย
‘พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องภายในพรรคไทยรักไทยมา เราไม่เคยเข้าไปก้าวล่วงเรื่องภายในพรรคไทยรักไทยเลย ไม่เคยที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะฉะนั้นขอความกรุณาพรรคไทยรักไทยให้แก้ไขปัญหาภายในพรรคของท่านเอง อย่าได้พยายามเบี่ยงเบนประเด็น อย่าโยนว่าเป็นเรื่องอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและเป็นเรื่องน้ำเน่ามากกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในพรรคไทยรักไทยขณะนี้เสียอีก คุณศิธา เป็นคนที่อาจจะอยู่ในการเมืองไปอีกนานก็ไม่ควรที่จะพยายามสร้างเรื่องอะไรขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจผิด’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 มิ.ย. 2548--จบ--