สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--10 ม.ค.--รอยเตอร์
1. สถานการณ์สินค้า
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่มีปัญหา
1.2 สินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
2. สถานการณ์สินค้าเกษตรที่สำคัญ
ฝ้าย : การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย พ.ศ.2542
จากการที่สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย และสมาคมอุตสาหกรรมฝ้ายไทย ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย โดยลงนามร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสัญญาการรับซื้อฝ้ายไทยปีการผลิต 2542/43 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2542 โดยที่สมาคมอุตสาหกรรมฝ้ายไทย ซึ่งมีโรงหีบฝ้ายที่เป็นสมาชิก จำนวน 10 โรง ได้แก่ โรงงานฝ้ายบางกอก จ. นนทบุรี ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรอำนวยทรัพย์การฝ้าย และห้างหุ้นส่วนจำกัด เล็กอุทัยการฝ้าย จ. สุโขทัย โรงงานฝ้ายยงสุวัฒน์ และบริษัทฟ้าดินประสิทธิ์พร จ. นครสวรรค์ โรงงานหีบฝ้ายแสงพัฒนา จ. พิจิตร โรงงานหีบฝ้ายใจงาม- จ. น่าน โรงงานฝ้ายโค้วเงี๊ยบเชียง จ. เพชรบุรี โรงงานปั่นนุ่นธนบุรี และบริษัทฝ้าย-อีสาน กรุงเทพมหานคร จะรับซื้อฝ้ายดอกจากเกษตรกรตามราคาดังนี้ ราคาฝ้ายชนิดใยยาว ณ หน้าโรงงาน คุณภาพชั้น 1 กิโลกรัมละ 16.23 บาท และคุณภาพชั้น 2 กิโลกรัมละ 15.53 บาท และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายจะรักษาระดับการผลิตฝ้ายในประเทศประมาณ 200,000 ไร่ และจะเร่งรัดปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้เพิ่มขึ้น
เพื่อให้การกำหนดราคารับซื้อฝ้ายดอกในปีการผลิต 2542/43 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นข้อมูลพื้นฐานในการดำเนินงานในปีต่อไปทั้งในเรื่องราคาและการปรับปรุงประสิทธิภาพ เกษตรกรจะต้องมาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกฝ้าย ปี 2542 โดยนำเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน มายื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียน ณ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสถานที่ที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ธันวาคม 2542 การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย ครั้งนี้จะมีระยะเวลาใช้งาน 3 ปี ดังนั้น เกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายในปี 2542/43 ควรเร่งยื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียนตามสถานที่และระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการต่าง ๆ ของรัฐ
--รายงานสถานการณ์สินค้าเกษตรประจำวันที่ 6-12 ธ.ค. 2542--
1. สถานการณ์สินค้า
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่มีปัญหา
1.2 สินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
2. สถานการณ์สินค้าเกษตรที่สำคัญ
ฝ้าย : การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย พ.ศ.2542
จากการที่สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย และสมาคมอุตสาหกรรมฝ้ายไทย ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย โดยลงนามร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสัญญาการรับซื้อฝ้ายไทยปีการผลิต 2542/43 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2542 โดยที่สมาคมอุตสาหกรรมฝ้ายไทย ซึ่งมีโรงหีบฝ้ายที่เป็นสมาชิก จำนวน 10 โรง ได้แก่ โรงงานฝ้ายบางกอก จ. นนทบุรี ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรอำนวยทรัพย์การฝ้าย และห้างหุ้นส่วนจำกัด เล็กอุทัยการฝ้าย จ. สุโขทัย โรงงานฝ้ายยงสุวัฒน์ และบริษัทฟ้าดินประสิทธิ์พร จ. นครสวรรค์ โรงงานหีบฝ้ายแสงพัฒนา จ. พิจิตร โรงงานหีบฝ้ายใจงาม- จ. น่าน โรงงานฝ้ายโค้วเงี๊ยบเชียง จ. เพชรบุรี โรงงานปั่นนุ่นธนบุรี และบริษัทฝ้าย-อีสาน กรุงเทพมหานคร จะรับซื้อฝ้ายดอกจากเกษตรกรตามราคาดังนี้ ราคาฝ้ายชนิดใยยาว ณ หน้าโรงงาน คุณภาพชั้น 1 กิโลกรัมละ 16.23 บาท และคุณภาพชั้น 2 กิโลกรัมละ 15.53 บาท และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายจะรักษาระดับการผลิตฝ้ายในประเทศประมาณ 200,000 ไร่ และจะเร่งรัดปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้เพิ่มขึ้น
เพื่อให้การกำหนดราคารับซื้อฝ้ายดอกในปีการผลิต 2542/43 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นข้อมูลพื้นฐานในการดำเนินงานในปีต่อไปทั้งในเรื่องราคาและการปรับปรุงประสิทธิภาพ เกษตรกรจะต้องมาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกฝ้าย ปี 2542 โดยนำเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน มายื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียน ณ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสถานที่ที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ธันวาคม 2542 การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย ครั้งนี้จะมีระยะเวลาใช้งาน 3 ปี ดังนั้น เกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายในปี 2542/43 ควรเร่งยื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียนตามสถานที่และระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการต่าง ๆ ของรัฐ
--รายงานสถานการณ์สินค้าเกษตรประจำวันที่ 6-12 ธ.ค. 2542--