พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 130 /2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 31ตุลาตม - 6 พฤศจิกายน 2548
พายุไต้ฝุ่น “ไคตั๊ก” ในทะเลจีนใต้จะเคลื่อนเข้าชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนประมาณวันที่ 2 พฤศจิกายน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกในระยะนี้ ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ 31 ต.ค. — 2 พ.ย. สำหรับแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมตะวันตก ที่พาดผ่านภาคเหนือจะเปลี่ยนเป็นลม กระแสเดียวในวันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป ทำให้มีฝนลดน้อยลง อนึ่ง วันที่ 3 พ.ย. มีหย่อมกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ตอนล่างด้านตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์และเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวน ในวันที่ 5 พ.ย. ทำให้ภาคใต้ตะวันออกมีฝนตกเพิ่ม มากขึ้น
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. — 2 พ.ย. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรระมัดระวังในการ เดินเรือ ส่วนตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. เกษตรกรบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ให้ระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. — 1 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-10 องศา หลังจากนั้นมีฝนลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# สำหรับบริเวณที่มีฝนตกโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝน จะลดลง นอกจากนี้ผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างและโรคราสีเทาในกุหลาบ
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10 -30% ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันออกของภาค ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศา สำหรับในช่วงวันที่ 31 ต.ค. — 1 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. — 1 พ.ย. อุณหภูมิลดลง 2-3 องศา เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารลง เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิลดลงสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยอาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกพืชที่ทนแล้งและใช้น้ำน้อย เนื่องจากปริมาณฝนจะน้อยลงในระยะต่อไป
กลาง
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็นในตอนเช้า และ มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ๆ 10-20 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกของภาค สำหรับในช่วงวันที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
#ระยะนี้อากาศแปรปรวนเนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูหนาว เกษตรกรควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้อุณหภูมิ เปลี่ยนแปลงกระทันหัน เพราะจะทำให้สัตว์ปรับตัวไม่ทันและ เจ็บป่วยได้ง่าย
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
#มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ๆ 20 % ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. สำหรับ ในช่วงวันที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะน้อยลงและอากาศจะเริ่มแห้งลง เกษตรกรจึงควรใช้วัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบไม้ และหญ้าแห้งคลุมบริเวณโคนของต้นพืช เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน
ใต้
ลักษณะอากาศ
#ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. สำหรับในช่วงวันที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70-80 % ของพื้นที่ และมีฝน ตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
# ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 31 ต.ค. — 1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 40-80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นมีฝนลดลง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะที่มีฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูกเพื่อป้องกัน น้ำท่วมขัง นอกจากนี้ชาวสวนยางควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า และโรค หน้ากรีดยางด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-