แท็ก
สหรัฐ
กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์
การค้าไทย 10 เดือน มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2543 การค้ารวมของไทยมีมูลค่า 108,984 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8 จากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า จำแนกเป็น ส่งออกมูลค่า 57,704 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 นำเข้ามูลค่า 51,280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.4 ดุลการค้าเกินดุล 6,424 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 14.5 สินค้าออกสำคัญส่วนใหญ่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 แผงวงจรไฟฟ้า ร้อยละ 54.4 เสื้อผ้าสำเร็จรูป ร้อยละ 10.6 ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง ร้อยละ 29.7 เม็ดพลาสติก ร้อยละ 57.0 เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ ร้อยละ 55.7 อาหารทะเลกระป๋อง ร้อยละ 5.2 เป็นต้น สินค้าส่งออกที่มีแนวโน้มดีในปี 2543 อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงสินค้าที่มีแนวโน้มการส่งออกดีในปี 2543 คือมีมูลค่าส่งออกช่วงสิบเดือนแรกสูงกว่ามูลค่าส่งออกรวมตลอดปี 2542 ที่สำคัญได้แก่
- แผงวงจรไฟฟ้า
มูลค่าส่งออกในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2543 เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.4 กว่าหนึ่งในสี่เป็นสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.7 ตลาดสำคัญอื่น ๆ ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.8 ไต้หวัน มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นมากในช่วงปี 2540 เป็นต้นมา ในปีนี้ส่งออกได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 46.9 ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.8 และ 71.4 ตามลำดับ
- ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง
สินค้าในหมวดนี้ที่ส่งออกมาก ได้แก่ รถแวนและปิกอัพ มีสัดส่วนร้อยละ 43.5 ของมูลค่าส่งออกยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง โดยมี ออสเตรเลียเป็นตลาดสำคัญที่ยังมีแนวโน้ม ส่งออกได้ดี ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2543 มูลค่าส่งออกไปตลาดนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.6 อิตาลีเป็นตลาดสำคัญรองลงมา มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นถึงกว่าหนึ่งเท่าตัว ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ เป็นอีกสินค้าหนึ่งที่ส่งออกเพิ่มขึ้นตลอดตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา มูลค่าส่งออกในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.6 ส่วนใหญ่ส่งไปตลาดญี่ปุ่น ซึ่งยังคงขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ปัจจุบันการส่งออกสินค้านี้ไปยังแอฟริกาใต้ กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดสำคัญอื่น ๆ นอกจากนี้ เช่น มาเลเซีย สวีเดน อินโดนีเซีย เป็นต้น
- เม็ดพลาสติก
มูลค่าส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีอัตราการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ช่วง10เดือนแรกของปี 2543 ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.0 การส่งออกไปตลาดสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ได้แก่ ฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งในช่วงสิบเดือนแรกของปี 2543 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 46.7 87.9 83.0 และ 45.0 ตามลำดับ
- เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ
ถึงแม้จะมีการขยายตัวน้อยในปี 2540 - 2541 และหดตัวลงในปี 2542 แต่ในช่วง10เดือนแรกของปี 2543 มีการขยายตัวสูง การส่งออกไปยังตลาดสำคัญเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ดี โดยประมาณหนึ่งในสามของมูลค่าส่งออกสินค้านี้ เป็นการส่งไปยังสหรัฐอเมริกา ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.6 ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดรองลงมา ส่งออกได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7 และ 38.3 ตามลำดับ หลังจากที่เคยหดตัวลงในช่วงปี 2540 - 2542
- ยางพารา
มูลค่าส่งออกช่วงสิบเดือนแรกของปี 2543 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39.9 หลังจากที่อยู่ในภาวะซบเซาระหว่างปี 2540 - 2542 สินค้ากลุ่มนี้ที่ไทยส่งออกมากได้แก่ ยางแผ่น โดยมีตลาดสำคัญคือญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา การส่งออกไปยังตลาดทั้งสามเริ่มกระเตื้องขึ้นในปีนี้ หลังจากซบเซาลงในช่วงปี 2540 - 2542 โดยเฉพาะการส่งออกไปจีน เพิ่มขึ้นถึงกว่าเท่าตัว
- เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์
มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2543 ช่วงสิบเดือนแรกมูลค่าส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60.4 โดยส่งไปสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.3 ฮ่องกง เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5
- เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ
หลังจากเกิดภาวะซบเซาในระหว่างปี 2540 - 2541 การส่งออกกลับขยายตัวขึ้นในปี 2542 และยังคงขยายตัวต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยที่มูลค่าส่งออกช่วงสิบเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23.7 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เบลเยี่ยม ออสเตรเลีย ฮ่องกง สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เป็นต้น ตลาดที่สามารถขยายการส่งออกได้มากในขณะนี้ ได้แก่ เบลเยียม ซึ่งขยายตัวถึงร้อยละ 82.7
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 82-6623--จบ--
-สส-
การค้าไทย 10 เดือน มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2543 การค้ารวมของไทยมีมูลค่า 108,984 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8 จากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า จำแนกเป็น ส่งออกมูลค่า 57,704 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 นำเข้ามูลค่า 51,280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.4 ดุลการค้าเกินดุล 6,424 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 14.5 สินค้าออกสำคัญส่วนใหญ่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 แผงวงจรไฟฟ้า ร้อยละ 54.4 เสื้อผ้าสำเร็จรูป ร้อยละ 10.6 ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง ร้อยละ 29.7 เม็ดพลาสติก ร้อยละ 57.0 เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ ร้อยละ 55.7 อาหารทะเลกระป๋อง ร้อยละ 5.2 เป็นต้น สินค้าส่งออกที่มีแนวโน้มดีในปี 2543 อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงสินค้าที่มีแนวโน้มการส่งออกดีในปี 2543 คือมีมูลค่าส่งออกช่วงสิบเดือนแรกสูงกว่ามูลค่าส่งออกรวมตลอดปี 2542 ที่สำคัญได้แก่
- แผงวงจรไฟฟ้า
มูลค่าส่งออกในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2543 เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.4 กว่าหนึ่งในสี่เป็นสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.7 ตลาดสำคัญอื่น ๆ ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.8 ไต้หวัน มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นมากในช่วงปี 2540 เป็นต้นมา ในปีนี้ส่งออกได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 46.9 ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.8 และ 71.4 ตามลำดับ
- ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง
สินค้าในหมวดนี้ที่ส่งออกมาก ได้แก่ รถแวนและปิกอัพ มีสัดส่วนร้อยละ 43.5 ของมูลค่าส่งออกยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง โดยมี ออสเตรเลียเป็นตลาดสำคัญที่ยังมีแนวโน้ม ส่งออกได้ดี ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2543 มูลค่าส่งออกไปตลาดนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.6 อิตาลีเป็นตลาดสำคัญรองลงมา มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นถึงกว่าหนึ่งเท่าตัว ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ เป็นอีกสินค้าหนึ่งที่ส่งออกเพิ่มขึ้นตลอดตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา มูลค่าส่งออกในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.6 ส่วนใหญ่ส่งไปตลาดญี่ปุ่น ซึ่งยังคงขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ปัจจุบันการส่งออกสินค้านี้ไปยังแอฟริกาใต้ กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดสำคัญอื่น ๆ นอกจากนี้ เช่น มาเลเซีย สวีเดน อินโดนีเซีย เป็นต้น
- เม็ดพลาสติก
มูลค่าส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีอัตราการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ช่วง10เดือนแรกของปี 2543 ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.0 การส่งออกไปตลาดสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ได้แก่ ฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งในช่วงสิบเดือนแรกของปี 2543 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 46.7 87.9 83.0 และ 45.0 ตามลำดับ
- เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ
ถึงแม้จะมีการขยายตัวน้อยในปี 2540 - 2541 และหดตัวลงในปี 2542 แต่ในช่วง10เดือนแรกของปี 2543 มีการขยายตัวสูง การส่งออกไปยังตลาดสำคัญเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ดี โดยประมาณหนึ่งในสามของมูลค่าส่งออกสินค้านี้ เป็นการส่งไปยังสหรัฐอเมริกา ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.6 ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดรองลงมา ส่งออกได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7 และ 38.3 ตามลำดับ หลังจากที่เคยหดตัวลงในช่วงปี 2540 - 2542
- ยางพารา
มูลค่าส่งออกช่วงสิบเดือนแรกของปี 2543 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39.9 หลังจากที่อยู่ในภาวะซบเซาระหว่างปี 2540 - 2542 สินค้ากลุ่มนี้ที่ไทยส่งออกมากได้แก่ ยางแผ่น โดยมีตลาดสำคัญคือญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา การส่งออกไปยังตลาดทั้งสามเริ่มกระเตื้องขึ้นในปีนี้ หลังจากซบเซาลงในช่วงปี 2540 - 2542 โดยเฉพาะการส่งออกไปจีน เพิ่มขึ้นถึงกว่าเท่าตัว
- เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์
มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2543 ช่วงสิบเดือนแรกมูลค่าส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60.4 โดยส่งไปสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.3 ฮ่องกง เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5
- เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ
หลังจากเกิดภาวะซบเซาในระหว่างปี 2540 - 2541 การส่งออกกลับขยายตัวขึ้นในปี 2542 และยังคงขยายตัวต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยที่มูลค่าส่งออกช่วงสิบเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23.7 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เบลเยี่ยม ออสเตรเลีย ฮ่องกง สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เป็นต้น ตลาดที่สามารถขยายการส่งออกได้มากในขณะนี้ ได้แก่ เบลเยียม ซึ่งขยายตัวถึงร้อยละ 82.7
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 82-6623--จบ--
-สส-