กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2543 นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือกับนายเหวียน ซี เนียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ความร่วมมือด้านประมง ฝ่ายไทยยินดีที่รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติให้เช่าเรือจากไทยเพื่อไปทำประมงในน่านน้ำเวียดนามซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะนำไปสู่ความร่วมมือด้านประมงอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต ในการนี้ ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายเวียดนามพิจารณาใช้ประโยชน์จากการเช่าเรือประมงไทยอย่างเต็มที่โดยการจ้างลูกเรือหรือไต้ก๋งไทยที่มีประสบการณ์พร้อมกับการเช่าเรือด้วยเพื่อจะได้ช่วยในการถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีการทำประมงน้ำลึก นอกจากนั้น ฝ่ายไทยได้เสนอให้มีการลาดตระเวนร่วมในบริเวณพื้นที่ทับซ้อน เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาการ ล่วงล้ำน่านน้ำระหว่างกันและช่วยควบคุมการกระทำที่ผิดกฎหมายในน่านน้ำของทั้งสองฝ่าย อีกทั้ง ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างคู่มือสำหรับชาวประมงไทย-เวียดนาม ซึ่งคู่มือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายในการให้ความรู้แก่ชาวประมงเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการล่วงล้ำน่านน้ำ
2. ความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ขณะนี้ กระทรวงการ- ต่างประเทศของทั้งสองประเทศกำลังเจรจาจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือ เดินทางไทย-เวียดนาม ในการนี้ ฝ่ายไทยพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการหารือเพื่อหาข้อยุติในประเด็นที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน หรือหากฝ่ายเวียดนามไม่สะดวกที่จะเดินทางมาประชุม ฝ่ายไทยก็พร้อมที่จะไปหารือที่กรุงฮานอย ทั้งนี้ โดยหวังว่าจะสามารถลงนามความตกลงดังกล่าว รวมทั้งสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวนักโทษได้ในระหว่างการเยือนของนายกรัฐมนตรีเวียดนามในเดือนพฤษภาคม 2543
3. โครงการสิ่งมหัศจรรย์สุวรรณภูมิ ฝ่ายเวียดนามได้แสดงความขอบคุณที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบที่จะให้เวียดนามเข้าร่วมในโครงการสิ่งมหัศจรรย์สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยกล่าวด้วยว่า ระหว่างเดินทางกลับไปเวียดนาม ตนจะแวะหารือเรื่องนี้กับฝ่าย ลาว กัมพูชา และพม่า ซึ่งร่วมอยู่ในโครงการนี้ด้วย
4. การค้า-การลงทุน สองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการค้า-การลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ฝ่ายไทยเห็นความจำเป็นที่สองฝ่ายจะบรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันที่กำหนดไว้คือ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี ค.ศ. 2000 ฝ่ายเวียดนามได้แจ้งว่า รัฐบาลเวียดนามพร้อมพิจารณาปรับปรุงระเบียบ/กฎหมายต่าง ๆ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุนของชาวต่างชาติ และในเดือนเมษายน ศกนี้ รัฐสภาเวียดนามจะพิจารณาปรับปรุงกฎหมายด้านการลงทุนด้วย ฝ่ายไทยยังได้ขอให้ฝ่ายเวียดนามพิจารณาขยายโควต้าและลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์จากไทยให้มากขึ้น ซึ่งฝ่ายเวียดนามรับที่จะพิจารณา ในขณะเดียวกันฝ่ายเวียดนามได้ร้องขอให้ฝ่ายไทยให้สิทธิพิเศษ (preferential treatment) แก่สินค้าของเวียดนามเพื่อให้เข้าสู่ตลาดไทยด้วย
5. การเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามครบ 25 ปี สองฝ่ายเห็นชอบที่จะให้มีการประชาสัมพันธ์การเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย- เวียดนามครบ 25 ปี เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้รับทราบถึงความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นเป็นลำดับระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ สองฝ่ายจะได้มีการหารือเพื่อดำเนินโครงการและกิจกรรมร่วมกันเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสดังกล่าว ซึ่งจะรวมถึงการสัมมนาของนักวิชาการของทั้งสองฝ่ายด้วย
6. การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 7 ฝ่ายไทยยินดีจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 12-13 มิถุนายน 2543 ที่กรุงเทพฯ ในชั้นนี้ ฝ่ายเวียดนามไม่ขัดข้องกับกำหนดวันแต่จะยืนยันความพร้อมอีกครั้ง
7. การประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศ เวียดนามกล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคม ศกนี้ เวียดนามจะเป็นประธานคณะกรรมการประจำอาเซียนต่อจากไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของเวียดนาม จึงเห็นประโยชน์ที่จะได้รับคำแนะนำจากไทย ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสองฝ่ายจะร่วมมือกันต่อไป--จบ--
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2543 นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือกับนายเหวียน ซี เนียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ความร่วมมือด้านประมง ฝ่ายไทยยินดีที่รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติให้เช่าเรือจากไทยเพื่อไปทำประมงในน่านน้ำเวียดนามซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะนำไปสู่ความร่วมมือด้านประมงอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต ในการนี้ ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายเวียดนามพิจารณาใช้ประโยชน์จากการเช่าเรือประมงไทยอย่างเต็มที่โดยการจ้างลูกเรือหรือไต้ก๋งไทยที่มีประสบการณ์พร้อมกับการเช่าเรือด้วยเพื่อจะได้ช่วยในการถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีการทำประมงน้ำลึก นอกจากนั้น ฝ่ายไทยได้เสนอให้มีการลาดตระเวนร่วมในบริเวณพื้นที่ทับซ้อน เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาการ ล่วงล้ำน่านน้ำระหว่างกันและช่วยควบคุมการกระทำที่ผิดกฎหมายในน่านน้ำของทั้งสองฝ่าย อีกทั้ง ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างคู่มือสำหรับชาวประมงไทย-เวียดนาม ซึ่งคู่มือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายในการให้ความรู้แก่ชาวประมงเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการล่วงล้ำน่านน้ำ
2. ความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ขณะนี้ กระทรวงการ- ต่างประเทศของทั้งสองประเทศกำลังเจรจาจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือ เดินทางไทย-เวียดนาม ในการนี้ ฝ่ายไทยพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการหารือเพื่อหาข้อยุติในประเด็นที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน หรือหากฝ่ายเวียดนามไม่สะดวกที่จะเดินทางมาประชุม ฝ่ายไทยก็พร้อมที่จะไปหารือที่กรุงฮานอย ทั้งนี้ โดยหวังว่าจะสามารถลงนามความตกลงดังกล่าว รวมทั้งสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวนักโทษได้ในระหว่างการเยือนของนายกรัฐมนตรีเวียดนามในเดือนพฤษภาคม 2543
3. โครงการสิ่งมหัศจรรย์สุวรรณภูมิ ฝ่ายเวียดนามได้แสดงความขอบคุณที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบที่จะให้เวียดนามเข้าร่วมในโครงการสิ่งมหัศจรรย์สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยกล่าวด้วยว่า ระหว่างเดินทางกลับไปเวียดนาม ตนจะแวะหารือเรื่องนี้กับฝ่าย ลาว กัมพูชา และพม่า ซึ่งร่วมอยู่ในโครงการนี้ด้วย
4. การค้า-การลงทุน สองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการค้า-การลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ฝ่ายไทยเห็นความจำเป็นที่สองฝ่ายจะบรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันที่กำหนดไว้คือ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี ค.ศ. 2000 ฝ่ายเวียดนามได้แจ้งว่า รัฐบาลเวียดนามพร้อมพิจารณาปรับปรุงระเบียบ/กฎหมายต่าง ๆ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุนของชาวต่างชาติ และในเดือนเมษายน ศกนี้ รัฐสภาเวียดนามจะพิจารณาปรับปรุงกฎหมายด้านการลงทุนด้วย ฝ่ายไทยยังได้ขอให้ฝ่ายเวียดนามพิจารณาขยายโควต้าและลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์จากไทยให้มากขึ้น ซึ่งฝ่ายเวียดนามรับที่จะพิจารณา ในขณะเดียวกันฝ่ายเวียดนามได้ร้องขอให้ฝ่ายไทยให้สิทธิพิเศษ (preferential treatment) แก่สินค้าของเวียดนามเพื่อให้เข้าสู่ตลาดไทยด้วย
5. การเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามครบ 25 ปี สองฝ่ายเห็นชอบที่จะให้มีการประชาสัมพันธ์การเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย- เวียดนามครบ 25 ปี เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้รับทราบถึงความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นเป็นลำดับระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ สองฝ่ายจะได้มีการหารือเพื่อดำเนินโครงการและกิจกรรมร่วมกันเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสดังกล่าว ซึ่งจะรวมถึงการสัมมนาของนักวิชาการของทั้งสองฝ่ายด้วย
6. การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 7 ฝ่ายไทยยินดีจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 12-13 มิถุนายน 2543 ที่กรุงเทพฯ ในชั้นนี้ ฝ่ายเวียดนามไม่ขัดข้องกับกำหนดวันแต่จะยืนยันความพร้อมอีกครั้ง
7. การประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศ เวียดนามกล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคม ศกนี้ เวียดนามจะเป็นประธานคณะกรรมการประจำอาเซียนต่อจากไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของเวียดนาม จึงเห็นประโยชน์ที่จะได้รับคำแนะนำจากไทย ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสองฝ่ายจะร่วมมือกันต่อไป--จบ--