แท็ก
เครดิต
1. NPL คงค้างของระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์)
1.1 ระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งสิ้น 864.4 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 4,835.4 พันล้านบาท ในเดือนนี้ NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 9.8 พันล้านบาท เนื่องจาก NPL รายใหม่และรายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย อัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมของระบบสถาบันการเงิน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 เท่ากับร้อยละ 17.88 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 17.60 ณ สิ้นเดือนเมษายน 2544
1.2 NPL ของระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) แยกตามกลุ่มสถาบันการเงินได้ดังนี้
1.2.1 ธนาคารเอกชนมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 495.0 พันล้านบาท เทียบกับสินเชื่อรวม 2,643.8 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 18.72
1.2.2 ธนาคารของรัฐมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 309.1 พันล้านบาท เทียบกับสินเชื่อรวม 1,434.8 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 21.55
1.2.3 สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 27.9 พันล้านบาท เทียบกับสินเชื่อรวม 605.0 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 4.61
1.2.4 บริษัทเงินทุนมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 32.4 พันล้านบาท เทียบกับสินเชื่อรวม 151.7 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 21.33
1.3 ภาคธุรกิจที่มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 จำนวนสูงแยกได้ดังนี้
1.3.1 ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมี NPL คงค้าง 203.0 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23.49 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.2 ภาคธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกมี NPL คงค้าง 138.6 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.04 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.3 ภาคธุรกิจอุปโภคบริโภคมี NPL คงค้าง 129.1 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.93 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.4 ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มี NPL คงค้าง 124.8 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.44 ของ NPL ทั้งสิ้น
2. การเปลี่ยนแปลง NPL ของระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์)
2.1 การเปลี่ยนแปลง NPL ของระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ในเดือนพฤษภาคม 2544 แยกรายละเอียดได้ดังนี้
พันล้านบาท
2.1.1 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน เม.ย. 2544 854.6
2.1.2 NPL ที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค. 2544
- จำนวนใหม่ 7.6
- รายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 22.8 40.4
2.1.3 NPL ที่ลดลงในเดือน พ.ค. 2544
- ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (18.8)
- เหตุผลอื่น (ดูรายละเอียดในหมายเหตุ) (11.8) (30.6)
2.1.4 NPL เพิ่มขึ้นสุทธิในเดือน พ.ค. 2544 9.8
2.1.5 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2544 864.4
หมายเหตุ เหตุผลอื่น ประกอบด้วย
1) NPL ที่มาชำระจนค้างไม่ถึง 3 เดือนจำนวน 5.2 พันล้านบาท
2) โอน NPL ไปยัง AMC จำนวน 1.8 พันล้านบาท
3) ตัดหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญที่กันสำรองครบร้อยละ 100 แล้วออกจากบัญชี รวมเป็น
จำนวน 0.1 พันล้านบาท
4) อื่นๆ เช่น จำนวนเงินที่รับชำระหนี้ การตัดหนี้สูญเนื่องจากหมดสิทธิเรียกร้อง
การขายหนี้ เป็นต้น รวมเป็นจำนวน 4.8 พันล้านบาท
2.2 การเปลี่ยนแปลง NPL ในเดือนพฤษภาคม 2544 พิจารณาตามกลุ่มสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) แยกได้ดังนี้
2.2.1 ธนาคารเอกชนมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 9.1 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.87 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 485.9 พันล้านบาท
2.2.2 ธนาคารของรัฐมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.7 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.23 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อน ซึ่งมีจำนวน 308.4 พันล้านบาท
2.2.3 สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL ลดลงสุทธิ 0.4 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.6 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 28.4 พันล้านบาท
2.2.4 บริษัทเงินทุนมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.4 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.34 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 31.9 พันล้านบาท
2.3 การเปลี่ยนแปลง NPL ในเดือนพฤษภาคม 2544 แยกตามภาคธุรกิจได้ดังนี้
2.3.1 NPL รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 17.6 พันล้านบาท อยู่ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม 6.9 พันล้านบาท ภาคธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 2.4 พันล้านบาท และภาคธุรกิจอุปโภคบริโภค 1.9 พันล้านบาท
2.3.2 NPL ที่เพิ่มขึ้นจากรายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้จำนวน 22.8 พันล้านบาท อยู่ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม 8.2 พันล้านบาท ภาคธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 4.4 พันล้านบาท ภาคธุรกิจอุปโภคบริโภค 2.8 พันล้านบาท ภาคธุรกิจการบริการ 2.3 พันล้านบาทและภาคธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ 1.9 พันล้านบาท
3. NPL ของสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
3.1 สำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งสิ้น 4.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นเดือนก่อน) เท่ากับร้อยละ 5.79 ของสินเชื่อรวม 77.9 พันล้านบาท
3.2 บริษัทเครดิตฟองซิเอร์มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งสิ้น 0.9 พันล้านบาท (ลดลงสุทธิ 0.5 พันล้านบาทจากสิ้นเดือนก่อน) เท่ากับร้อยละ 28.58 ของสินเชื่อรวม
3.1 พันล้านบาท
4. NPL คงค้างของระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
ระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งสิ้น 869.8 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นสุทธิจากเดือนก่อน9.3 พันล้านบาท) เทียบกับสินเชื่อรวม 4,916.3 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 17.69 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 17.42 ณ สิ้นเดือนก่อน
5. NPL คงค้างหลังหักเงินสำรอง
5.1 ระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ได้กันเงินสำรองสำหรับ NPL ส่วนที่ไม่มีหลักประกันรองรับไว้แล้วจำนวน 293.9 พันล้านบาท ดังนั้น NPL หลังหักเงินสำรองจึงมีจำนวนเท่ากับ 570.6 พันล้านบาท และสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับ 4,541.5 พันล้านบาท NPL หลังหักเงินสำรองต่อสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับร้อยละ 12.56
5.2 ระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ได้กันเงินสำรองสำหรับ NPL ส่วนที่ไม่มีหลักประกันรองรับไว้แล้วจำนวน 296.7 พันล้านบาท ดังนั้น NPL หลังหักเงินสำรองจึงมีจำนวนเท่ากับ 573.2 พันล้านบาท และสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับ 4,619.6 พันล้านบาท NPL หลังหักเงินสำรองต่อสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับร้อยละ 12.41
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1.1 ระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งสิ้น 864.4 พันล้านบาท และสินเชื่อรวม 4,835.4 พันล้านบาท ในเดือนนี้ NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 9.8 พันล้านบาท เนื่องจาก NPL รายใหม่และรายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย อัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมของระบบสถาบันการเงิน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 เท่ากับร้อยละ 17.88 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 17.60 ณ สิ้นเดือนเมษายน 2544
1.2 NPL ของระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) แยกตามกลุ่มสถาบันการเงินได้ดังนี้
1.2.1 ธนาคารเอกชนมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 495.0 พันล้านบาท เทียบกับสินเชื่อรวม 2,643.8 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 18.72
1.2.2 ธนาคารของรัฐมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 309.1 พันล้านบาท เทียบกับสินเชื่อรวม 1,434.8 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 21.55
1.2.3 สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 27.9 พันล้านบาท เทียบกับสินเชื่อรวม 605.0 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 4.61
1.2.4 บริษัทเงินทุนมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 32.4 พันล้านบาท เทียบกับสินเชื่อรวม 151.7 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 21.33
1.3 ภาคธุรกิจที่มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 จำนวนสูงแยกได้ดังนี้
1.3.1 ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมี NPL คงค้าง 203.0 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23.49 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.2 ภาคธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกมี NPL คงค้าง 138.6 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.04 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.3 ภาคธุรกิจอุปโภคบริโภคมี NPL คงค้าง 129.1 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.93 ของ NPL ทั้งสิ้น
1.3.4 ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มี NPL คงค้าง 124.8 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.44 ของ NPL ทั้งสิ้น
2. การเปลี่ยนแปลง NPL ของระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์)
2.1 การเปลี่ยนแปลง NPL ของระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ในเดือนพฤษภาคม 2544 แยกรายละเอียดได้ดังนี้
พันล้านบาท
2.1.1 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน เม.ย. 2544 854.6
2.1.2 NPL ที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค. 2544
- จำนวนใหม่ 7.6
- รายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 22.8 40.4
2.1.3 NPL ที่ลดลงในเดือน พ.ค. 2544
- ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (18.8)
- เหตุผลอื่น (ดูรายละเอียดในหมายเหตุ) (11.8) (30.6)
2.1.4 NPL เพิ่มขึ้นสุทธิในเดือน พ.ค. 2544 9.8
2.1.5 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2544 864.4
หมายเหตุ เหตุผลอื่น ประกอบด้วย
1) NPL ที่มาชำระจนค้างไม่ถึง 3 เดือนจำนวน 5.2 พันล้านบาท
2) โอน NPL ไปยัง AMC จำนวน 1.8 พันล้านบาท
3) ตัดหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญที่กันสำรองครบร้อยละ 100 แล้วออกจากบัญชี รวมเป็น
จำนวน 0.1 พันล้านบาท
4) อื่นๆ เช่น จำนวนเงินที่รับชำระหนี้ การตัดหนี้สูญเนื่องจากหมดสิทธิเรียกร้อง
การขายหนี้ เป็นต้น รวมเป็นจำนวน 4.8 พันล้านบาท
2.2 การเปลี่ยนแปลง NPL ในเดือนพฤษภาคม 2544 พิจารณาตามกลุ่มสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) แยกได้ดังนี้
2.2.1 ธนาคารเอกชนมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 9.1 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.87 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 485.9 พันล้านบาท
2.2.2 ธนาคารของรัฐมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.7 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.23 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อน ซึ่งมีจำนวน 308.4 พันล้านบาท
2.2.3 สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL ลดลงสุทธิ 0.4 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.6 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 28.4 พันล้านบาท
2.2.4 บริษัทเงินทุนมี NPL เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.4 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.34 ของ NPL ณ สิ้นเดือนก่อนซึ่งมีจำนวน 31.9 พันล้านบาท
2.3 การเปลี่ยนแปลง NPL ในเดือนพฤษภาคม 2544 แยกตามภาคธุรกิจได้ดังนี้
2.3.1 NPL รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 17.6 พันล้านบาท อยู่ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม 6.9 พันล้านบาท ภาคธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 2.4 พันล้านบาท และภาคธุรกิจอุปโภคบริโภค 1.9 พันล้านบาท
2.3.2 NPL ที่เพิ่มขึ้นจากรายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้จำนวน 22.8 พันล้านบาท อยู่ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม 8.2 พันล้านบาท ภาคธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 4.4 พันล้านบาท ภาคธุรกิจอุปโภคบริโภค 2.8 พันล้านบาท ภาคธุรกิจการบริการ 2.3 พันล้านบาทและภาคธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ 1.9 พันล้านบาท
3. NPL ของสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
3.1 สำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งสิ้น 4.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นเดือนก่อน) เท่ากับร้อยละ 5.79 ของสินเชื่อรวม 77.9 พันล้านบาท
3.2 บริษัทเครดิตฟองซิเอร์มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งสิ้น 0.9 พันล้านบาท (ลดลงสุทธิ 0.5 พันล้านบาทจากสิ้นเดือนก่อน) เท่ากับร้อยละ 28.58 ของสินเชื่อรวม
3.1 พันล้านบาท
4. NPL คงค้างของระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
ระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ มี NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งสิ้น 869.8 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นสุทธิจากเดือนก่อน9.3 พันล้านบาท) เทียบกับสินเชื่อรวม 4,916.3 พันล้านบาท เท่ากับร้อยละ 17.69 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 17.42 ณ สิ้นเดือนก่อน
5. NPL คงค้างหลังหักเงินสำรอง
5.1 ระบบสถาบันการเงิน (ไม่รวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์) ได้กันเงินสำรองสำหรับ NPL ส่วนที่ไม่มีหลักประกันรองรับไว้แล้วจำนวน 293.9 พันล้านบาท ดังนั้น NPL หลังหักเงินสำรองจึงมีจำนวนเท่ากับ 570.6 พันล้านบาท และสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับ 4,541.5 พันล้านบาท NPL หลังหักเงินสำรองต่อสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับร้อยละ 12.56
5.2 ระบบสถาบันการเงินรวมสำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศและบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ได้กันเงินสำรองสำหรับ NPL ส่วนที่ไม่มีหลักประกันรองรับไว้แล้วจำนวน 296.7 พันล้านบาท ดังนั้น NPL หลังหักเงินสำรองจึงมีจำนวนเท่ากับ 573.2 พันล้านบาท และสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับ 4,619.6 พันล้านบาท NPL หลังหักเงินสำรองต่อสินเชื่อทั้งสิ้นหลังหักเงินสำรองเท่ากับร้อยละ 12.41
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-