กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายรัฐกิจ มานะทัต อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยอ้างถึงข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ข่าวสดประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2544 ซึ่งรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมนายสมบัติ ทับทิมนิล และนายประสิทธิ์ การดี ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการและหนังสือ เดินทางไทยและต่างประเทศ นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงเรื่องนี้ ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2544 พ.ต.อ.สุรพล ทองประเสริฐ รองผู้บังคับการกองปราบปรามได้เข้าพบอธิบดีกรมการกงสุล เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบหนังสือเดินทางที่ยึดได้จากการจับกุมผู้ปลอมแปลงหนังสือเดินทาง และได้แจ้งรายละเอียดกับนายเพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ อธิบดีกรมการกงสุลว่า ทางการตำรวจได้สืบทราบเกี่ยวกับการปลอมแปลงหนังสือ เดินทาง จึงได้ทำการล่อซื้อ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2544 เจ้าพนักงานตำรวจกอง ปราบปรามได้เข้าทำการจับกุมนายวิสารท หรืออธิป ตรรกวีรพัท อายุ 42 ปี ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการภายหลังจากที่นายวิสารทฯ ได้นำหนังสือเดินทางไทยที่ทำปลอมจำนวน 3 เล่มใน ราคาเล่มละ 6,000 บาท มอบให้กับสายของตำรวจที่ได้วางแผนล่อซื้อไว้ล่วงหน้า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบริษัทโปรสกรีน แอนด์ปรินท์ติ้ง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารแพตต์ แมนชั่น จำกัด พร้อมยึดของกลางคือเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ในการทำหนังสือเดินทางปลอมจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นายวิสารทฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อหา เจ้าพนักงานตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยมีรายการของกลางคือ หนังสือเดินทางไทยจำนวน 3 เล่ม คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เครื่องสแกนเนอร์ 1 เครื่อง เครื่องพิมพ์ 1 เครื่อง และแผ่นพลาสติกสำหรับเคลือบหนังสือเดินทาง 6 แผ่น
2. ในวันที่ 9 ตุลาคม 2544 กองหนังสือเดินทางได้ประสานกับสถานีตำรวจ นครบาลคันนายาว ซึ่งได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ปณชัย ศรัทธาวุฒิ มาพบกับรองอธิบดีกรมการกงสุล และชี้แจงว่า เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจคันนายาวได้เข้าตรวจค้นและจับกุมนายสมบัติ ทับทิมนิล และนายประสิทธิ์ การดี ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์และเอกสารราชการ ณ ห้องพักอาคารชุดเคหะรามอินทรา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของนายอาราม ตรรกวีรพัท ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทโปรสกรีน แอนด์ปรินท์ติ้ง จำกัด เจ้าพนักงานตำรวจได้ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยและพบหลักฐานคือ หนังสือเดินทางไทยจำนวน 19 เล่ม plate visa ญี่ปุ่น plate ID card ของสิงคโปร์ plate ตั๋วเครื่องบิน เช็คเดินทาง visa และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เจ้าพนักงานตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการฟ้องต่อไป นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ศกนี้ เจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยได้เข้าพบอธิบดีกรมยุโรป เพื่อขอความร่วมมือจากทางการไทยในการปราบปรามขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางของฝรั่งเศสซึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องนี้แล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-สส-
นายรัฐกิจ มานะทัต อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยอ้างถึงข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ข่าวสดประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2544 ซึ่งรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมนายสมบัติ ทับทิมนิล และนายประสิทธิ์ การดี ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการและหนังสือ เดินทางไทยและต่างประเทศ นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงเรื่องนี้ ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2544 พ.ต.อ.สุรพล ทองประเสริฐ รองผู้บังคับการกองปราบปรามได้เข้าพบอธิบดีกรมการกงสุล เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบหนังสือเดินทางที่ยึดได้จากการจับกุมผู้ปลอมแปลงหนังสือเดินทาง และได้แจ้งรายละเอียดกับนายเพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ อธิบดีกรมการกงสุลว่า ทางการตำรวจได้สืบทราบเกี่ยวกับการปลอมแปลงหนังสือ เดินทาง จึงได้ทำการล่อซื้อ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2544 เจ้าพนักงานตำรวจกอง ปราบปรามได้เข้าทำการจับกุมนายวิสารท หรืออธิป ตรรกวีรพัท อายุ 42 ปี ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการภายหลังจากที่นายวิสารทฯ ได้นำหนังสือเดินทางไทยที่ทำปลอมจำนวน 3 เล่มใน ราคาเล่มละ 6,000 บาท มอบให้กับสายของตำรวจที่ได้วางแผนล่อซื้อไว้ล่วงหน้า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบริษัทโปรสกรีน แอนด์ปรินท์ติ้ง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารแพตต์ แมนชั่น จำกัด พร้อมยึดของกลางคือเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ในการทำหนังสือเดินทางปลอมจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นายวิสารทฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อหา เจ้าพนักงานตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยมีรายการของกลางคือ หนังสือเดินทางไทยจำนวน 3 เล่ม คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เครื่องสแกนเนอร์ 1 เครื่อง เครื่องพิมพ์ 1 เครื่อง และแผ่นพลาสติกสำหรับเคลือบหนังสือเดินทาง 6 แผ่น
2. ในวันที่ 9 ตุลาคม 2544 กองหนังสือเดินทางได้ประสานกับสถานีตำรวจ นครบาลคันนายาว ซึ่งได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ปณชัย ศรัทธาวุฒิ มาพบกับรองอธิบดีกรมการกงสุล และชี้แจงว่า เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจคันนายาวได้เข้าตรวจค้นและจับกุมนายสมบัติ ทับทิมนิล และนายประสิทธิ์ การดี ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์และเอกสารราชการ ณ ห้องพักอาคารชุดเคหะรามอินทรา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของนายอาราม ตรรกวีรพัท ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทโปรสกรีน แอนด์ปรินท์ติ้ง จำกัด เจ้าพนักงานตำรวจได้ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยและพบหลักฐานคือ หนังสือเดินทางไทยจำนวน 19 เล่ม plate visa ญี่ปุ่น plate ID card ของสิงคโปร์ plate ตั๋วเครื่องบิน เช็คเดินทาง visa และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เจ้าพนักงานตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการฟ้องต่อไป นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ศกนี้ เจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยได้เข้าพบอธิบดีกรมยุโรป เพื่อขอความร่วมมือจากทางการไทยในการปราบปรามขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางของฝรั่งเศสซึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องนี้แล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-สส-