ข่าวในประเทศ
1. ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวถึงหลักการสำคัญที่รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 23 พ.ย.43 ในหัวข้อเรื่อง "ความคิดใหม่สำหรับรัฐบาลชุดใหม่" (Some ideas for the government) โดยกล่าวว่า การบริหารงานต้องยึดปรัชญาความโปร่งใส ตัวเลขทางการเงินต้องได้รับการเปิดเผย การใช้เครดิตบูโรอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมการเงินเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด สำหรับตรวจสอบฐานะการเงินของลูกหนี้ กฎหมายเครดิตบูโรควรออกเป็น พ.ร.บ.โดยเร็ว ธพ.ควรมีการบริหารที่ดี จำเป็นต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบการเงิน กระตุ้นให้มีคณะกรรมการอิสระ และต้องเปิดเผยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทุกเดือน โดยเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. สำหรับธปท. ได้เปลี่ยนแปลงระบบการชำระเงินและการประชาสัมพันธ์ มีการพัฒนาอาชีพกับการตรวจสอบบริหารความเสี่ยง ทั้งนี้ นับจากวันที่ 1 ม.ค.44 เป็นต้นไป สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรักษาองค์กรให้มีอิสระอย่างแท้จริง สำหรับบทบาทของ ธปท.ในการช่วยพัฒนาด้านการงิน และการเข้าถึงภาคเศรษฐกิจต่างๆ โดยตรงจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป แต่หาก ธปท.สามารถคงเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพจะถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ ขณะนี้แรงผลักดันส่วนใหญ่ในประเทศโดยเฉพาะการเมืองมุ่งไปที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น มากกว่าเน้นความต่อเนื่องหรือการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งหาก ธปท.ไม่มีอิสระแล้วจะเป็นความยากลำบากอย่างยิ่งในการทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ (กรุงเทพธุรกิจ 27)
2. ธปท.เปิดเผยยอดหนี้คงค้าง ณ เดือน ส.ค.43 ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ธปท.เปิดเผยว่า ยอดหนี้คงค้างต่างประเทศของไทย ณ สิ้นเดือน ส.ค.43 มีจำนวน 85,593 ล.ดอลลาร์ เป็นหนี้ภาคทางการ 35,389 ล.ดอลลาร์ หนี้ภาคเอกชน 50,204 ล.ดอลลาร์ โดยเป็นหนี้ระยะยาวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 81.9 ส่วนหนี้ระยะสั้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.1 เทียบกับปี 40 ที่มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 35.1 จะเห็นว่าลดลงมากและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างประเทศคลายความกังวล รวมทั้งการส่งออกที่ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 20 ส่งผลให้มีความมั่นใจว่าไทยจะสามารถชำระคืนหนี้ต่างประเทศได้ (กรุงเทพธุรกิจ 25)
3. กรรมการผู้จัดการ ธ.กสิกรไทย กล่าวถึงแนวโน้มระบบธนาคารพาณิชย์ไทยปี 44 กรรมการผู้จัดการ ธ.กสิกรไทย กล่าวถึงแนวโน้มระบบธนาคารพาณิชย์ไทยปี 44 ว่า ยังคงมีภาระในการแก้ปัญหาสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างองค์กร และการปรับโครงสร้างหนี้ เนื่องจากปัจจุบันเอ็นพีแอลในระบบยังมีอยู่สูงถึง 1.01 ล.บาท หรือร้อยละ 24.57 ขณะที่การปรับโครงสร้างหนี้ไม่ได้ลดลงมาก และเอ็นพีแอลที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้วกลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีกครั้ง ตลอดจนมีความจำเป็นในการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจธนาคารรูปแบบใหม่ ทั้งนี้ ปัญหาที่ธนาคารพาณิชย์ต้องให้ความสำคัญคือการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากอัตราการขยายสินเชื่อใหม่ของธนาคารพาณิชย์ยังมีไม่มาก (ไทยโพสต์ 27)
4 ก.พาณิชย์คาดหมายการส่งออกในปี 44 รมช.พาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขเบื้องต้นของมูลค่าการส่งออกในปี 44 จะขยายตัวร้อยละ 10 จากปี 43 ที่คาดว่าการส่งออกจะมีมูลค่ารวม 6.9-7.0 ล.ดอลลาร์ สรอ. ซึ่งปี 44 จะเน้นตลาดในประเทศจีนและอินเดียมากขึ้น เนื่องจากมีกำลังซื้อมากกว่า 2.5 พัน ล.คน (กรุงเทพธุรกิจ,ไทยโพสต์ 27)
ข่าวต่างประเทศ
1. ญี่ปุ่นปรับเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 42/43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 24 พ.ย.43 รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของปี งปม.42/43 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นร้อยละ 1.4 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 0.5 แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจขยายตัวสูงกว่าความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม นาย Taichi Sakaiya หัวหน้าสำนักวางแผนเศรษฐกิจ (EPA) กล่าวว่า รัฐบาลยังคงต้องใช้ความพยายามต่อไปในการนำเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะตกต่ำ ทั้งนี้ การปรับเพิ่มการขยายตัวของ GDP ใหม่นี้ ได้นำเอาภาคอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ และการเสื่อมราคาของโครงสร้างพื้นฐานมาคำนวณด้วย สำหรับปี งปม.43/44 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.44 รัฐบาลญี่ปุ่นประมาณการว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 1.5 แต่นาย Sakaiya ยังคงยืนยันว่า ในช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค.43 เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวชะลอลง เนื่องจากการอ่อนตัวของการบริโภค (รอยเตอร์ 24)
2. เดือน ต.ค. 43 ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เทียบต่อปี รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ท เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 43 สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 43 ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ของเยอรมนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เทียบต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เทียบต่อปี นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 18 ปี ขณะเดียวกัน ราคานำเข้า ที่ใช้เป็นเครื่องชี้แนวโน้มเงินเฟ้อที่วัดจากราคาผู้บริโภค เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เทียบต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 เทียบต่อปี นับเป็นการเพิ่มสูงสุดในรอบ 19 ปี ส่วนตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเบื้องต้น ในเดือน พ.ย. 43 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 0.2 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือน ต.ค. 43 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เทียบต่อปี ซึ่งสูงเกินเพดานที่ ธ. กลางยุโรป กำหนดไว้สำหรับอัตราเงินเฟ้อของกลุ่มยูโรที่ระดับร้อยละ 2 ต่อปี อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า จากรายงานครั้งนี้ คาดว่า ธ. กลางยุโรปจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยจนกระทั่งปี 44 เนื่องจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้ ได้รับแรงผลักดันจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งไม่ได้เกิดจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในประเทศที่เกิดจากความต้องการค่าจ้างของแรงงานในประเทศที่สูงขึ้น (รอยเตอร์ 24)
3. ยอดขายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกของญี่ปุ่นลดลงเมื่อเทียบต่อปีในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 24 พ.ย. 43 สมาคมห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่นรายงานว่า เดือน ต.ค. 43 ยอดขายในห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบต่อปี อยู่ที่มูลค่า 727.23 พัน ล. เยน หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ในเดือน ก.ย. 43 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา สำหรับยอดขายในร้านค้าปลีก ลดลงร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบต่อปี เหลือ 1.38 ล้านล้ายเยน ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 23 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ยอดขายที่ลดลงในเดือน ต.ค. 43 เกิดจากความต้องการสินค้าประเภทเสื้อผ้าตามฤดูกาลที่ลดลงเนื่องจากอากาศร้อนและความต้องการจากลูกค้าของบริษัทต่างๆที่ลดลง (รอยเตอร์ 24)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 24พ.ย. 43 43.610 (43.827)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 24 พ.ย. 43
ซื้อ 43.3805 (43.5950) ขาย 43.7074 (43.9116)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,450 (5,450) ขาย 5,550 (5,550)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 29.21 (29.69)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 17.09 (17.09) ดีเซลหมุนเร็ว 15.04 (15.04)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวถึงหลักการสำคัญที่รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 23 พ.ย.43 ในหัวข้อเรื่อง "ความคิดใหม่สำหรับรัฐบาลชุดใหม่" (Some ideas for the government) โดยกล่าวว่า การบริหารงานต้องยึดปรัชญาความโปร่งใส ตัวเลขทางการเงินต้องได้รับการเปิดเผย การใช้เครดิตบูโรอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมการเงินเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด สำหรับตรวจสอบฐานะการเงินของลูกหนี้ กฎหมายเครดิตบูโรควรออกเป็น พ.ร.บ.โดยเร็ว ธพ.ควรมีการบริหารที่ดี จำเป็นต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบการเงิน กระตุ้นให้มีคณะกรรมการอิสระ และต้องเปิดเผยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทุกเดือน โดยเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. สำหรับธปท. ได้เปลี่ยนแปลงระบบการชำระเงินและการประชาสัมพันธ์ มีการพัฒนาอาชีพกับการตรวจสอบบริหารความเสี่ยง ทั้งนี้ นับจากวันที่ 1 ม.ค.44 เป็นต้นไป สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรักษาองค์กรให้มีอิสระอย่างแท้จริง สำหรับบทบาทของ ธปท.ในการช่วยพัฒนาด้านการงิน และการเข้าถึงภาคเศรษฐกิจต่างๆ โดยตรงจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป แต่หาก ธปท.สามารถคงเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพจะถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ ขณะนี้แรงผลักดันส่วนใหญ่ในประเทศโดยเฉพาะการเมืองมุ่งไปที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น มากกว่าเน้นความต่อเนื่องหรือการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งหาก ธปท.ไม่มีอิสระแล้วจะเป็นความยากลำบากอย่างยิ่งในการทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ (กรุงเทพธุรกิจ 27)
2. ธปท.เปิดเผยยอดหนี้คงค้าง ณ เดือน ส.ค.43 ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ธปท.เปิดเผยว่า ยอดหนี้คงค้างต่างประเทศของไทย ณ สิ้นเดือน ส.ค.43 มีจำนวน 85,593 ล.ดอลลาร์ เป็นหนี้ภาคทางการ 35,389 ล.ดอลลาร์ หนี้ภาคเอกชน 50,204 ล.ดอลลาร์ โดยเป็นหนี้ระยะยาวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 81.9 ส่วนหนี้ระยะสั้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.1 เทียบกับปี 40 ที่มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 35.1 จะเห็นว่าลดลงมากและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างประเทศคลายความกังวล รวมทั้งการส่งออกที่ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 20 ส่งผลให้มีความมั่นใจว่าไทยจะสามารถชำระคืนหนี้ต่างประเทศได้ (กรุงเทพธุรกิจ 25)
3. กรรมการผู้จัดการ ธ.กสิกรไทย กล่าวถึงแนวโน้มระบบธนาคารพาณิชย์ไทยปี 44 กรรมการผู้จัดการ ธ.กสิกรไทย กล่าวถึงแนวโน้มระบบธนาคารพาณิชย์ไทยปี 44 ว่า ยังคงมีภาระในการแก้ปัญหาสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างองค์กร และการปรับโครงสร้างหนี้ เนื่องจากปัจจุบันเอ็นพีแอลในระบบยังมีอยู่สูงถึง 1.01 ล.บาท หรือร้อยละ 24.57 ขณะที่การปรับโครงสร้างหนี้ไม่ได้ลดลงมาก และเอ็นพีแอลที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้วกลับมาเป็นเอ็นพีแอลอีกครั้ง ตลอดจนมีความจำเป็นในการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจธนาคารรูปแบบใหม่ ทั้งนี้ ปัญหาที่ธนาคารพาณิชย์ต้องให้ความสำคัญคือการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากอัตราการขยายสินเชื่อใหม่ของธนาคารพาณิชย์ยังมีไม่มาก (ไทยโพสต์ 27)
4 ก.พาณิชย์คาดหมายการส่งออกในปี 44 รมช.พาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขเบื้องต้นของมูลค่าการส่งออกในปี 44 จะขยายตัวร้อยละ 10 จากปี 43 ที่คาดว่าการส่งออกจะมีมูลค่ารวม 6.9-7.0 ล.ดอลลาร์ สรอ. ซึ่งปี 44 จะเน้นตลาดในประเทศจีนและอินเดียมากขึ้น เนื่องจากมีกำลังซื้อมากกว่า 2.5 พัน ล.คน (กรุงเทพธุรกิจ,ไทยโพสต์ 27)
ข่าวต่างประเทศ
1. ญี่ปุ่นปรับเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 42/43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 24 พ.ย.43 รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของปี งปม.42/43 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นร้อยละ 1.4 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 0.5 แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจขยายตัวสูงกว่าความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม นาย Taichi Sakaiya หัวหน้าสำนักวางแผนเศรษฐกิจ (EPA) กล่าวว่า รัฐบาลยังคงต้องใช้ความพยายามต่อไปในการนำเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะตกต่ำ ทั้งนี้ การปรับเพิ่มการขยายตัวของ GDP ใหม่นี้ ได้นำเอาภาคอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ และการเสื่อมราคาของโครงสร้างพื้นฐานมาคำนวณด้วย สำหรับปี งปม.43/44 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.44 รัฐบาลญี่ปุ่นประมาณการว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 1.5 แต่นาย Sakaiya ยังคงยืนยันว่า ในช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค.43 เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวชะลอลง เนื่องจากการอ่อนตัวของการบริโภค (รอยเตอร์ 24)
2. เดือน ต.ค. 43 ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เทียบต่อปี รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ท เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 43 สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 43 ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ของเยอรมนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เทียบต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เทียบต่อปี นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 18 ปี ขณะเดียวกัน ราคานำเข้า ที่ใช้เป็นเครื่องชี้แนวโน้มเงินเฟ้อที่วัดจากราคาผู้บริโภค เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เทียบต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 เทียบต่อปี นับเป็นการเพิ่มสูงสุดในรอบ 19 ปี ส่วนตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเบื้องต้น ในเดือน พ.ย. 43 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 0.2 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือน ต.ค. 43 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เทียบต่อปี ซึ่งสูงเกินเพดานที่ ธ. กลางยุโรป กำหนดไว้สำหรับอัตราเงินเฟ้อของกลุ่มยูโรที่ระดับร้อยละ 2 ต่อปี อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า จากรายงานครั้งนี้ คาดว่า ธ. กลางยุโรปจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยจนกระทั่งปี 44 เนื่องจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้ ได้รับแรงผลักดันจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งไม่ได้เกิดจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในประเทศที่เกิดจากความต้องการค่าจ้างของแรงงานในประเทศที่สูงขึ้น (รอยเตอร์ 24)
3. ยอดขายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกของญี่ปุ่นลดลงเมื่อเทียบต่อปีในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 24 พ.ย. 43 สมาคมห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่นรายงานว่า เดือน ต.ค. 43 ยอดขายในห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบต่อปี อยู่ที่มูลค่า 727.23 พัน ล. เยน หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ในเดือน ก.ย. 43 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา สำหรับยอดขายในร้านค้าปลีก ลดลงร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบต่อปี เหลือ 1.38 ล้านล้ายเยน ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 23 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ยอดขายที่ลดลงในเดือน ต.ค. 43 เกิดจากความต้องการสินค้าประเภทเสื้อผ้าตามฤดูกาลที่ลดลงเนื่องจากอากาศร้อนและความต้องการจากลูกค้าของบริษัทต่างๆที่ลดลง (รอยเตอร์ 24)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 24พ.ย. 43 43.610 (43.827)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 24 พ.ย. 43
ซื้อ 43.3805 (43.5950) ขาย 43.7074 (43.9116)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,450 (5,450) ขาย 5,550 (5,550)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 29.21 (29.69)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 17.09 (17.09) ดีเซลหมุนเร็ว 15.04 (15.04)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-