กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ประวัติความเป็นมา อาเซียนเริ่มมีความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2520 ซึ่งอาเซียนได้ร่าง โครงการสิ่งแวดล้อมของอนุภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Sub-regional Environment Programme - ASEP) ระยะที่ 1 โดยได้รับความร่วมมือจากโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme - UNEP) ต่อมา คณะกรรมการอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ASEAN Committee on Science and Technology - COST) ซึ่งขณะนั้นดูแลงานด้านสิ่งแวดล้อมด้วยได้เสนอให้มีการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม (ASEAN Experts Group on the Environment - AEGE) ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนธันวาคม 2524 ที่กรุงจาการ์ตา และในที่สุดเมื่อปี 2532 AEGE ได้รับการยกระดับสถานะเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสิ่งแวดล้อม (ASEAN Senior Officials on the Environment - ASOEN)
ซึ่งขณะนี้ไทย โดยปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมรับหน้าที่ประธานตั้งแต่เดือนกันยายน 2542 และจะมีวาระ 3 ปี โครงสร้างของ ASOEN ASOEN ได้พยายามปรับโครงสร้างขององค์กรเพื่อให้สอดคล้องและสามารถ ติดตามสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประชุม ASOEN ครั้งที่ 9 เมื่อเดือนกันยายน 2541 ที่สิงคโปร์ ได้มีมติให้เปลี่ยนแปลง โครงสร้างของ ASOEN โดยใช้ประเด็น (issues) ด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและมีผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมระดับโลกและระดับภูมิภาคอาเซียนเป็นเกณฑ์ โครงสร้างของ ASOEN ในปัจจุบันประกอบด้วยคณะทำงานเฉพาะกิจด้านปัญหาหมอกควัน (Haze Technical Task Force) และคณะทำงานอีก 3 คณะซึ่งดูแลด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ (Nature Conservation and Biodiversity) สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง (Coastal and Marine Environment) และความตกลงพหุภาคึด้านสิ่งแวดล้อม (Multilateral Environmental Agreements)
ซึ่งในขณะนี้ไทยเป็นประธานคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการของ ASOEN รวมทั้งกำหนดแนวนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอาเซียน รัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมจะมีการประชุมอย่างเป็นทางการทุก 3 ปีและในระหว่างนั้นจะมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ โดยล่าสุดบรูไน ดารุสซาลามได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2543 ณ บันดาร์ เสรี เบกาวัน ซึ่งที่ประชุมได้หารือและติดตามความคืบหน้าของประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม และได้ให้ความเห็นชอบกับแผนปฏิบัติการกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม (ASEAN Strategic Plan of Action on the Environment) ซึ่งจะครอบคลุมปี 2542-2547 และในโอกาสเดียวกันได้มีพิธีเปิดปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน 2543 (ASEAN Environment Year 2000) ของระดับภูมิภาคอาเซียนด้วย
แนวทางความร่วมมือในอนาคต อาเซียนให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากเสมอมา ดังจะเห็นได้จากการที่ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2540 ได้ให้ความเห็นชอบต่อ ASEAN Vision 2020 ซึ่งเป็นการกำหนดวิสัยทัศน์ของอาเซียนในด้านต่าง ๆ รวมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมในปี 2563 และต่อมา ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 15-16 ธันวาคม 2541 ที่กรงุฮานอย ประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาลได้ลงนามในปฏิญญาฮานอย (Hanoi Declaration) ซึ่งในส่วนของสิ่งแวดล้อมได้ระบุว่า เพื่อให้มีการพัฒนาประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างยั่งยืน การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจะเป็นส่วนสำคัญของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประเทศสมาชิกอาเซียนจะผนึกกำลังและขยายความร่วมมือในการควบคุมและป้องกันมลพิษข้ามแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอกควันที่เกิดจากไฟไหม้ป่าและจากพื้นแผ่นดิน (Land and Forest Fire)
นอกจากนั้น ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 6 ประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนปฏิบัติการฮานอย (Hanoi Plan of Action) ซึ่งครอบคลุมปี 2542-2547 ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุตาม ASEAN Vision 2020 โดยอาเซียนได้กำหนดมาตรการหลายมาตรการซึ่งครอบคลุมสาขาความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้ความดูแลของ ASOEN โดยมีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน แผนปฏิบัติการกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม (ASEAN Strategic Plan of Action on the Environment - SPAE) 2542-2547 ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 4 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2541 ณ กรงุฮานอย รัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมได้ให้แนวทางแก่เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาแผนปฏิบัติการกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับปี 2542-2547 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม 15 กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการฮานอย SPAE จะประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ใน 5 สาขาหลักคือการจัดการไฟไหม้ ป่า/พื้นดินรวมทั้งปัญหาหมอกควัน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทาง ชีวภาพ สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ความตกลงพหุภาคีด้านสิ่งแวดล้อม และกิจกรรม อื่น ๆ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยใน SPAE จะกำหนดกิจกรรมพร้อมหน่วยงานที่จะดำเนินการ กำหนดเวลา แหล่งงบประมาณและสถานะของการดำเนินการ ปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน 2543 ASOEN ได้มีมติให้ปี 2543 เป็นปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน หรือ ASEAN Environment Year 2000 และได้กำหนดคำขวัญว่า Our Heritage, Our Future โดยทุกประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องจัดกิจกรรมภายในประเทศขึ้นตลอดปี เนื่องจาก ASOEN ต้องการสร้าง จิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนทุกระดับในสังคม รวมทั้งส่งเสริมความรู้ด้านสิ่ง แวดล้อมแก่สาธารณชนในการนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
นอกจากนั้น ASOEN ยังต้องการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในระดับภูมิภาคด้วย สำหรับประเทศไทยนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2543 ให้ประเทศไทยเข้าร่วมดำเนินงานปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน 2543 โดยกิจกรรมในส่วนของไทยนั้นประกอบด้วยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง การประกวดคำขวัญภาษาไทย เพื่อใช้ในการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ในประเทศไทย การดำเนินงานสอดแทรกในแผนงานประจำของหน่วยงาน เช่น กิจกรรมเยาวชน การฝึกอบรม การจัดแสดงนิทรรศการ การจัดกิจกรรมรณรงค์ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น วันสิ่งแวดล้อมโลก วันสิ่งแวดล้อมไทย การส่งเสริม กิจกรรมการท่องเที่ยวแบบ Eco-tourism ทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน โดยสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม การดำเนินกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ เช่นกลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี และการส่งเสริมให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ ขณะนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมได้จัดให้มีการประกวดคำขวัญเป็นภาษาไทยขึ้นแล้ว และในที่สุดก็ได้คำขวัญว่า "สิ่งแวดล้อมโลกคือมรดกล้ำค่า ไทยร่วม อาเซียนพัฒนาให้ยั่งยืน" และเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2543 กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมได้ร่วมกันจัดงานพิธีเปิดปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน 2543 อย่างเป็นทางการของไทยขึ้นที่ กระทรวงการต่างประเทศ โดย นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
ประวัติความเป็นมา อาเซียนเริ่มมีความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2520 ซึ่งอาเซียนได้ร่าง โครงการสิ่งแวดล้อมของอนุภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Sub-regional Environment Programme - ASEP) ระยะที่ 1 โดยได้รับความร่วมมือจากโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme - UNEP) ต่อมา คณะกรรมการอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ASEAN Committee on Science and Technology - COST) ซึ่งขณะนั้นดูแลงานด้านสิ่งแวดล้อมด้วยได้เสนอให้มีการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม (ASEAN Experts Group on the Environment - AEGE) ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนธันวาคม 2524 ที่กรุงจาการ์ตา และในที่สุดเมื่อปี 2532 AEGE ได้รับการยกระดับสถานะเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสิ่งแวดล้อม (ASEAN Senior Officials on the Environment - ASOEN)
ซึ่งขณะนี้ไทย โดยปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมรับหน้าที่ประธานตั้งแต่เดือนกันยายน 2542 และจะมีวาระ 3 ปี โครงสร้างของ ASOEN ASOEN ได้พยายามปรับโครงสร้างขององค์กรเพื่อให้สอดคล้องและสามารถ ติดตามสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประชุม ASOEN ครั้งที่ 9 เมื่อเดือนกันยายน 2541 ที่สิงคโปร์ ได้มีมติให้เปลี่ยนแปลง โครงสร้างของ ASOEN โดยใช้ประเด็น (issues) ด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและมีผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมระดับโลกและระดับภูมิภาคอาเซียนเป็นเกณฑ์ โครงสร้างของ ASOEN ในปัจจุบันประกอบด้วยคณะทำงานเฉพาะกิจด้านปัญหาหมอกควัน (Haze Technical Task Force) และคณะทำงานอีก 3 คณะซึ่งดูแลด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ (Nature Conservation and Biodiversity) สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง (Coastal and Marine Environment) และความตกลงพหุภาคึด้านสิ่งแวดล้อม (Multilateral Environmental Agreements)
ซึ่งในขณะนี้ไทยเป็นประธานคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการของ ASOEN รวมทั้งกำหนดแนวนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอาเซียน รัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมจะมีการประชุมอย่างเป็นทางการทุก 3 ปีและในระหว่างนั้นจะมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ โดยล่าสุดบรูไน ดารุสซาลามได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2543 ณ บันดาร์ เสรี เบกาวัน ซึ่งที่ประชุมได้หารือและติดตามความคืบหน้าของประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม และได้ให้ความเห็นชอบกับแผนปฏิบัติการกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม (ASEAN Strategic Plan of Action on the Environment) ซึ่งจะครอบคลุมปี 2542-2547 และในโอกาสเดียวกันได้มีพิธีเปิดปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน 2543 (ASEAN Environment Year 2000) ของระดับภูมิภาคอาเซียนด้วย
แนวทางความร่วมมือในอนาคต อาเซียนให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากเสมอมา ดังจะเห็นได้จากการที่ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2540 ได้ให้ความเห็นชอบต่อ ASEAN Vision 2020 ซึ่งเป็นการกำหนดวิสัยทัศน์ของอาเซียนในด้านต่าง ๆ รวมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมในปี 2563 และต่อมา ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 15-16 ธันวาคม 2541 ที่กรงุฮานอย ประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาลได้ลงนามในปฏิญญาฮานอย (Hanoi Declaration) ซึ่งในส่วนของสิ่งแวดล้อมได้ระบุว่า เพื่อให้มีการพัฒนาประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างยั่งยืน การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจะเป็นส่วนสำคัญของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประเทศสมาชิกอาเซียนจะผนึกกำลังและขยายความร่วมมือในการควบคุมและป้องกันมลพิษข้ามแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอกควันที่เกิดจากไฟไหม้ป่าและจากพื้นแผ่นดิน (Land and Forest Fire)
นอกจากนั้น ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 6 ประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนปฏิบัติการฮานอย (Hanoi Plan of Action) ซึ่งครอบคลุมปี 2542-2547 ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุตาม ASEAN Vision 2020 โดยอาเซียนได้กำหนดมาตรการหลายมาตรการซึ่งครอบคลุมสาขาความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้ความดูแลของ ASOEN โดยมีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน แผนปฏิบัติการกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม (ASEAN Strategic Plan of Action on the Environment - SPAE) 2542-2547 ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 4 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2541 ณ กรงุฮานอย รัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมได้ให้แนวทางแก่เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาแผนปฏิบัติการกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับปี 2542-2547 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม 15 กิจกรรมที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการฮานอย SPAE จะประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ใน 5 สาขาหลักคือการจัดการไฟไหม้ ป่า/พื้นดินรวมทั้งปัญหาหมอกควัน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทาง ชีวภาพ สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ความตกลงพหุภาคีด้านสิ่งแวดล้อม และกิจกรรม อื่น ๆ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยใน SPAE จะกำหนดกิจกรรมพร้อมหน่วยงานที่จะดำเนินการ กำหนดเวลา แหล่งงบประมาณและสถานะของการดำเนินการ ปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน 2543 ASOEN ได้มีมติให้ปี 2543 เป็นปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน หรือ ASEAN Environment Year 2000 และได้กำหนดคำขวัญว่า Our Heritage, Our Future โดยทุกประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องจัดกิจกรรมภายในประเทศขึ้นตลอดปี เนื่องจาก ASOEN ต้องการสร้าง จิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนทุกระดับในสังคม รวมทั้งส่งเสริมความรู้ด้านสิ่ง แวดล้อมแก่สาธารณชนในการนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
นอกจากนั้น ASOEN ยังต้องการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในระดับภูมิภาคด้วย สำหรับประเทศไทยนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2543 ให้ประเทศไทยเข้าร่วมดำเนินงานปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน 2543 โดยกิจกรรมในส่วนของไทยนั้นประกอบด้วยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง การประกวดคำขวัญภาษาไทย เพื่อใช้ในการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ในประเทศไทย การดำเนินงานสอดแทรกในแผนงานประจำของหน่วยงาน เช่น กิจกรรมเยาวชน การฝึกอบรม การจัดแสดงนิทรรศการ การจัดกิจกรรมรณรงค์ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น วันสิ่งแวดล้อมโลก วันสิ่งแวดล้อมไทย การส่งเสริม กิจกรรมการท่องเที่ยวแบบ Eco-tourism ทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน โดยสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม การดำเนินกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ เช่นกลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี และการส่งเสริมให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ ขณะนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมได้จัดให้มีการประกวดคำขวัญเป็นภาษาไทยขึ้นแล้ว และในที่สุดก็ได้คำขวัญว่า "สิ่งแวดล้อมโลกคือมรดกล้ำค่า ไทยร่วม อาเซียนพัฒนาให้ยั่งยืน" และเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2543 กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมได้ร่วมกันจัดงานพิธีเปิดปีสิ่งแวดล้อมอาเซียน 2543 อย่างเป็นทางการของไทยขึ้นที่ กระทรวงการต่างประเทศ โดย นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-