แท็ก
เกษตรกร
1. ภาคเกษตรกรรม
ในเดือนเมษายน 2548 รายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลสำคัญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน โดยราคายังคงเพิ่มในอัตราสูง ขณะที่ผลกระทบของภาวะแล้งต่อผลผลิตพืชผลที่ได้ลดลงมาก
2547 2548
% 2547 ครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลัง ไตรมาสที่ 1 มี.ค. เม.ย.
รายได้เกษตรกร 15.5 18.5 12.6 9.8 2.9 18.1
ผลผลิตพืชผล -1.2 -1.9 -0.6 -7.8 -17.1 -2.2
ราคาพืชผล 16.9 20.8 13.2 19.1 24.2 20.8
ผลผลิตพืชผล ลงลงร้อยละ 2.2 โดยผลผลิตพืชผลสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากภาวะแล้ง ได้แก่ อ้อย ข้าวโพด ข้าวนาปรัง และมันสำปะหลังยังคงลดลงต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอลง
ราคาพืชผล เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 จากราคาข้าวและมันสำปะหลังสดคละที่เพิ่มขึ้นมากสอดคล้องกับราคาส่งออก เป็นผลจากปริมาณการผลิตที่ลดลงเป็นสำคัญ เนื่องจาก ประเทศผู้ผลิตบางประเทศรวมทั้งประเทศไทยประสบกับภาวะแล้ง
ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมของไทย เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นทุกหมวดสินค้า
ราคาปศุสัตว์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 จากราคาไก่เนื้อ ไข่ไก่และไข่เป็ด ที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอัตราที่ชะลอลงเพราะปริมาณผลผลิตยังคงมีน้อย เนื่องจากมีจำนวนผู้ผลิต น้อยรายหลังการระบาดของไข้หวัดนก
ราคาประมง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เนื่องจากปริมาณ สัตว์น้ำเค็มขึ้นท่าลดลงมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมัน ดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ชาวประมงออกเรือหาปลาลดลง อย่างไรก็ดี ราคากุ้งยังคง ลดลงต่อเนื่อง เพราะผู้ส่งออกกุ้งชะลอการซื้อจากเกษตรกรในระหว่างช่วงการเจรจากับผู้นำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับภาระการค้ำประกันสินค้านำเข้าตามมาตรการป้องกัน และตอบโต้การทุ่มตลาด แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรโดยรวมของไทย คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี โดยราคาพืชผลจะเพิ่มขึ้นจากอุปทาน ที่ลดลง ราคาปศุสัตว์จะเพิ่มขึ้นจากความเชื่อมั่นในการบริโภคไก่และไข่ที่สูงขึ้น ประกอบกับปริมาณการส่งออกไก่ปรุงสุกขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก ส่วนราคาประมงจะเพิ่มขึ้นตามต้นทุนราคาน้ำมัน
ราคาสินค้าเกษตร (ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย 12 ชนิด) ในตลาดโลก เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามการเพิ่มขึ้นของราคาข้าว น้ำตาลทราย มันสำปะหลัง และกาแฟ เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูงขณะที่อุปทานลดลงจากภาวะแล้งที่เกิดขึ้นในประเทศผู้ผลิตบางประเทศ
2. ภาคอุตสาหกรรม
เดือนเมษายน 2548 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 ชะลอลงเทียบกับร้อยละ 8.2 ในเดือนก่อน โดยเป็นการชะลอลงเกือบทุกหมวด ยกเว้นหมวดเครื่องดื่มที่มีการเร่งผลิตสุราและเบียร์มากขึ้นจากข่าวการปรับภาษีสรรพสามิตหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่เพิ่มขึ้นมากจากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งการผลิตลดลงเนื่องจากทางการยกเลิกภาษีตอบโต้ การทุ่มตลาดเป็นการชั่วคราว และหมวดอาหารปรับตัวดีขึ้น หลังจากลดลงต่อเนื่องหลายเดือน ส่วนหนึ่งเนื่องจากปัญหา การขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย
สำหรับหมวดอิเล็กทรอนิกส์ชะลอลงจากเดือนก่อน ตัวสูงมากจากคำสั่งซื้อใหม่และเตรียมการก่อนวันหยุด ต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ และการผลิตในหมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่งลดลงต่อเนื่องตามการลดลงของอุปสงค์ รถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ แม้ว่าการผลิตรถยนต์พาณิชย์ยังคงขยายตัวดี
อัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 67.5 ลดลงจากเดือนก่อนตามการผลิต เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่องหลายวันในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
(อัตราการเปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันปีก่อน)
2547 2548
น้ำหนัก 2547
อุตสาหกรรม 2543 ครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลัง ไตรมาสแรกP มี.ค. เม.ย.P
สิ่งทอ 12.23 6.6 3.8 9.2 4.1 4.2 1.0
อิเล็กทรอนิกส์ 10.31 28.5 38.2 20.9 18.3 31.7 13.3
ปิโตรเลียม 9.48 8.3 5.9 10.7 1.8 13.3 3.6
ยานยนต์ 6.85 20.4 24.1 17.0 0.4 -1.0 -1.5
อาหาร 6.82 -3.4 -5.9 0.3 -6.8 -15.5 0.8
เครื่องดื่ม 5.11 5.1 6.9 3.4 0.2 12.5 16.0
เครื่องใช้ไฟฟ้า 5.05 8.6 10.7 6.6 -5.6 1.7 1.7
เครื่องหนัง 2.79 16.8 16.3 17.4 -4.7 -7.3 -37.9
ผลิตภัณฑ์เคมี 2.36 4.4 6.7 2.3 1.1 0.0 -0.2
ผลิตภัณฑ์เหล็ก 2.21 10.4 9.0 11.7 -4.7 6.8 22.2
วัสดุก่อสร้าง 1.84 10.5 8.7 12.3 16.5 17.3 12.2
อื่นๆ 10.62 3.3 1.6 4.8 7.5 10.7 9.4
รวม * 75.68 11.1 11.4 10.8 3.8 8.2 5.1
หมายเหตุ: * ครอบคลุมสินค้า 76 รายการ คิดเป็นร้อยละ 75.7 ของมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรม
P เป็นข้อมูลเบื้องต้น
ที่มา: การสอบถามผู้ประกอบการ
3. การท่องเที่ยวและโรงแรม
ในเดือนเมษายน 2548 นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ มีจำนวน 856,000 คน ลดลงร้อยละ 1.0 จากระยะเดียวกัน ปีก่อน โดยการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ วางระเบิดที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 3 เมษายน 2548 เป็นสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ในภาพรวม โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในภาคใต้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการท่อง เชื่อมั่นและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น
อัตราเข้าพักโรงแรมในเดือนนี้เท่ากับร้อยละ 56.9 ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนซึ่งอยู่ที่ ร้อยละ 57.8 โดยอัตราเข้าพักลดลงในเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคกลาง สำหรับอัตราเข้าพักในภาคใต้ยังคงลดลงค่อนข้างสูงในเกือบทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดสุราษฏร์ธานี
ในระยะต่อไป แม้การท่องเที่ยวในภาคใต้จะยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ และ ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ แต่คาดว่าการท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากทางการมีการดำเนิน นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทย
ทีมวิเคราะห์ดุลการชำระเงิน
โทร. 0-2283-5636
2546 2547P 2548P
ทั้งปี ครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลัง มี.ค. เม.ย.
1. จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ (พันคน) 10,004 11,651 5,511 6,140 958 856
D% -7.4 16.5 28.2 7.6 11.3 -1.0
2. อัตราการเข้าพักโรงแรม (ร้อยละ) 57.2 64.0 61.9 66.1 64.9 56.9
หมายเหตุ: P คือ ข้อมูลเบื้องต้น
D% คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันปีก่อน
ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย
4. ภาคอสังหาริมทรัพย์
เดือนมีนาคม 2548 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงมาก โดยจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและ
จดทะเบียนเพิ่มทุกประเภทในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.8 จากระยะเดียวกัน ปีก่อนเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวที่สูงมากใน 2 เดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียนเพิ่มประเภทอาคารชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเพียง 17 หน่วย และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 จากระยะ เดียวกันปีก่อน โดยปัจจัยลบที่สำคัญยังคงมาจากราคา น้ำมันซึ่งทรงตัวอยู่ในระดับสูงรวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส ที่ 1 ปี 2548 ขยายตัวสูงมากเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานต่ำในปีก่อน ซึ่งมีธุรกรรม ลดลงมากหลังจากได้เร่งตัวขึ้นมากในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ก่อนสิ้นสุดมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียม การโอนอสังหาริมทรัพย์
ทางด้านราคาในไตรมาสที่ 1 ปี 2548 ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดิน และราคาทาวน์เฮาส์พร้อมที่ดิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 และ 5.1 ตามลำดับ ส่วนดัชนีราคาที่ดิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งตัวขึ้นจาก ไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7
5. ภาคการค้า
ในเดือนมีนาคม 2548 ภาวะการค้าโดย ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนตามภาวะการผลิตภาค อุตสาหกรรม และภาคก่อสร้าง โดยการค้าปลีกขยายตัว ในอัตราเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ส่วนการค้าส่งปรับตัวดีขึ้นจากที่หดตัวในเดือนก่อนเป็นขยายตัวเล็กน้อย
สินค้าที่มียอดขายขยายตัวในเกณฑ์ดี ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เหล็ก และอุปกรณ์
ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ
สำหรับสินค้าที่มียอดขายชะลอตัวลง ลดลงยังคงเป็นสินค้าในกลุ่มเกษตร ทั้งวัตถุดิบทางการเกษตรและผลผลิตอันเนื่องจากปัญหาภัยแล้ง
6. โทรคมนาคม
ในเดือนมีนาคม 2548 การขอใช้บริการโทรศัพท์ยังคงขยายตัวต่อเนื่องทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์ พื้นฐานโดยจำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานขยายตัว มากขึ้นในเขตภูมิภาค เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 3.3 เทียบกับร้อยละ 2.6 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนจำนวนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นในอัตราใกล้ กับช่วงก่อนหน้า ประมาณร้อยละ 20 ต่อเดือนตั้งแต่ต้นปี
ภาวะการแข่งขันด้านราคาในธุรกิจ ทั้งโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ช่วยกระตุ้นความต้องการใช้บริการของผู้บริโภคตามรายการส่งเสริมการขายรูปแบบใหม่ๆ ที่มีราคาถูกกว่า
สำหรับแนวโน้มในระยะต่อไป ผู้ประกอบการ คาดว่าความต้องการใช้บริการยังคงเพิ่มขึ้น โดยผู้ประกอบการได้เตรียมขออนุมัติจำนวนเลขหมายเพิ่มจากทางการ เพื่อสำรองไว้สำหรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ในเดือนเมษายน 2548 รายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลสำคัญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน โดยราคายังคงเพิ่มในอัตราสูง ขณะที่ผลกระทบของภาวะแล้งต่อผลผลิตพืชผลที่ได้ลดลงมาก
2547 2548
% 2547 ครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลัง ไตรมาสที่ 1 มี.ค. เม.ย.
รายได้เกษตรกร 15.5 18.5 12.6 9.8 2.9 18.1
ผลผลิตพืชผล -1.2 -1.9 -0.6 -7.8 -17.1 -2.2
ราคาพืชผล 16.9 20.8 13.2 19.1 24.2 20.8
ผลผลิตพืชผล ลงลงร้อยละ 2.2 โดยผลผลิตพืชผลสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากภาวะแล้ง ได้แก่ อ้อย ข้าวโพด ข้าวนาปรัง และมันสำปะหลังยังคงลดลงต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอลง
ราคาพืชผล เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 จากราคาข้าวและมันสำปะหลังสดคละที่เพิ่มขึ้นมากสอดคล้องกับราคาส่งออก เป็นผลจากปริมาณการผลิตที่ลดลงเป็นสำคัญ เนื่องจาก ประเทศผู้ผลิตบางประเทศรวมทั้งประเทศไทยประสบกับภาวะแล้ง
ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมของไทย เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นทุกหมวดสินค้า
ราคาปศุสัตว์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 จากราคาไก่เนื้อ ไข่ไก่และไข่เป็ด ที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอัตราที่ชะลอลงเพราะปริมาณผลผลิตยังคงมีน้อย เนื่องจากมีจำนวนผู้ผลิต น้อยรายหลังการระบาดของไข้หวัดนก
ราคาประมง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เนื่องจากปริมาณ สัตว์น้ำเค็มขึ้นท่าลดลงมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมัน ดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ชาวประมงออกเรือหาปลาลดลง อย่างไรก็ดี ราคากุ้งยังคง ลดลงต่อเนื่อง เพราะผู้ส่งออกกุ้งชะลอการซื้อจากเกษตรกรในระหว่างช่วงการเจรจากับผู้นำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับภาระการค้ำประกันสินค้านำเข้าตามมาตรการป้องกัน และตอบโต้การทุ่มตลาด แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรโดยรวมของไทย คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี โดยราคาพืชผลจะเพิ่มขึ้นจากอุปทาน ที่ลดลง ราคาปศุสัตว์จะเพิ่มขึ้นจากความเชื่อมั่นในการบริโภคไก่และไข่ที่สูงขึ้น ประกอบกับปริมาณการส่งออกไก่ปรุงสุกขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก ส่วนราคาประมงจะเพิ่มขึ้นตามต้นทุนราคาน้ำมัน
ราคาสินค้าเกษตร (ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย 12 ชนิด) ในตลาดโลก เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามการเพิ่มขึ้นของราคาข้าว น้ำตาลทราย มันสำปะหลัง และกาแฟ เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูงขณะที่อุปทานลดลงจากภาวะแล้งที่เกิดขึ้นในประเทศผู้ผลิตบางประเทศ
2. ภาคอุตสาหกรรม
เดือนเมษายน 2548 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 ชะลอลงเทียบกับร้อยละ 8.2 ในเดือนก่อน โดยเป็นการชะลอลงเกือบทุกหมวด ยกเว้นหมวดเครื่องดื่มที่มีการเร่งผลิตสุราและเบียร์มากขึ้นจากข่าวการปรับภาษีสรรพสามิตหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่เพิ่มขึ้นมากจากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งการผลิตลดลงเนื่องจากทางการยกเลิกภาษีตอบโต้ การทุ่มตลาดเป็นการชั่วคราว และหมวดอาหารปรับตัวดีขึ้น หลังจากลดลงต่อเนื่องหลายเดือน ส่วนหนึ่งเนื่องจากปัญหา การขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย
สำหรับหมวดอิเล็กทรอนิกส์ชะลอลงจากเดือนก่อน ตัวสูงมากจากคำสั่งซื้อใหม่และเตรียมการก่อนวันหยุด ต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ และการผลิตในหมวดยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่งลดลงต่อเนื่องตามการลดลงของอุปสงค์ รถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ แม้ว่าการผลิตรถยนต์พาณิชย์ยังคงขยายตัวดี
อัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 67.5 ลดลงจากเดือนก่อนตามการผลิต เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่องหลายวันในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
(อัตราการเปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันปีก่อน)
2547 2548
น้ำหนัก 2547
อุตสาหกรรม 2543 ครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลัง ไตรมาสแรกP มี.ค. เม.ย.P
สิ่งทอ 12.23 6.6 3.8 9.2 4.1 4.2 1.0
อิเล็กทรอนิกส์ 10.31 28.5 38.2 20.9 18.3 31.7 13.3
ปิโตรเลียม 9.48 8.3 5.9 10.7 1.8 13.3 3.6
ยานยนต์ 6.85 20.4 24.1 17.0 0.4 -1.0 -1.5
อาหาร 6.82 -3.4 -5.9 0.3 -6.8 -15.5 0.8
เครื่องดื่ม 5.11 5.1 6.9 3.4 0.2 12.5 16.0
เครื่องใช้ไฟฟ้า 5.05 8.6 10.7 6.6 -5.6 1.7 1.7
เครื่องหนัง 2.79 16.8 16.3 17.4 -4.7 -7.3 -37.9
ผลิตภัณฑ์เคมี 2.36 4.4 6.7 2.3 1.1 0.0 -0.2
ผลิตภัณฑ์เหล็ก 2.21 10.4 9.0 11.7 -4.7 6.8 22.2
วัสดุก่อสร้าง 1.84 10.5 8.7 12.3 16.5 17.3 12.2
อื่นๆ 10.62 3.3 1.6 4.8 7.5 10.7 9.4
รวม * 75.68 11.1 11.4 10.8 3.8 8.2 5.1
หมายเหตุ: * ครอบคลุมสินค้า 76 รายการ คิดเป็นร้อยละ 75.7 ของมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรม
P เป็นข้อมูลเบื้องต้น
ที่มา: การสอบถามผู้ประกอบการ
3. การท่องเที่ยวและโรงแรม
ในเดือนเมษายน 2548 นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ มีจำนวน 856,000 คน ลดลงร้อยละ 1.0 จากระยะเดียวกัน ปีก่อน โดยการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ วางระเบิดที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 3 เมษายน 2548 เป็นสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ในภาพรวม โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในภาคใต้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการท่อง เชื่อมั่นและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น
อัตราเข้าพักโรงแรมในเดือนนี้เท่ากับร้อยละ 56.9 ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนซึ่งอยู่ที่ ร้อยละ 57.8 โดยอัตราเข้าพักลดลงในเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคกลาง สำหรับอัตราเข้าพักในภาคใต้ยังคงลดลงค่อนข้างสูงในเกือบทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดสุราษฏร์ธานี
ในระยะต่อไป แม้การท่องเที่ยวในภาคใต้จะยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ และ ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ แต่คาดว่าการท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากทางการมีการดำเนิน นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทย
ทีมวิเคราะห์ดุลการชำระเงิน
โทร. 0-2283-5636
2546 2547P 2548P
ทั้งปี ครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลัง มี.ค. เม.ย.
1. จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ (พันคน) 10,004 11,651 5,511 6,140 958 856
D% -7.4 16.5 28.2 7.6 11.3 -1.0
2. อัตราการเข้าพักโรงแรม (ร้อยละ) 57.2 64.0 61.9 66.1 64.9 56.9
หมายเหตุ: P คือ ข้อมูลเบื้องต้น
D% คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันปีก่อน
ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย
4. ภาคอสังหาริมทรัพย์
เดือนมีนาคม 2548 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงมาก โดยจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและ
จดทะเบียนเพิ่มทุกประเภทในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.8 จากระยะเดียวกัน ปีก่อนเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวที่สูงมากใน 2 เดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียนเพิ่มประเภทอาคารชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเพียง 17 หน่วย และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 จากระยะ เดียวกันปีก่อน โดยปัจจัยลบที่สำคัญยังคงมาจากราคา น้ำมันซึ่งทรงตัวอยู่ในระดับสูงรวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส ที่ 1 ปี 2548 ขยายตัวสูงมากเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานต่ำในปีก่อน ซึ่งมีธุรกรรม ลดลงมากหลังจากได้เร่งตัวขึ้นมากในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ก่อนสิ้นสุดมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียม การโอนอสังหาริมทรัพย์
ทางด้านราคาในไตรมาสที่ 1 ปี 2548 ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดิน และราคาทาวน์เฮาส์พร้อมที่ดิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 และ 5.1 ตามลำดับ ส่วนดัชนีราคาที่ดิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งตัวขึ้นจาก ไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7
5. ภาคการค้า
ในเดือนมีนาคม 2548 ภาวะการค้าโดย ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนตามภาวะการผลิตภาค อุตสาหกรรม และภาคก่อสร้าง โดยการค้าปลีกขยายตัว ในอัตราเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ส่วนการค้าส่งปรับตัวดีขึ้นจากที่หดตัวในเดือนก่อนเป็นขยายตัวเล็กน้อย
สินค้าที่มียอดขายขยายตัวในเกณฑ์ดี ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เหล็ก และอุปกรณ์
ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ
สำหรับสินค้าที่มียอดขายชะลอตัวลง ลดลงยังคงเป็นสินค้าในกลุ่มเกษตร ทั้งวัตถุดิบทางการเกษตรและผลผลิตอันเนื่องจากปัญหาภัยแล้ง
6. โทรคมนาคม
ในเดือนมีนาคม 2548 การขอใช้บริการโทรศัพท์ยังคงขยายตัวต่อเนื่องทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์ พื้นฐานโดยจำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานขยายตัว มากขึ้นในเขตภูมิภาค เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 3.3 เทียบกับร้อยละ 2.6 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนจำนวนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นในอัตราใกล้ กับช่วงก่อนหน้า ประมาณร้อยละ 20 ต่อเดือนตั้งแต่ต้นปี
ภาวะการแข่งขันด้านราคาในธุรกิจ ทั้งโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ช่วยกระตุ้นความต้องการใช้บริการของผู้บริโภคตามรายการส่งเสริมการขายรูปแบบใหม่ๆ ที่มีราคาถูกกว่า
สำหรับแนวโน้มในระยะต่อไป ผู้ประกอบการ คาดว่าความต้องการใช้บริการยังคงเพิ่มขึ้น โดยผู้ประกอบการได้เตรียมขออนุมัติจำนวนเลขหมายเพิ่มจากทางการ เพื่อสำรองไว้สำหรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--