๑. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศการแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายจากการที่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) ปรับลดอัตรารับจำนำน้ำตาลจากกระสอบละ 600 บาท เหลือเพียงกระสอบละ 500 บาท เนื่องจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกตกต่ำทำให้โรงงานน้ำตาลประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องไม่สามารถจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2542/43 ตามประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายที่ราคา 450 บาท/ตันอ้อย โดยจ่ายให้เพียง 350 บาท/ตันอ้อย
ซึ่งในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2543ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้โรงงานน้ำตาลที่ฐานะการเงินไม่มั่นคงจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2542/43 ให้แก่ชาวไร่อ้อยทันที 350บาท/ตันอ้อย ที่ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส และจ่ายเงินเป็นเช็คล่วงหน้า 100บาท/ตันอ้อย โดยธนาคารพาณิชย์ช่วยรับซื้อเช็คดังกล่าวจากชาวไร่อ้อยเพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับเงินค่าอ้อยในอัตรา 450 บาท/ตันอ้อยโดยให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร จำนวน 1,200ล้านบาท และกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 800 ล้านบาทโดยนำเงินจำนวนดังกล่าวฝากไว้กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าฯ(ธสน.)เพื่อใช้ในการรับซื้อเช็คค่าอ้อยขั้นต้นล่วงหน้า 100 บาท/ตันอ้อยให้แก่โรงงานน้ำตาลที่มีปัญหาทางการเงินโดยพิจารณาจากข้อเสนอของธนาคารพาณิชย์ที่เป็นธนาคารหลักของแต่ละโรงงาน
ในการนี้จะต้องมีการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรพ.ศ.2543 และให้กรมบัญชีกลางพิจารณาระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยการเงินและพัสดุกองทุนรวมฯ เพื่อให้สอดคล้องกับร่างระเบียบดังกล่าว
๒. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
บริษัทผู้ค้าน้ำตาล ซี ซาร์ นิคาว (Czarnikow Sugar)ประมาณการผลผลิตน้ำตาลโลก ในปี 2542/43 จะมีจำนวน 136.43 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก133.02 ล้านตัน ของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 2.56สำหรับปริมาณการบริโภคจะมีจำนวน 128.21 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 125.61 ล้านตันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 2.07
การเคลื่อนไหวของตลาดน้ำตาลทรายดิบในตลาดนิวยอร์คคงยังอยู่ภายใต้แรงกดดันเกี่ยวกับ
สต๊อกน้ำตาลโลกที่ผู้ผลิตน้ำตาลและผู้ที่เกี่ยวข้องได้วิเคราะห์ว่าจะมีเป็นจำนวนมากรวมทั้งแรงขายจากประเทศผู้ผลิตต่าง ๆ ในขณะที่ประเทศผู้นำเข้าน้ำตาลที่สำคัญเช่น รัสเซียและอินโดนีเซียยังไม่เข้ามาซื้อน้ำตาลเนื่องจากภาษีนำเข้าน้ำตาลอยู่ในอัตราสูงส่งผลให้ราคาน้ำตาลค่อนข้างผันผวน เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 83.70 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 5.06 บาท)ลดลงจากตันละ 88.36 ปอนด์สเตอลิง ( กิโลกรัมละ 5.24 บาท )ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงเป็นร้อยละ 5.27
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 7 ณตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 134.48 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( กิโลกรัมละ 5.07 บาท) ลดลงจากตันละ 141.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ(กิโลกรัมละ 5.26 บาท)ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 4.77
ราคาน้ำตาลทรายขาว
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาว หมายเลข 5 ณตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 166.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( กิโลกรัมละ 6.28 บาท) ลดลงจากตันละ 169.64 ดอลลาร์สหรัฐฯ( กิโลกรัมละ 6.32 บาท )ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 1.83
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 8 ประจำวันที่ 21-27 ก.พ. 2543--
ซึ่งในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2543ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้โรงงานน้ำตาลที่ฐานะการเงินไม่มั่นคงจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2542/43 ให้แก่ชาวไร่อ้อยทันที 350บาท/ตันอ้อย ที่ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส และจ่ายเงินเป็นเช็คล่วงหน้า 100บาท/ตันอ้อย โดยธนาคารพาณิชย์ช่วยรับซื้อเช็คดังกล่าวจากชาวไร่อ้อยเพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับเงินค่าอ้อยในอัตรา 450 บาท/ตันอ้อยโดยให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร จำนวน 1,200ล้านบาท และกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 800 ล้านบาทโดยนำเงินจำนวนดังกล่าวฝากไว้กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าฯ(ธสน.)เพื่อใช้ในการรับซื้อเช็คค่าอ้อยขั้นต้นล่วงหน้า 100 บาท/ตันอ้อยให้แก่โรงงานน้ำตาลที่มีปัญหาทางการเงินโดยพิจารณาจากข้อเสนอของธนาคารพาณิชย์ที่เป็นธนาคารหลักของแต่ละโรงงาน
ในการนี้จะต้องมีการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรพ.ศ.2543 และให้กรมบัญชีกลางพิจารณาระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยการเงินและพัสดุกองทุนรวมฯ เพื่อให้สอดคล้องกับร่างระเบียบดังกล่าว
๒. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
บริษัทผู้ค้าน้ำตาล ซี ซาร์ นิคาว (Czarnikow Sugar)ประมาณการผลผลิตน้ำตาลโลก ในปี 2542/43 จะมีจำนวน 136.43 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก133.02 ล้านตัน ของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 2.56สำหรับปริมาณการบริโภคจะมีจำนวน 128.21 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 125.61 ล้านตันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 2.07
การเคลื่อนไหวของตลาดน้ำตาลทรายดิบในตลาดนิวยอร์คคงยังอยู่ภายใต้แรงกดดันเกี่ยวกับ
สต๊อกน้ำตาลโลกที่ผู้ผลิตน้ำตาลและผู้ที่เกี่ยวข้องได้วิเคราะห์ว่าจะมีเป็นจำนวนมากรวมทั้งแรงขายจากประเทศผู้ผลิตต่าง ๆ ในขณะที่ประเทศผู้นำเข้าน้ำตาลที่สำคัญเช่น รัสเซียและอินโดนีเซียยังไม่เข้ามาซื้อน้ำตาลเนื่องจากภาษีนำเข้าน้ำตาลอยู่ในอัตราสูงส่งผลให้ราคาน้ำตาลค่อนข้างผันผวน เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 83.70 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 5.06 บาท)ลดลงจากตันละ 88.36 ปอนด์สเตอลิง ( กิโลกรัมละ 5.24 บาท )ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงเป็นร้อยละ 5.27
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 7 ณตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 134.48 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( กิโลกรัมละ 5.07 บาท) ลดลงจากตันละ 141.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ(กิโลกรัมละ 5.26 บาท)ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 4.77
ราคาน้ำตาลทรายขาว
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาว หมายเลข 5 ณตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 166.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( กิโลกรัมละ 6.28 บาท) ลดลงจากตันละ 169.64 ดอลลาร์สหรัฐฯ( กิโลกรัมละ 6.32 บาท )ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 1.83
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 8 ประจำวันที่ 21-27 ก.พ. 2543--