คณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน ในการประชุมครั้งที่ 3/2544 (ครั้งที่ 32) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2544 ได้มีมติเห็นชอบ ให้นำส่วนลดค่าก๊าซธรรมชาติสุทธิ จำนวน 328 ล้านบาท มาลดค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.1 (บ้านอยู่อาศัยที่ใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน และติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า ขนาดไม่เกิน 5 แอมแปร์) ซึ่งมีจำนวนประมาณ 8.78 ล้านราย ในใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า ประจำเดือนสิงหาคม 2544 โดยยกเว้นค่าบริการรายเดือน 8.76 บาทต่อราย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และลดค่าพลังงานไฟฟ้า เท่ากับ 45.06 สตางค์ต่อหน่วย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
1. ความเป็นมา
1.1 คณะอนุกรรมการศึกษาโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า และอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ในการประชุมครั้งที่ 2/2544 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2544 ได้มีมติเห็นควรให้การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ดำเนินการเจรจา เพื่อขอเกลี่ยราคาก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งทบทวนดัชนีราคา ในสูตรราคากับผู้รับสัมปทาน และพิจารณาความเป็นไปได้ ในการลดค่าดำเนินการ (Margin) ให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ปัจจุบัน
1.2 ปตท. ได้ดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการศึกษาฯ โดยได้เจรจากับผู้ผลิตก๊าซฯ แหล่งบงกช 3 ราย คือ ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท โททาลฟีน่าเอลฟ์ เอ็กซ์พลอเรชั่น ประเทศไทย จำกัด และบริษัท บริติช ก๊าซ เอเชียแปซิฟิค จำกัด ให้ลดราคาก๊าซฯ ที่ ปตท. ซื้อเกินจากที่ทำสัญญาไว้ในช่วงเดือนสิงหาคม — พฤษภาคม 2545 รวม 8 เดือน จำนวน 31.14 พันล้านลูกบาศก์ฟุต โดยผู้ผลิตก๊าซฯ แหล่งบงกช ได้ให้ส่วนลดค่าก๊าซฯ จากก๊าซฯ ส่วนเกินที่ ปตท. ซื้อ คิดเป็นเงินจำนวน 863 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลประโยชน์สุทธิที่ได้รับ จะมีเพียง 328 ล้านบาท เนื่องจาก ส่วนลดราคาก๊าซฯ ที่ได้มา ทำให้ ปตท. ต้องรับก๊าซฯ จากแหล่งบงกช ซึ่งมีราคาแพงกว่าแหล่งยูโนแคลเพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 535 ล้านบาท ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้รับ ปตท. เสนอให้นำมาลดค่าไฟฟ้า ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ที่มีรายได้น้อย
2. การลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าก๊าซธรรมชาติ
2.1 เนื่องจากผลประโยชน์สุทธิ จากการเจรจาลดราคาก๊าซฯ มีเพียง 328 ล้านบาท ดังนั้น หากนำเงินส่วนลดค่าก๊าซฯ ทั้งจำนวน 863 ล้านบาท มาลดค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบางกลุ่มโดยตรง เช่น ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยประเภท 1.1 ที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน และติดตั้งมิเตอร์เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าขนาดไม่เกิน 5 แอมแปร์ จะส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มอื่น ต้องจ่ายค่าไฟฟ้า เพิ่มขึ้นผ่านค่า Ft ประมาณ 2 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากราคาก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรจัดสรรเงินส่วนลดค่าก๊าซฯ สำหรับการลดค่าไฟฟ้า ดังนี้
2.1.1 ผลประโยชน์สุทธิจำนวน 328 ล้านบาท นำมาลดค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย
2.1.2 เงินส่วนที่เหลือจำนวน 535 ล้านบาท นำไปลดราคาก๊าซฯ สำหรับการคำนวณค่าไฟฟ้าตามสูตร Ft ในรอบต่อไป (ตุลาคม 2544 — มกราคม 2545)
2.2 คณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน ในการประชุมครั้งที่ 3/2544 (ครั้งที่ 32) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2544 ได้พิจารณาเรื่องแนวทางการลดค่าไฟฟ้า จากการลดค่าก๊าซธรรมชาติ และคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน ในการประชุมครั้งที่ 4/2544 (ครั้งที่ 33) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2544 ได้พิจารณาเรื่อง การขอแก้ไขวิธีปฏิบัติ แนวทางการลดค่าไฟฟ้า จากการลดค่าก๊าซธรรมชาติ และได้มีมติดังนี้
2.2.1 เห็นชอบให้นำส่วนลด ค่าก๊าซธรรมชาติสุทธิ จำนวน 328 ล้านบาท มาลดค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.1 (บ้านอยู่อาศัยที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน และติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า ขนาดไม่เกิน 5 แอมแปร์) ซึ่งมีจำนวนประมาณ 8.78 ล้านราย เพียงเดือนเดียว ในใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า ประจำเดือนสิงหาคม 2544 ดังนี้
ยกเว้นค่าบริการรายเดือน 8.76 บาท/ราย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ลดค่าพลังงานไฟฟ้า เท่ากับ 45.06 สตางค์/หน่วย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ทั้งนี้ ค่าไฟฟ้าเมื่อหักส่วนลดแล้ว จะไม่ต่ำกว่าศูนย์
2.2.2 การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า เห็นควรให้ดำเนินการ ดังนี้
ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าตามข้อ 2.2.1 (1) และ 2.2.1 (2) โดยแสดงเป็นรายการพิเศษ ในใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า ให้ กฟผ. ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ ปตท. เป็นผู้ส่งใบเรียกเก็บเงิน การจ่ายส่วนลดไปยัง ปตท. และส่งผ่านค่าส่วนลดคืน ไปยัง กฟน. และ กฟภ.ต่อไป 2.2.3 เงินที่เหลือจากการให้ส่วนลดตามข้อ 2.2.1 (1) และ 2.2.1 (2) ซึ่งมีอีกจำนวนประมาณ 535 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย (ถ้ามี) ให้ ปตท. นำมาลดค่าก๊าซฯ ให้แก่ กฟผ. เพื่อบรรเทาผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของค่า Ft ในรอบต่อไป (ตุลาคม 2544 — มกราคม 2545)
--วารสารนโยบายพลังงาน ฉบับที่ 53 กรกฎาคม-กันยายน 2544--
-ยก-
1. ความเป็นมา
1.1 คณะอนุกรรมการศึกษาโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า และอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ในการประชุมครั้งที่ 2/2544 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2544 ได้มีมติเห็นควรให้การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ดำเนินการเจรจา เพื่อขอเกลี่ยราคาก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งทบทวนดัชนีราคา ในสูตรราคากับผู้รับสัมปทาน และพิจารณาความเป็นไปได้ ในการลดค่าดำเนินการ (Margin) ให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ปัจจุบัน
1.2 ปตท. ได้ดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการศึกษาฯ โดยได้เจรจากับผู้ผลิตก๊าซฯ แหล่งบงกช 3 ราย คือ ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท โททาลฟีน่าเอลฟ์ เอ็กซ์พลอเรชั่น ประเทศไทย จำกัด และบริษัท บริติช ก๊าซ เอเชียแปซิฟิค จำกัด ให้ลดราคาก๊าซฯ ที่ ปตท. ซื้อเกินจากที่ทำสัญญาไว้ในช่วงเดือนสิงหาคม — พฤษภาคม 2545 รวม 8 เดือน จำนวน 31.14 พันล้านลูกบาศก์ฟุต โดยผู้ผลิตก๊าซฯ แหล่งบงกช ได้ให้ส่วนลดค่าก๊าซฯ จากก๊าซฯ ส่วนเกินที่ ปตท. ซื้อ คิดเป็นเงินจำนวน 863 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลประโยชน์สุทธิที่ได้รับ จะมีเพียง 328 ล้านบาท เนื่องจาก ส่วนลดราคาก๊าซฯ ที่ได้มา ทำให้ ปตท. ต้องรับก๊าซฯ จากแหล่งบงกช ซึ่งมีราคาแพงกว่าแหล่งยูโนแคลเพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 535 ล้านบาท ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้รับ ปตท. เสนอให้นำมาลดค่าไฟฟ้า ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ที่มีรายได้น้อย
2. การลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าก๊าซธรรมชาติ
2.1 เนื่องจากผลประโยชน์สุทธิ จากการเจรจาลดราคาก๊าซฯ มีเพียง 328 ล้านบาท ดังนั้น หากนำเงินส่วนลดค่าก๊าซฯ ทั้งจำนวน 863 ล้านบาท มาลดค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบางกลุ่มโดยตรง เช่น ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยประเภท 1.1 ที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน และติดตั้งมิเตอร์เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าขนาดไม่เกิน 5 แอมแปร์ จะส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มอื่น ต้องจ่ายค่าไฟฟ้า เพิ่มขึ้นผ่านค่า Ft ประมาณ 2 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากราคาก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรจัดสรรเงินส่วนลดค่าก๊าซฯ สำหรับการลดค่าไฟฟ้า ดังนี้
2.1.1 ผลประโยชน์สุทธิจำนวน 328 ล้านบาท นำมาลดค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย
2.1.2 เงินส่วนที่เหลือจำนวน 535 ล้านบาท นำไปลดราคาก๊าซฯ สำหรับการคำนวณค่าไฟฟ้าตามสูตร Ft ในรอบต่อไป (ตุลาคม 2544 — มกราคม 2545)
2.2 คณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน ในการประชุมครั้งที่ 3/2544 (ครั้งที่ 32) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2544 ได้พิจารณาเรื่องแนวทางการลดค่าไฟฟ้า จากการลดค่าก๊าซธรรมชาติ และคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน ในการประชุมครั้งที่ 4/2544 (ครั้งที่ 33) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2544 ได้พิจารณาเรื่อง การขอแก้ไขวิธีปฏิบัติ แนวทางการลดค่าไฟฟ้า จากการลดค่าก๊าซธรรมชาติ และได้มีมติดังนี้
2.2.1 เห็นชอบให้นำส่วนลด ค่าก๊าซธรรมชาติสุทธิ จำนวน 328 ล้านบาท มาลดค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.1 (บ้านอยู่อาศัยที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน และติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า ขนาดไม่เกิน 5 แอมแปร์) ซึ่งมีจำนวนประมาณ 8.78 ล้านราย เพียงเดือนเดียว ในใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า ประจำเดือนสิงหาคม 2544 ดังนี้
ยกเว้นค่าบริการรายเดือน 8.76 บาท/ราย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ลดค่าพลังงานไฟฟ้า เท่ากับ 45.06 สตางค์/หน่วย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ทั้งนี้ ค่าไฟฟ้าเมื่อหักส่วนลดแล้ว จะไม่ต่ำกว่าศูนย์
2.2.2 การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า เห็นควรให้ดำเนินการ ดังนี้
ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าตามข้อ 2.2.1 (1) และ 2.2.1 (2) โดยแสดงเป็นรายการพิเศษ ในใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า ให้ กฟผ. ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ ปตท. เป็นผู้ส่งใบเรียกเก็บเงิน การจ่ายส่วนลดไปยัง ปตท. และส่งผ่านค่าส่วนลดคืน ไปยัง กฟน. และ กฟภ.ต่อไป 2.2.3 เงินที่เหลือจากการให้ส่วนลดตามข้อ 2.2.1 (1) และ 2.2.1 (2) ซึ่งมีอีกจำนวนประมาณ 535 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย (ถ้ามี) ให้ ปตท. นำมาลดค่าก๊าซฯ ให้แก่ กฟผ. เพื่อบรรเทาผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของค่า Ft ในรอบต่อไป (ตุลาคม 2544 — มกราคม 2545)
--วารสารนโยบายพลังงาน ฉบับที่ 53 กรกฎาคม-กันยายน 2544--
-ยก-