ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สรุปผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประจำเดือนตุลาคม 2543 จากแบบสำรวจของผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 104 ตัวอย่าง ดังนี้ :-
1. ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ต.ค. 43 สูงขึ้นจากเดือนก่อน แต่ยังต่ำกว่าระดับที่เศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพ และมีแนวโน้มดีขึ้น
อีกในระยะ 4 เดือนข้างหน้าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ต.ค. 43 อยู่ที่ระดับร้อยละ 46.5 สูงขึ้นจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 43.2
แต่ยังต่ำกว่าระดับที่เศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพ โดยมีปัจจัยที่สนับสนุน คือ ปัจจัยความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ ด้านอำนาจซื้อของประชาชน การ
ลงทุนโดยรวม ด้านการจ้างงาน และแนวโน้มการส่งออกดีขึ้น ส่วนปัจจัยด้านต้นทุนการประกอบการสูงขึ้นจากเดือนก่อน นอกจากนี้ คาดว่าแนวโน้ม
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจจะดีขึ้น โดยจะปรับสูงขึ้นเป็นร้อยละ 49.5 ในเดือนหน้า และสูงขึ้นเป็นร้อยละ 53.8 ในช่วง ธ.ค. 43 - ก.พ. 44 ซึ่ง
สูงกว่าระดับที่เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ
2. ตัวแปรอื่น ๆ ที่มีผลต่อการปรับตัวของธุรกิจแต่ไม่รวมอยู่ในองค์ประกอบของดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่น่าสังเกต ได้แก่
2.1 ปริมาณสินค้าคงคลัง ในเดือนนี้ปริมาณสินค้าที่เป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ดัชนีอยู่ที่ระดับร้อยละ 55.4 และสินค้าสำเร็จรูป
ลดลงจากเดือนก่อน ดัชนีอยู่ที่ระดับร้อยละ 53.9 ผู้ประกอบการควบคุมสต๊อกสินค้าอย่างต่อเนื่อง และมีการผลิตตามคำสั่งซื้อมากขึ้น โดยผู้ประกอบ
การส่วนใหญ่ยังเห็นว่าปริมาณสินค้าคงคลังยังคงเท่าเดิม
2.2 การแข่งขันทางธุรกิจ มีการแข่งขันด้านการตลาดและราคาเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ดัชนีการแข่งขันทางธุรกิจในประเทศอยู่ที่ระดับ
ร้อยละ 34.9 และดัชนีการแข่งขันทางธุรกิจส่งออกอยู่ที่ระดับร้อยละ 38.0 โดยการแข่งขันยังคงรุนแรง
2.3 ภาวะการเงินเดือน ต.ค. 43 ผู้ประกอบการให้เครดิตแก่ลูกค้าเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่ภาระดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น และสภาพ
คล่องในธุรกิจลดลง
2.4 ตลาดเงินช่วงเดือน ธ.ค. 43 - ก.พ. 44 คาดว่าสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นจากเดือนนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีแนวโน้มสูงขึ้น และ
ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
3. ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต่อภาครัฐ
3.1 รัฐควรมีมาตรการให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ
3.2 รัฐควรดูแลราคาพืชผลเกษตรสำคัญให้เหมาะสม เนื่องจากช่วงนี้ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ซึ่งหากสินค้าเกษตรราคาดี เกษตรกรจะมี
อำนาจซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นได้
3.3 ผู้ประกอบการยังรอดูความชัดเจนของการเลือกตั้งและการจัดรัฐบาลใหม่รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจก่อนวางแผนการลงทุนต่อไป
3.4 รัฐควรหามาตรการลดราคาน้ำมัน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าอื่น ๆ
3.5 ธุรกิจมีการแข่งขันกันสูง เนื่องจากความต้องการบริโภคสินค้าและบริการน้อยลง
ความเห็นของผู้ประกอบการต่อองค์ประกอบของดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
(ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม)
องค์ประกอบดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ดีขึ้น เท่าเดิม แย่ลง ไม่ตอบ
1. สถานะเศรษฐกิจหรือผลประกอบการธุรกิจ 21.2 49.0 29.8 -
2. อำนาจซื้อของประชาชน 16.3 48.1 32.7 -
3. การลงทุนโดยรวมในธุรกิจ 20.2 66.3 13.5 -
4. การจ้างงานในธุรกิจ 7.7 84.6 7.7 -
เพิ่มขึ้น เท่าเดิม ลดลง ไม่ตอบ
5. ต้นทุนการประกอบการโดยรวมในธุรกิจ 51.0 42.3 4.8 1.9
6. แนวโน้มการส่งออก 29.2 37.5 33.3 -
ตัวแปรอื่น ๆ ที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจแต่ไม่รวมอยู่ในดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
ความเห็นของผู้ประกอบการต่อตัวแปรอื่น ๆ ที่ไม่ได้รวมอยู่ในดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
(ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม)
ตัวแปรอื่น ๆ ที่ไม่รวมอยู่ในดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เพิ่มขึ้น เท่าเดิม ลดลง ไม่ตอบ
1. ปริมาณสินค้าคงคลัง
- วัตถุดิบ 11.5 31.7 23.1 33.7
- สินค้าสำเร็จรูป 15.4 45.2 25.0 14.4
2. การแข่งขันธุรกิจด้านการตลาดและหรือด้านราคา
- ในประเทศ 49.0 37.5 2.9 10.6
- ต่างประเทศ 44.0 52.0 4.0 -
3. ภาวะการเงินเดือน ต.ค. 43
- ภาระดอกเบี้ยเงินกู้ 16.3 52.3 10.6 20.2
- การให้เครดิตแก่ลูกค้า 12.5 50.0 19.2 18.3
- สภาพคล่อง 10.6 44.2 30.8 14.4
4. แนวโน้มตลาดเงินที่คาดไว้ในเดือน ธ.ค. 43 - ก.พ. 44
เทียบกับเดือน ต.ค. 43
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 9.6 51.9 18.3 20.2
- ค่าเงินบาท (เทียบกับดอลลาร์) 11.5 26.9 46.2 15.4
- สภาพคล่อง 22.1 36.5 24.0 17.3
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ--
-ยก-
ประจำเดือนตุลาคม 2543 จากแบบสำรวจของผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 104 ตัวอย่าง ดังนี้ :-
1. ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ต.ค. 43 สูงขึ้นจากเดือนก่อน แต่ยังต่ำกว่าระดับที่เศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพ และมีแนวโน้มดีขึ้น
อีกในระยะ 4 เดือนข้างหน้าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ต.ค. 43 อยู่ที่ระดับร้อยละ 46.5 สูงขึ้นจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 43.2
แต่ยังต่ำกว่าระดับที่เศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพ โดยมีปัจจัยที่สนับสนุน คือ ปัจจัยความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ ด้านอำนาจซื้อของประชาชน การ
ลงทุนโดยรวม ด้านการจ้างงาน และแนวโน้มการส่งออกดีขึ้น ส่วนปัจจัยด้านต้นทุนการประกอบการสูงขึ้นจากเดือนก่อน นอกจากนี้ คาดว่าแนวโน้ม
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจจะดีขึ้น โดยจะปรับสูงขึ้นเป็นร้อยละ 49.5 ในเดือนหน้า และสูงขึ้นเป็นร้อยละ 53.8 ในช่วง ธ.ค. 43 - ก.พ. 44 ซึ่ง
สูงกว่าระดับที่เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ
2. ตัวแปรอื่น ๆ ที่มีผลต่อการปรับตัวของธุรกิจแต่ไม่รวมอยู่ในองค์ประกอบของดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่น่าสังเกต ได้แก่
2.1 ปริมาณสินค้าคงคลัง ในเดือนนี้ปริมาณสินค้าที่เป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ดัชนีอยู่ที่ระดับร้อยละ 55.4 และสินค้าสำเร็จรูป
ลดลงจากเดือนก่อน ดัชนีอยู่ที่ระดับร้อยละ 53.9 ผู้ประกอบการควบคุมสต๊อกสินค้าอย่างต่อเนื่อง และมีการผลิตตามคำสั่งซื้อมากขึ้น โดยผู้ประกอบ
การส่วนใหญ่ยังเห็นว่าปริมาณสินค้าคงคลังยังคงเท่าเดิม
2.2 การแข่งขันทางธุรกิจ มีการแข่งขันด้านการตลาดและราคาเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ดัชนีการแข่งขันทางธุรกิจในประเทศอยู่ที่ระดับ
ร้อยละ 34.9 และดัชนีการแข่งขันทางธุรกิจส่งออกอยู่ที่ระดับร้อยละ 38.0 โดยการแข่งขันยังคงรุนแรง
2.3 ภาวะการเงินเดือน ต.ค. 43 ผู้ประกอบการให้เครดิตแก่ลูกค้าเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่ภาระดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น และสภาพ
คล่องในธุรกิจลดลง
2.4 ตลาดเงินช่วงเดือน ธ.ค. 43 - ก.พ. 44 คาดว่าสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นจากเดือนนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีแนวโน้มสูงขึ้น และ
ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
3. ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต่อภาครัฐ
3.1 รัฐควรมีมาตรการให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ
3.2 รัฐควรดูแลราคาพืชผลเกษตรสำคัญให้เหมาะสม เนื่องจากช่วงนี้ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ซึ่งหากสินค้าเกษตรราคาดี เกษตรกรจะมี
อำนาจซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นได้
3.3 ผู้ประกอบการยังรอดูความชัดเจนของการเลือกตั้งและการจัดรัฐบาลใหม่รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจก่อนวางแผนการลงทุนต่อไป
3.4 รัฐควรหามาตรการลดราคาน้ำมัน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าอื่น ๆ
3.5 ธุรกิจมีการแข่งขันกันสูง เนื่องจากความต้องการบริโภคสินค้าและบริการน้อยลง
ความเห็นของผู้ประกอบการต่อองค์ประกอบของดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
(ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม)
องค์ประกอบดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ดีขึ้น เท่าเดิม แย่ลง ไม่ตอบ
1. สถานะเศรษฐกิจหรือผลประกอบการธุรกิจ 21.2 49.0 29.8 -
2. อำนาจซื้อของประชาชน 16.3 48.1 32.7 -
3. การลงทุนโดยรวมในธุรกิจ 20.2 66.3 13.5 -
4. การจ้างงานในธุรกิจ 7.7 84.6 7.7 -
เพิ่มขึ้น เท่าเดิม ลดลง ไม่ตอบ
5. ต้นทุนการประกอบการโดยรวมในธุรกิจ 51.0 42.3 4.8 1.9
6. แนวโน้มการส่งออก 29.2 37.5 33.3 -
ตัวแปรอื่น ๆ ที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจแต่ไม่รวมอยู่ในดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
ความเห็นของผู้ประกอบการต่อตัวแปรอื่น ๆ ที่ไม่ได้รวมอยู่ในดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
(ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม)
ตัวแปรอื่น ๆ ที่ไม่รวมอยู่ในดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เพิ่มขึ้น เท่าเดิม ลดลง ไม่ตอบ
1. ปริมาณสินค้าคงคลัง
- วัตถุดิบ 11.5 31.7 23.1 33.7
- สินค้าสำเร็จรูป 15.4 45.2 25.0 14.4
2. การแข่งขันธุรกิจด้านการตลาดและหรือด้านราคา
- ในประเทศ 49.0 37.5 2.9 10.6
- ต่างประเทศ 44.0 52.0 4.0 -
3. ภาวะการเงินเดือน ต.ค. 43
- ภาระดอกเบี้ยเงินกู้ 16.3 52.3 10.6 20.2
- การให้เครดิตแก่ลูกค้า 12.5 50.0 19.2 18.3
- สภาพคล่อง 10.6 44.2 30.8 14.4
4. แนวโน้มตลาดเงินที่คาดไว้ในเดือน ธ.ค. 43 - ก.พ. 44
เทียบกับเดือน ต.ค. 43
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 9.6 51.9 18.3 20.2
- ค่าเงินบาท (เทียบกับดอลลาร์) 11.5 26.9 46.2 15.4
- สภาพคล่อง 22.1 36.5 24.0 17.3
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ--
-ยก-