ข่าวในประเทศ
1. ธปท.เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นในเดือน ต.ค.43 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในเดือน ต.ค.43 (LEI) อยู่ที่ระดับ 118.1 เทียบกับ 117.7 ในเดือนก่อน โดยองค์ประกอบหลังปรับฤดูกาลที่ส่งผลให้ดัชนีฯ เพิ่มขึ้น คือ ราคาน้ำมันดิบ (โอมาน), การส่งออก และปริมาณเงินตามความหมายกว้าง (M2A) ส่วนประมาณค่าเบื้องต้นของดัชนีพ้องเศรษฐกิจ (CEI) อยู่ที่ระดับ 115.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปี 42 ร้อยละ 2.9 โดยองค์ประกอบฯ ที่ส่งผลให้ CEI เพิ่มขึ้น คือ ยอดจำหน่ายรถยนต์ การนำเข้ารวมและภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนอยู่ที่ระดับ 100.7 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.8 และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.5 เป็นผลจาการเพิ่มขึ้นของดัชนีฯ หลังปรับฤดูกาลที่สำคัญ คือ ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 ยอดจำหน่ายสุราเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการทำดัชนีชี้นำฯ ดังกล่าวเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งประกอบกับเครื่องมืออื่นๆ ในการประเมินและคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจระยะ 3-4 เดือนข้างหน้าเป็นสำคัญ (กรุงเทพธุรกิจ 2)
2. ธปท.ปรับโครงสร้างองค์กรด้านการกำกับสถาบันการเงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คณะกรรมการ ธปท.ได้อนุมัติโครงสร้างองค์กรใหม่ของสายกำกับสถาบันการเงิน มีผลบังคับในวันที่ 1 ม.ค.44 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของ ธปท.และสถาบันการเงิน โดยเทียบเคียงกับกฎเกณฑ์ที่ดีที่สุดในต่างประเทศ และอิงแนวทางของ ธ.เพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) และ ธ.กลาง สรอ. (เฟด) การตรวจสอบแบบใหม่นี้จะทำให้การทำงานมีความต่อเนื่อง เพราะมีทีมงานตรวจสอบหลายทีม ทั้งที่เข้าไปตรวจสอบในสถาบันการเงิน และตรวจสอบข้างนอกจากรายงานต่างๆ ซึ่งมีการติดตามตลอดเวลา หากมีประเด็นสงสัยก็สามารถส่งสัญญาณเตือนภัยได้เร็ว นอกจากนั้น ธปท.ได้เปลี่ยนวิธีการตรวจสอบจากที่เน้นฐานะการดำเนินงานมาเป็นการบริหารระบบความเสี่ยง ทำให้เชื่อมั่นว่าจะทำให้การดูแลเสถียรภาพของระบบการเงินโดยเฉพาะสถาบันการเงินมีความเข้มแข็งมากขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ 4)
3. ก.พาณิชย์วิเคราะห์การส่งออกในช่วง 10 เดือน ก.พาณิชย์จัดทำรายงานวิเคราะห์รายละเอียดภาวะการค้าของไทยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 43 ว่า แม้การส่งออกจะมีมูลค่าถึง 57,704 ล.ดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.8 แต่ยังมีมูลค่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งสำคัญในเอเชีย โดยเดือน ม.ค.-ส.ค.มาเลเซียส่งออก 63,741 ล.ดอลลาร์ สิงคโปร์ส่งออกในเดือน ม.ค.-มิ.ย. 63,403 ล.ดอลลาร์ ขณะที่จีน อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน มีอัตราการขยายตัวมากกว่าไทยทั้งสิ้น ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้แก่ ความต้องการในตลาดโลก ค่าเงินบาทอ่อนลง และได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทแม่ต่างประเทศในการขยายตลาด (กรุงเทพธุรกิจ 4)
4. ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.แสดงความเห็นเกี่ยวกับการตั้งกองทุนค้ำประกันสินเชื่อ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ธปท.กล่าวว่า แนวทางการตั้งกองทุนค้ำประกันสินเชื่อตามข้อเสนอของ ธพ.น่าจะทำได้ ซึ่งจะทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น เนื่องจาก ธพ.หลายแห่งมีความพร้อม เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่ต้องเข้ามาดูแลด้านนโยบายว่ามีความเป็นไปได้เพียงใด เนื่องจากต้องได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ (กรุงเทพธุรกิจ 2)
ข่าวต่างประเทศ
1. เดือน พ.ย. 43 ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตของ สรอ. ลดลงต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่4 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 43 National Association of Purchasing (NAPM) เปิดเผยว่า เดือน พ.ย. 43 ดัชนีภาวะอุตสาหกรรมการผลิตของ สรอ. ลดลงอยู่ที่ระดับ 47.7 จากระดับ 48.3 ในเดือน ต.ค. 43 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และเกื้อหนุนสัญญาณที่เด่นชัดว่าเศรษฐกิจ สรอ. กำลังชะลอตัว Norbert Ore ประธาน NAPM กล่าวว่า ผู้ประกอบอุตสาหกรรมการผลิตกำลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากกว่าภาคอื่นๆของระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ส่งผลให้สินค้าส่งออกของ สรอ. มีราคาแพงขึ้นในต่างประเทศ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความต้องการสินค้าของ สรอ. ลดลง ขณะเดียวกัน ในเดือน พ.ย. 43 ดัชนีราคา (Price Index) ของ NAPM เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 56.6 จากระดับ 56.5 ในเดือน ต.ค. 43 อาจส่งสัญญาณให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงก็ตาม (รอยเตอร์ 1)
2. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในไตรมาสเดือน ก.ค.-ก.ย.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.43 สำนักวางแผนเศรษฐกิจของญี่ปุ่น (EPA) รายงานว่า ไตรมาสเดือน ก.ค.-ก.ย.43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ตามราคาที่แท้จริง (real terms) จากไตรมาสก่อน หรือเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 แต่ GDP ลดลงร้อยละ 0.5 ตามราคาที่เป็นตัวเงิน (nominal rates) จากไตรมาสก่อน หรือเทียบต่อปีลดลงร้อยละ 1.8 แสดงถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยในไตรมาสเดือน ก.ค.-ก.ย.นี้ มีสัญญาณว่าการส่งออกเริ่มเข้าสู่ภาวะเฉื่อย หลังจากที่ได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปี 43 รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคธุรกิจเอกชนก็ไม่สามารถฉุดให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนถึงประมาณร้อยละ 60 ของระบบเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ในไตรมาสดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกที่คำนวณโดยใช้ส่วนประกอบในระบบ "เศรษฐกิจใหม่" คือใช้วิธีการปรับฤดูกาลแบบใหม่ และนำตัวเลขการใช้จ่ายของครัวเรือนที่มีสมาชิกคนเดียวมารวมในการคำนวณ (รอยเตอร์ 4)
3. ดัชนี PMI ของสิงคโปร์ลดลงอยู่ที่ระดับ 55.3 ในเดือน พ.ย. 43 รายงานจากสิงคโปร์เมื่อ 3 ธ.ค. 43 Singapore Institute of Purchasing and Materials Management (SIPMM) เปิดเผยว่า เดือน พ.ย. 43 ดัชนีบริหารการจัดซื้อ (PMI) ของสิงคโปร์ลดลงอยู่ที่ระดับ 55.3 จากระดับ 57.6 ในเดือน ต.ค. 43 ซึ่งดัชนีดังกล่าวได้สูงกว่าระดับ 50 มาตั้งแต่เดือน ม.ค. 42 แต่ผลผลิตในภาคอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีมูลค่าประมาณร้อยละ 52 ของผลผลิตโดยรวมได้ลดลง 2.4 จุดในเดือน พ.ย. 43 อยู่ที่ระดับ 55.3 ซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 42 ทั้งนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตโดยรวมของสิงคโปร์ได้ชะลอตัวลงมาตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ ผลผลิตโดยรวม การจ้างงาน และการเร่งการส่งมอบของผู้จัดจำหน่ายได้ชะลอตัวลง (รอยเตอร์ 3)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 1 ธ.ค. 43.772 (43.924)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 1ธ.ค. 43
ซื้อ 43.5587 (43.7214) ขาย 43.8707 (44.0361)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,550 (5,550) ขาย 5,650 (5,650)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 26.51 (27.68)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 17.09 (17.09) ดีเซลหมุนเร็ว 14.74 (14.74)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นในเดือน ต.ค.43 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในเดือน ต.ค.43 (LEI) อยู่ที่ระดับ 118.1 เทียบกับ 117.7 ในเดือนก่อน โดยองค์ประกอบหลังปรับฤดูกาลที่ส่งผลให้ดัชนีฯ เพิ่มขึ้น คือ ราคาน้ำมันดิบ (โอมาน), การส่งออก และปริมาณเงินตามความหมายกว้าง (M2A) ส่วนประมาณค่าเบื้องต้นของดัชนีพ้องเศรษฐกิจ (CEI) อยู่ที่ระดับ 115.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปี 42 ร้อยละ 2.9 โดยองค์ประกอบฯ ที่ส่งผลให้ CEI เพิ่มขึ้น คือ ยอดจำหน่ายรถยนต์ การนำเข้ารวมและภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนอยู่ที่ระดับ 100.7 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.8 และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.5 เป็นผลจาการเพิ่มขึ้นของดัชนีฯ หลังปรับฤดูกาลที่สำคัญ คือ ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 ยอดจำหน่ายสุราเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการทำดัชนีชี้นำฯ ดังกล่าวเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งประกอบกับเครื่องมืออื่นๆ ในการประเมินและคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจระยะ 3-4 เดือนข้างหน้าเป็นสำคัญ (กรุงเทพธุรกิจ 2)
2. ธปท.ปรับโครงสร้างองค์กรด้านการกำกับสถาบันการเงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คณะกรรมการ ธปท.ได้อนุมัติโครงสร้างองค์กรใหม่ของสายกำกับสถาบันการเงิน มีผลบังคับในวันที่ 1 ม.ค.44 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของ ธปท.และสถาบันการเงิน โดยเทียบเคียงกับกฎเกณฑ์ที่ดีที่สุดในต่างประเทศ และอิงแนวทางของ ธ.เพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) และ ธ.กลาง สรอ. (เฟด) การตรวจสอบแบบใหม่นี้จะทำให้การทำงานมีความต่อเนื่อง เพราะมีทีมงานตรวจสอบหลายทีม ทั้งที่เข้าไปตรวจสอบในสถาบันการเงิน และตรวจสอบข้างนอกจากรายงานต่างๆ ซึ่งมีการติดตามตลอดเวลา หากมีประเด็นสงสัยก็สามารถส่งสัญญาณเตือนภัยได้เร็ว นอกจากนั้น ธปท.ได้เปลี่ยนวิธีการตรวจสอบจากที่เน้นฐานะการดำเนินงานมาเป็นการบริหารระบบความเสี่ยง ทำให้เชื่อมั่นว่าจะทำให้การดูแลเสถียรภาพของระบบการเงินโดยเฉพาะสถาบันการเงินมีความเข้มแข็งมากขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ 4)
3. ก.พาณิชย์วิเคราะห์การส่งออกในช่วง 10 เดือน ก.พาณิชย์จัดทำรายงานวิเคราะห์รายละเอียดภาวะการค้าของไทยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 43 ว่า แม้การส่งออกจะมีมูลค่าถึง 57,704 ล.ดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.8 แต่ยังมีมูลค่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งสำคัญในเอเชีย โดยเดือน ม.ค.-ส.ค.มาเลเซียส่งออก 63,741 ล.ดอลลาร์ สิงคโปร์ส่งออกในเดือน ม.ค.-มิ.ย. 63,403 ล.ดอลลาร์ ขณะที่จีน อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน มีอัตราการขยายตัวมากกว่าไทยทั้งสิ้น ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้แก่ ความต้องการในตลาดโลก ค่าเงินบาทอ่อนลง และได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทแม่ต่างประเทศในการขยายตลาด (กรุงเทพธุรกิจ 4)
4. ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.แสดงความเห็นเกี่ยวกับการตั้งกองทุนค้ำประกันสินเชื่อ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ธปท.กล่าวว่า แนวทางการตั้งกองทุนค้ำประกันสินเชื่อตามข้อเสนอของ ธพ.น่าจะทำได้ ซึ่งจะทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น เนื่องจาก ธพ.หลายแห่งมีความพร้อม เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่ต้องเข้ามาดูแลด้านนโยบายว่ามีความเป็นไปได้เพียงใด เนื่องจากต้องได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ (กรุงเทพธุรกิจ 2)
ข่าวต่างประเทศ
1. เดือน พ.ย. 43 ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตของ สรอ. ลดลงต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่4 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 43 National Association of Purchasing (NAPM) เปิดเผยว่า เดือน พ.ย. 43 ดัชนีภาวะอุตสาหกรรมการผลิตของ สรอ. ลดลงอยู่ที่ระดับ 47.7 จากระดับ 48.3 ในเดือน ต.ค. 43 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และเกื้อหนุนสัญญาณที่เด่นชัดว่าเศรษฐกิจ สรอ. กำลังชะลอตัว Norbert Ore ประธาน NAPM กล่าวว่า ผู้ประกอบอุตสาหกรรมการผลิตกำลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากกว่าภาคอื่นๆของระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ส่งผลให้สินค้าส่งออกของ สรอ. มีราคาแพงขึ้นในต่างประเทศ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความต้องการสินค้าของ สรอ. ลดลง ขณะเดียวกัน ในเดือน พ.ย. 43 ดัชนีราคา (Price Index) ของ NAPM เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 56.6 จากระดับ 56.5 ในเดือน ต.ค. 43 อาจส่งสัญญาณให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงก็ตาม (รอยเตอร์ 1)
2. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในไตรมาสเดือน ก.ค.-ก.ย.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.43 สำนักวางแผนเศรษฐกิจของญี่ปุ่น (EPA) รายงานว่า ไตรมาสเดือน ก.ค.-ก.ย.43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ตามราคาที่แท้จริง (real terms) จากไตรมาสก่อน หรือเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 แต่ GDP ลดลงร้อยละ 0.5 ตามราคาที่เป็นตัวเงิน (nominal rates) จากไตรมาสก่อน หรือเทียบต่อปีลดลงร้อยละ 1.8 แสดงถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยในไตรมาสเดือน ก.ค.-ก.ย.นี้ มีสัญญาณว่าการส่งออกเริ่มเข้าสู่ภาวะเฉื่อย หลังจากที่ได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปี 43 รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคธุรกิจเอกชนก็ไม่สามารถฉุดให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนถึงประมาณร้อยละ 60 ของระบบเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ในไตรมาสดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกที่คำนวณโดยใช้ส่วนประกอบในระบบ "เศรษฐกิจใหม่" คือใช้วิธีการปรับฤดูกาลแบบใหม่ และนำตัวเลขการใช้จ่ายของครัวเรือนที่มีสมาชิกคนเดียวมารวมในการคำนวณ (รอยเตอร์ 4)
3. ดัชนี PMI ของสิงคโปร์ลดลงอยู่ที่ระดับ 55.3 ในเดือน พ.ย. 43 รายงานจากสิงคโปร์เมื่อ 3 ธ.ค. 43 Singapore Institute of Purchasing and Materials Management (SIPMM) เปิดเผยว่า เดือน พ.ย. 43 ดัชนีบริหารการจัดซื้อ (PMI) ของสิงคโปร์ลดลงอยู่ที่ระดับ 55.3 จากระดับ 57.6 ในเดือน ต.ค. 43 ซึ่งดัชนีดังกล่าวได้สูงกว่าระดับ 50 มาตั้งแต่เดือน ม.ค. 42 แต่ผลผลิตในภาคอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีมูลค่าประมาณร้อยละ 52 ของผลผลิตโดยรวมได้ลดลง 2.4 จุดในเดือน พ.ย. 43 อยู่ที่ระดับ 55.3 ซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 42 ทั้งนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตโดยรวมของสิงคโปร์ได้ชะลอตัวลงมาตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ ผลผลิตโดยรวม การจ้างงาน และการเร่งการส่งมอบของผู้จัดจำหน่ายได้ชะลอตัวลง (รอยเตอร์ 3)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 1 ธ.ค. 43.772 (43.924)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 1ธ.ค. 43
ซื้อ 43.5587 (43.7214) ขาย 43.8707 (44.0361)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,550 (5,550) ขาย 5,650 (5,650)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 26.51 (27.68)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 17.09 (17.09) ดีเซลหมุนเร็ว 14.74 (14.74)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-