นายเกริกไกร จีระแพทย์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยภายหลังจากการที่นำคณะผู้แทนการค้าไทยไปเยือนและเจรจาขยายตลาดข้าวในประเทศสหภาพแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 20-22 พฤษภาคม 2543 และได้พบปะหารือกับบริษัท Tastic Rice ผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่ซึ่งนำเข้าข้าวไทยมากกว่า 100,000 ตันต่อปี โดยเป็นข้าวนึ่งถึง 90% ว่า นอกเหนือจากข้าวนึ่งที่เป็นที่นิยมของประชากรส่วนใหญ่แล้วขณะนี้ข้าวหอมมะลิแนวโน้มการขยายตัวในการบริโภคและเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศสหภาพแอฟริกาใต้ เนื่องจากข้าวหอมมะลิไทยมีคุณภาพดีและราคาสามารถแข่งขันกับข้าวบาสมาติจากอินเดียได้ โดยบริษัท Tastic Rice ได้มีการออกแบบการบรรจุผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นที่สะดุดตาต่อผู้บริโภคอีกด้วย เพื่อให้ข้าวหอมมะลิไทย ได้เผยแพร่เป็นที่รู้จักทั่วไปในโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร ต่อไป
บริษัท Tastic Rice ยังเห็นว่าไทยควรจะเน้นขยายการส่งออกข้าวคุณภาพดีมากกว่าข้าวคุณภาพต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมมะลิไทย โดยขอให้ไทยได้ช่วยประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วไป ซึ่งฝ่ายไทยจะได้จัดโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขาย และการจดทะเบียนสิทธิบัตรตราข้าวหอมมะลิไทยในประเทศสหภาพแอฟริกาใต้ต่อไป
นอกจากข้าวหอมมะลิไทยที่มีอนาคตสดใสในประเทศสหภาพแอฟริกาใต้แล้ว จากการสำรวจตลาด ภัตตาคาร ร้านอาหารพบว่าหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากข้าวที่บริโภคยังมีการหุงข้าวไม่ถูกวิธี ไม่ได้คุณภาพเช่นข้าวที่หุงในประเทศไทย ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มิได้หุงข้าวโดยใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า หากได้มีการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายหม้อหุงข้าวไฟฟ้าควบคู่ไปกับข้าวหอมมะลิก็จะทำให้ปริมาณความต้องการข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มมากขึ้น
ประเทศสหภาพแอฟริกาใต้เป็นตลาดข้าวที่สำคัญของไทย นำเข้าข้าวทั้งหมดปีละ 5.75 แสนตันโดยนำเข้าข้าวจากไทยสม่ำเสมอปีละ 2-3 แสนตันในปี 2542 นำเข้าข้าว 3.2 แสนตัน เป็นข้าวนึ่ง 2.9แสนตัน ประมาณ 90% ที่เหลือเป็นข้าวหอมและข้าวขาวคู่แข่งสำคัญของไทยในประเทศนี้ คือสหรัฐอเมริกา จีน เวียดนาม อินเดีย โดยในช่วง มกราคม-เมษายน 2543 นำเข้าข้าวไทยแล้ว 1.1แสนตัน เป็นข้าวนึ่ง 1.03 แสนตัน
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษภาคม 2543--
-อน-
บริษัท Tastic Rice ยังเห็นว่าไทยควรจะเน้นขยายการส่งออกข้าวคุณภาพดีมากกว่าข้าวคุณภาพต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมมะลิไทย โดยขอให้ไทยได้ช่วยประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วไป ซึ่งฝ่ายไทยจะได้จัดโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขาย และการจดทะเบียนสิทธิบัตรตราข้าวหอมมะลิไทยในประเทศสหภาพแอฟริกาใต้ต่อไป
นอกจากข้าวหอมมะลิไทยที่มีอนาคตสดใสในประเทศสหภาพแอฟริกาใต้แล้ว จากการสำรวจตลาด ภัตตาคาร ร้านอาหารพบว่าหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากข้าวที่บริโภคยังมีการหุงข้าวไม่ถูกวิธี ไม่ได้คุณภาพเช่นข้าวที่หุงในประเทศไทย ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มิได้หุงข้าวโดยใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า หากได้มีการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายหม้อหุงข้าวไฟฟ้าควบคู่ไปกับข้าวหอมมะลิก็จะทำให้ปริมาณความต้องการข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มมากขึ้น
ประเทศสหภาพแอฟริกาใต้เป็นตลาดข้าวที่สำคัญของไทย นำเข้าข้าวทั้งหมดปีละ 5.75 แสนตันโดยนำเข้าข้าวจากไทยสม่ำเสมอปีละ 2-3 แสนตันในปี 2542 นำเข้าข้าว 3.2 แสนตัน เป็นข้าวนึ่ง 2.9แสนตัน ประมาณ 90% ที่เหลือเป็นข้าวหอมและข้าวขาวคู่แข่งสำคัญของไทยในประเทศนี้ คือสหรัฐอเมริกา จีน เวียดนาม อินเดีย โดยในช่วง มกราคม-เมษายน 2543 นำเข้าข้าวไทยแล้ว 1.1แสนตัน เป็นข้าวนึ่ง 1.03 แสนตัน
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษภาคม 2543--
-อน-