กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายยกระดับราคาสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาที่ปลูกข้าวหอมมะลิไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งสามารถทำนาได้เพียงปีละ 1 ครั้ง และด้วยคุณภาพของข้าวหอมมะลิไทยซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีที่สุด สมควรขายได้ราคาสูงสมกับชื่อเสียงคุณภาพ และความนิยมของ ผู้บริโภค
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีผู้ฉวยโอกาส ปลอมปนข้าวหอมมะลิไทย ทำให้ขาดความเชื่อมั่นทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นทางการผลิตจนถึงขั้นส่งออก โดยส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิไทยให้มีคุณภาพตามมาตรฐานส่งออก ด้วยความร่วมมือกับจังหวัดในแหล่งเพาะปลูกให้การรับรองของโรงสี ส่งเสริมให้เกิดผู้ส่งออกรายใหม่ และสร้างตราข้าวหอมมะลิไทย (Branding) พร้อมทั้งเข้มงวดคุณภาพข้าวที่ส่งออก โดยการ สุ่มตรวจสอบ DNA ซึ่งพบว่าข้าวคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานกำหนดได้ลดลงจากร้อยละ 47 ในปี 2547 เหลือเพียง ร้อยละ 13.4 ในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีการตรวจพบสินค้าคุณภาพต่ำประปราย ซึ่งต้องระงับการส่งออกอย่างต่อเนื่อง และมี ผู้ส่งออกบางรายกระทำความผิดซ้ำ
ดังนั้นเพื่อให้ผู้ส่งออกตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับราคาส่งออก กระทรวงพาณิชย์จึงกำหนดมาตรการลงโทษผู้ส่งออกให้เข้มงวดขึ้น คือ นอกจากการระงับการส่งออกสินค้าที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานกำหนดและตักเตือนแล้ว ในรายที่พบความผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 3 จะถูกพักใช้ใบทะเบียนการเป็นผู้ส่งออกเป็นเวลา 15 วัน และเพิ่มเป็น 30 วันในครั้งต่อไป จนกระทั่งเพิกถอน ใบทะเบียนการเป็นผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิไทยในที่สุด หากพบมีการกระทำความผิดซ้ำซ้อนรวม 5 ครั้ง
ในปี 2547 ส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ปริมาณ 2.24 ล้านตัน มูลค่า 3.58 หมื่นล้านบาท ปี 2548 (ม.ค. — พ.ค.) ส่งออกปริมาณ 0.88 ล้านตัน มูลค่า 1.30 หมื่นล้านบาท โดยส่งไปตลาดเอเซีย ร้อยละ 32.95 , อเมริกา ร้อยละ 15.71 , ยุโรป ร้อยละ 10.37 และอื่น ๆ ร้อยละ 40.97
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีผู้ฉวยโอกาส ปลอมปนข้าวหอมมะลิไทย ทำให้ขาดความเชื่อมั่นทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นทางการผลิตจนถึงขั้นส่งออก โดยส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิไทยให้มีคุณภาพตามมาตรฐานส่งออก ด้วยความร่วมมือกับจังหวัดในแหล่งเพาะปลูกให้การรับรองของโรงสี ส่งเสริมให้เกิดผู้ส่งออกรายใหม่ และสร้างตราข้าวหอมมะลิไทย (Branding) พร้อมทั้งเข้มงวดคุณภาพข้าวที่ส่งออก โดยการ สุ่มตรวจสอบ DNA ซึ่งพบว่าข้าวคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานกำหนดได้ลดลงจากร้อยละ 47 ในปี 2547 เหลือเพียง ร้อยละ 13.4 ในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีการตรวจพบสินค้าคุณภาพต่ำประปราย ซึ่งต้องระงับการส่งออกอย่างต่อเนื่อง และมี ผู้ส่งออกบางรายกระทำความผิดซ้ำ
ดังนั้นเพื่อให้ผู้ส่งออกตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับราคาส่งออก กระทรวงพาณิชย์จึงกำหนดมาตรการลงโทษผู้ส่งออกให้เข้มงวดขึ้น คือ นอกจากการระงับการส่งออกสินค้าที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานกำหนดและตักเตือนแล้ว ในรายที่พบความผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 3 จะถูกพักใช้ใบทะเบียนการเป็นผู้ส่งออกเป็นเวลา 15 วัน และเพิ่มเป็น 30 วันในครั้งต่อไป จนกระทั่งเพิกถอน ใบทะเบียนการเป็นผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิไทยในที่สุด หากพบมีการกระทำความผิดซ้ำซ้อนรวม 5 ครั้ง
ในปี 2547 ส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ปริมาณ 2.24 ล้านตัน มูลค่า 3.58 หมื่นล้านบาท ปี 2548 (ม.ค. — พ.ค.) ส่งออกปริมาณ 0.88 ล้านตัน มูลค่า 1.30 หมื่นล้านบาท โดยส่งไปตลาดเอเซีย ร้อยละ 32.95 , อเมริกา ร้อยละ 15.71 , ยุโรป ร้อยละ 10.37 และอื่น ๆ ร้อยละ 40.97
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-