กระทรวงพาณิชย์ เปิดให้นำเข้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ภายใต้โควตา WTO ปี 2543 จำนวน 6.311 ตัน โดยมอบให้ชุมนุมสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ฯนำเข้าแต่ผู้เดียว ตั้งแต่ 30 มี.ค. - ธ.ค. 43 เท่านั้น ขณะที่ คต. ก็ได้จัดสรรโควตาน้ำมันถั่วเหลืองให้ผู้นำเข้าตามที่สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปรับรอง 13 ราย
นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก(WTO) สำหรับสินค้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ปี 2543 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2543 ที่ผ่านมา
สำหรับเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ที่เปิดให้นำเข้าจะต้องอยู่ในพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 1209.91.0106 และจะต้องมีถิ่นกำเนิดและส่งมาจากประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) หรือภาคีแกตต์ 1947 ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา โดยปริมาณที่ให้ออกหนังสือรับรองสำหรับการชำระภาษีในโควตาปี 2543 กำหนดไว้จำนวน 6.311 ตัน โดยไม่เรียกเก็บภาษีในโควตา (0%) ส่วนอัตราภาษีนอกโควตาเรียกเก็บ 227.6% ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะออกหนังสือรับรองการนำเข้าให้แก่ ชุมนุมสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นผู้นำเข้า ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองนำเข้าสินค้าดังกล่าวสามารถนำเข้าได้ตั้งแต่วันที่ลงนาม (30 มี.ค. 43)จนถึงเดือนธันวาคม 2543 และเมื่อนำสินค้าเข้ามาแล้วจะต้องรายงานการนำเข้าให้กรมการค้าต่างประเทศทราบภายใน 20 วันนับแต่วันที่นำเข้าในแต่ละครั้ง
อนึ่ง เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2543 กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ได้ออกประกาศจัดสรรโควตานำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองภายใต้ WTO ตามที่สมาชิกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปที่มีสิทธิยื่นขอหนังสือรับรองจำนวน 13 รายปริมาณ 1,589.5 ตัน โดยมี 2 รายได้รับจัดสรรมากที่สุดรายละ 200 ตัน คือบริษัท พัทยาฟู้ดอินดัสตรี จำกัด และบริษัท เอส พี ไอ แคนนิ่ง จำกัด ส่วนบริษัทที่ได้รับจัดสรรน้อยที่สุดคือ บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) 50 ตัน
--กรมการค้าต่างประเทศ เมษายน 2543--
-อน-
นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก(WTO) สำหรับสินค้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ปี 2543 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2543 ที่ผ่านมา
สำหรับเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ที่เปิดให้นำเข้าจะต้องอยู่ในพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 1209.91.0106 และจะต้องมีถิ่นกำเนิดและส่งมาจากประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) หรือภาคีแกตต์ 1947 ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา โดยปริมาณที่ให้ออกหนังสือรับรองสำหรับการชำระภาษีในโควตาปี 2543 กำหนดไว้จำนวน 6.311 ตัน โดยไม่เรียกเก็บภาษีในโควตา (0%) ส่วนอัตราภาษีนอกโควตาเรียกเก็บ 227.6% ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะออกหนังสือรับรองการนำเข้าให้แก่ ชุมนุมสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นผู้นำเข้า ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองนำเข้าสินค้าดังกล่าวสามารถนำเข้าได้ตั้งแต่วันที่ลงนาม (30 มี.ค. 43)จนถึงเดือนธันวาคม 2543 และเมื่อนำสินค้าเข้ามาแล้วจะต้องรายงานการนำเข้าให้กรมการค้าต่างประเทศทราบภายใน 20 วันนับแต่วันที่นำเข้าในแต่ละครั้ง
อนึ่ง เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2543 กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ได้ออกประกาศจัดสรรโควตานำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองภายใต้ WTO ตามที่สมาชิกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปที่มีสิทธิยื่นขอหนังสือรับรองจำนวน 13 รายปริมาณ 1,589.5 ตัน โดยมี 2 รายได้รับจัดสรรมากที่สุดรายละ 200 ตัน คือบริษัท พัทยาฟู้ดอินดัสตรี จำกัด และบริษัท เอส พี ไอ แคนนิ่ง จำกัด ส่วนบริษัทที่ได้รับจัดสรรน้อยที่สุดคือ บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) 50 ตัน
--กรมการค้าต่างประเทศ เมษายน 2543--
-อน-