สรุปการค้าระหว่างประเทศของไทยกับประเทศคู่ค้าสำคัญ และประเทศที่ไทยเปิดตลาดเสรีการค้าปี 2547

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 1, 2005 14:13 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ไทย-โลก : ไทยเกินดุลการค้า  2,723.1  ล้านเหรียญสหรัฐ   ลดลงร้อยละ  45.9
การค้าของไทย ในปี 2547 เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 24.3 จาก 155,064.1 เป็น 192,679.2 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกรวม ร้อยละ 22.1 และ การนำเข้ารวม ร้อยละ 26.6 ทำให้ประเทศไทยเกินดุลคิดเป็นมูลค่า 2,723.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง ร้อยละ 45.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ไทย-เอเปค : ไทยเกินดุลการค้า 4,361.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 18.7
มูลค่าการส่งออก 69,717.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 19.7 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา เม็ดพลาสติก และ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ สินค้าส่งออก ที่ลดลง ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง เครื่องวิดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรพิมพ์ โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำตาลทราย หม้อแปลงไฟฟ้า และส่วนประกอบ มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 65,365.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 23.6 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เส้นใยใช้ในการทอ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ดินสอ ปากกา หมึกพิมพ์และอุปกรณ์เกี่ยวกับการพิมพ์ เมล็ดพืชน้ำมัน ของเล่นเครื่องเล่นกีฬาและเครื่องเล่นเกม และ กาแฟ ชา เครื่องเทศ เป็นต้น
ไทย-อาเซียน : ไทยเกินดุลการค้า 5,468.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.7
มูลค่าการส่งออก 21,246.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 28.9 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ ข้าว เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด เครื่องโทรสาร โทรพิมพ์โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องวิดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 15,777.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 26.4 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันดิบ และเครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์นั่ง ส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องเล่นแผ่นเสียง ผ้าผืน น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันเบรก หนังดิบและหนังฟอก ดินสอ ปากกา หมึกพิมพ์และอุปกรณ์เกี่ยวกับการพิมพ์ เป็นต้น
ไทย-ญี่ปุ่น : ไทยขาดดุลการค้า 8,872.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.2
มูลค่าการส่งออก 13,543.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 19.2 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ อาหาร ทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด เครื่องวิดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง เนื้อปลาสดแช่เย็น แช่แข็ง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และผลิตภัณฑ์เซรามิก เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 22,415.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 24.0 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญได้แก่ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็กและเหล็กกล้า ส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบรวมทั้งโครงรถและตัวถัง เคมีภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ ผ้าผืน ส่วนประกอบเครื่องรับ-ส่งวิทยุโทรศัพท์ โทรเลข และโทรทัศน์ เรือและสิ่งก่อสร้างลอยน้ำ ปลาทูนาสด แช่เย็น แช่แข็ง เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ หลอดภาพโทรทัศน์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน เป็นต้น
ไทย-สหรัฐอเมริกา : ไทยเกินดุลการค้า 8,301.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.6
มูลค่าการส่งออก 15,516.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 ในส่วนของสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง เครื่องวีดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์พลาสติก หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 7,215.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 ทั้งนี้เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ สินแร่โลหะอื่น ๆ และเศษโลหะ และ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์โลหะ เมล็ดพืชน้ำมัน ผลิตภัณฑ์พลาสติก เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ หนังดิบและหนังฟอก กระดาษ กระดาษแข็งและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
ไทย-สหภาพยุโรป : ไทยเกินดุลการค้า 5,021.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7
มูลค่าการส่งออก 14,401.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.2 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับ อากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่อง ประดับ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ และส่วนประกอบ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องวีดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ของเล่น เครื่องถ่ายเอกสารส่วนประกอบและอุปกรณ์ เครื่องสำอางสบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 9,379.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.4 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องเพชร พลอย อัญมณี ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลมและสุรา หนังดิบและหนังฟอก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์นั่ง ยาง ยางสังเคราะห์ รวมทั้งเศษยาง เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ และ ยากำจัดศัตรูพืช เป็นต้น
ประเทศที่ไทยเปิดเสรีการค้า
ไทย-สมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) : ไทยขาดดุลการค้า 150.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ไทยเกินดุล 155.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าการส่งออก 813.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 16.0 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ นาฬิกาและส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์พลาสติก และสิ่งทออื่นๆ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ส่วนประกอบอากาศยานและอุปกรณ์การบิน เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 964.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.5 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ปุ๋ย ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และ ผลิตภัณฑ์โลหะ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เคมีภัณฑ์ ดินสอ ปากกา หมึกพิมพ์และอุปกรณ์เกี่ยวกับการพิมพ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์นม และ เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด เป็นต้น (ตารางข้อมูล)
ไทย-กลุ่มอนุทวีป (BIMST-EC):ไทยขาดดุลการค้า 331.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.6
มูลค่าการส่งออก 2,119.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 37.8 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ เม็ดพลาสติก ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ปลาแห้ง ผ้าปักและผ้าลูกไม้ ตาข่ายจับปลา และ อาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 2,450.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 35.3 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เหล็กและเหล็กกล้า สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ เคมีภัณฑ์ กากพืชน้ำมัน และน้ำมันสำเร็จรูป ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและไม้อื่น ๆ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หนังดิบและหนังฟอก กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ไขมันและน้ำมันพืช เป็นต้น
ไทย-จีน : ไทยขาดดุลการค้า 1,027.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 227.9
มูลค่าการส่งออก 7,119.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.1 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง แผงวงจรไฟฟ้า และข้าว สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ น้ำมันดิบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด หลอดภาพโทรทัศน์ แก้วและกระจก เครื่องวีดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 8,147.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 35.7 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็กและเหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม ผ้าผืน และผลิตภัณฑ์โลหะ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลงได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องบันทึกเทปและวีดีโอ กากพืชน้ำมัน น้ำมันสำเร็จรูป ไม้ซุง ไม้แปรรูปและไม้อื่น ๆ กุ้งสด แช่เย็นแช่แข็ง เส้นใยใช้ในการทอ และผลิตภัณฑ์ยาสูบ เป็นต้น
ไทย-ออสเตรเลีย :ไทยเกินดุลการค้า 270.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 54.4
มูลค่าการส่งออก 2,468.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.3 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับ อากาศและส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและสำเร็จรูป เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันดิบ และเม็ดพลาสติก สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว อาหารสัตว์เลี้ยง น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 2,198.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 40.2 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ น้ำมันดิบ เหล็กและเหล็กกล้า เส้นใยใช้ในการทอ ธัญพืชและธัญพืชสำเร็จรูป และเคมีภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลิตภัณฑ์โลหะ อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก กระดาษ กระดาษแข็งและผลิตภัณฑ์ แร่ดิบ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
ไทย-อินเดีย :ไทยขาดดุลการค้า 222.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9
มูลค่าการส่งออก 913.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 43.0 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ เม็ดพลาสติก รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เครื่องปรับอากาศ และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 1,135.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 30.5 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เหล็กและเหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ กากพืชน้ำมัน สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ และน้ำมันสำเร็จรูป ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไขมันและน้ำมันพืช หนังดิบและหนังฟอก ผ้าผืน กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง และปลาทูนาสดแช่เย็นแช่แข็ง เป็นต้น
ไทย-แอฟริกาใต้ : ไทยเกินดุลการค้า 238.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 130.0
มูลค่าการส่งออก 658.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 74.6 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ ข้าว รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องวิดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ และผลิตภัณฑ์เบ็ดเตล็ด เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 419.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 53.5 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เคมีภัณฑ์ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ และ ปลาทูน่าสด แช่เย็นแช่แข็ง ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม หนังดิบและหนังฟอก แร่ดิบ หลอดและท่อโลหะ ปลาหมึกสด แช่เย็นแช่แข็ง แผงวงจรไฟฟ้า และยากำจัดศัตรูพืช เป็นต้น
ไทย-นิวซีแลนด์ : ไทยเกินดุลการค้า 92.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.9
มูลค่าการส่งออก 329.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 24.1 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลกระป๋องและสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก เครื่องปรับ อากาศและส่วนประกอบ น้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แก้วและกระจก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในครัวและบ้านเรือน และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 237.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เส้นใยใช้ในการทอ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ สินแร่โลหะอื่น ๆ และเศษโลหะ ผลิตภัณฑ์หนัง หนังดิบและหนังฟอก ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ ธัญพืชและธัญพืชสำเร็จรูป ไม้ซุง ไม้แปรรูปและไม้อื่นๆ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ปลาป่นและสัตว์อื่นๆ ป่น สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง เป็นต้น
ไทย-บาห์เรน :ไทยขาดดุลการค้า 35.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลลดลงร้อยละ 33.3
มูลค่าการส่งออก 51.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.4 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ แก้วและกระจก เม็ดพลาสติก ปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 86.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 6.9 สินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ ปุ๋ย เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องแต่งเรือน เหล็ก และเหล็กกล้า กระดาษ กระดาษแข็งและผลิตภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป สิ่งพิมพ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์โลหะ เป็นต้น (ตารางข้อมูล)
ไทย-เปรู : ไทยขาดดุลการค้า 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลลดลงร้อยละ 42.8
มูลค่าการส่งออก 32.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 64.9 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ ได้แก่ เม็ดพลาสติก ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เตาอบไมโครเวฟ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องกีฬาและเครื่องเล่มเกม หลอดไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ เลนส์ ตาข่ายจับปลา ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 41.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 14.8 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ ปลาป่นและสัตว์อื่นๆ ป่น ผลิตภัณฑ์โลหะ ปลาหมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง เคมีภัณฑ์ อาหารสัตว์ และ เส้นใยใช้ในการทอ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ ไขมันและน้ำมันสัตว์ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ ยากำจัดศัตรูพืช เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง สิ่งพิมพ์ และผ้าผืน เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ