ข่าวในประเทศ
1. ประธาน ทีดีอาร์ไอคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 44 ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)กล่าวในการสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 44 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.43 ว่า ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจไทยในปี 44 คือ 1.ปัญหาเศรษฐกิจของ สรอ. ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลก 2.การเปลี่ยนแปลงระบบการเงินของญี่ปุ่นที่จะมีการลดการประกันเงินฝากจากร้อยละ 100 ลงเหลือประมาณร้อยละ 10 หากรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีการดำเนินการที่ดีอาจส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกในสถาบันกาารเงินของญี่ปุ่นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค 3.การเปลี่ยนแปลงที่เกาหลีใต้ ซึ่งจะมีการเปิดเสรีด้านการเงินให้สามารถนำเงินวอนไปเปิดบัญชีเป็นเงินดอลลาร์ สรอ.ได้ 4. สินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงเกิดภาวะล้นตลาดและมีสต๊อกคงเหลือจำนวนมาก และ 5.การเก็งกำไรค่าเงินทั้งค่าเงินบาทและค่าเงินสกุลหลักที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยด้านบวก ได้แก่ 1.ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มจะสูงขึ้น 2.ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว 3.อัตราเงินเฟ้อของไทยที่ยังอยู่ในอัตราต่ำ และ 4.แนวทางการร่วมมือในภูมิภาคที่เริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้น โดยประมาณการว่าปี 44 เศรษฐกิจไทยโดยรวมจะขยายตัวประมาณร้อยละ 5.5 ภาคการเกษตรขยายตัวร้อยละ 2.2 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 6.35 ภาคบริการขยายตัวร้อยละ 5.6 เงินเฟ้อขยายตัวร้อยละ 2.6 มูลค่าการส่งออกขยายตัวร้อยละ 7.9 และมูลค่าการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 9.6 (มติชน 15)
2. คปน. รายงานความคืบหน้านโยบายการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ผู้อำนวยการอาวุโส สายปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธปท.เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้(คปน.)ว่า คปน.ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายรายใหญ่เสร็จสิ้นแล้ว คงเหลือแต่ลูกหนี้รายกลางและรายย่อย ที่มีปัญหาฐานข้อมูลไม่ชัดเจนและคำนิยามหลากหลาย โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาลูกหนี้รายกลางและรายย่อยที่นำเข้าสู่ระบบของ คปน. นั้น 3 ใน 4 จะต้องเป็นลูกหนี้เอสเอ็มอี ที่มีคำนิยามตามความหมายของทางการ คือต้องมีสินทรัพย์ระดับหนึ่ง มีการจ้างงานระดับหนึ่ง และจะเน้นเอสเอ็มอีประเภทที่มีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมเพื่อประโยชน์ต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่ได้พิจารณาที่วงเงินสินเชื่อเหมือนที่ ธพ.ใช้ ซึ่งขณะนี้ คปน.อยู่ระหว่างเตรียมการ หลังจากนั้นจะให้แจ้งสถาบันการเงินทราบเพื่อเสนอลูกหนี้ตามที่ คปน.ต้องการ (กรุงเทพธุรกิจ 15)
3. การให้บริการบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 43 รายงานข่าวจาก ธปท.เปิดเผยถึงการให้บริการบัตรเครดิตของ ธพ.ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 ว่า มีจำนวนบัตรเครดิต 1,690,952 บัตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ที่มีจำนวน 1,681,129 บัตร แบ่งเป็นบัตรเครดิตที่ออกโดย ธพ.ไทย 1,138,144 บัตร และออกโดยสาขา ธพ.ต่างประเทศในไทย 552,808 บัตร ทั้งนี้ การให้บริการเครดิตแยกตามประเภทบัตรเครดิตที่ออกโดย ธพ.ไทย มียอดสินเชื่อคงค้าง 18,497.37 ล.บาท แบ่งเป็นการใช้บัตรในประเทศ 16,632.06 ล.บาท การใช้บัตรของชาวต่างประเทศ 16,358.32 ล.บาท และการใช้จ่ายบัตรนอกประเทศ 1,289.32 ล.บาท (วัฏจักร 15)
ข่าวต่างประเทศ
1. ดัชนีราคาผู้ผลิตของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.43 ก.แรงงาน สรอ. รายงานว่า เดือน พ.ย.43 ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) โดยรวมของ สรอ. ซึ่งใช้วัดเงินเฟ้อในระดับการขายส่ง เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือน ต.ค.43 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 เทียบกับระยะเดียวกันปี 42 ขณะที่ PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือน ต.ค.43 โดยในเดือน พ.ย.นี้ ราคาพลังงานเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ในเดือน ต.ค. 43 ราคาอาหารสำหรับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และราคารถยนต์โดยสารเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 จากรายงาน ครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจ สรอ.มีความกดดันเรื่องเงินเฟ้อน้อยมาก ทำให้ตลาดคาดว่า ธ.กลาง สรอ. จะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปี 43 (รอยเตอร์ 14)
2. สินค้าคงคลังของธุรกิจ สรอ. เพิ่มขึ้นในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ14 ธ.ค.43 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 43 ยอดสินค้าคงคลังของธุรกิจ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 อยู่ที่มูลค่า 1.215 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ก.ย. 43 เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 และเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 43 และเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ขณะเดียวกัน ในเดือน ต.ค. 43 ยอดขาดสินค้าคงคลังลดลงร้อยละ 0.2 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ย. 43 ทั้งนี้ จากการที่สินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นขณะที่ยอดขายฯลดลง ส่งผลให้อัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายฯในเดือนต.ต.43 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 1.35 เดือน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับแต่เดือน พ.ค. 42 จากรายงานดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจ สรอ. กำลังชะลอตัวลง(รอยเตอร์14)
3. สรอ. ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปี 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 สรอ. ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่มูลค่า 113.77 พัน ล. ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.4 จากที่ขาดดุลมูลค่า 104.97 พัน ล. ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 ทั้งนี้ การที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น เนื่องจาก สรอ. ขาดดุลสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 115.42 พัน ล. ดอลลาร์ จากที่ขาดดุลมูลค่า 110.23 พัน ล. ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 (รอยเตอร์ 14)
4. จำนวนบริษัทล้มละลายของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบต่อปี ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อ14 ธ.ค.43 Teikoku Databank รายงานว่า เดือน พ.ย.43 บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายจำนวน 1,683 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 จากระยะเดียวกันของปี 42 เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 แต่ลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.43 ขณะที่ยอดหนี้ของบริษัทล้มละลายคิดเป็นมูลค่า 1.22 ล้านล้านเยน (10.86 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) เพิ่มขึ้นร้อยละ 199.3 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 42 ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่าเกือบ3เท่า แต่ลดลงร้อยละ 85.7 เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.43 ทั้งนี้ การที่อัตราบริษัทล้มละลายและยอดหนี้ฯ เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 42 เป็นเพราะในปลายเดือน พ.ย.43 มีบริษัทเงินทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ (Inter-Lease Corp) ล้มละลาย ซึ่งมีมูลค่าหนี้สูงถึง 560 ล.เยน (รอยเตอร์14)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 14 ธ.ค.43 43.512 (43.619)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 14 ธ.ค. 43
ซื้อ 43.3229 (43.3975) ขาย 43.6326 (43.6989)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 21.28 (21.79)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.49 (16.49) ดีเซลหมุนเร็ว 13.94 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ประธาน ทีดีอาร์ไอคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 44 ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)กล่าวในการสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 44 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.43 ว่า ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจไทยในปี 44 คือ 1.ปัญหาเศรษฐกิจของ สรอ. ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลก 2.การเปลี่ยนแปลงระบบการเงินของญี่ปุ่นที่จะมีการลดการประกันเงินฝากจากร้อยละ 100 ลงเหลือประมาณร้อยละ 10 หากรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีการดำเนินการที่ดีอาจส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกในสถาบันกาารเงินของญี่ปุ่นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งภูมิภาค 3.การเปลี่ยนแปลงที่เกาหลีใต้ ซึ่งจะมีการเปิดเสรีด้านการเงินให้สามารถนำเงินวอนไปเปิดบัญชีเป็นเงินดอลลาร์ สรอ.ได้ 4. สินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงเกิดภาวะล้นตลาดและมีสต๊อกคงเหลือจำนวนมาก และ 5.การเก็งกำไรค่าเงินทั้งค่าเงินบาทและค่าเงินสกุลหลักที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยด้านบวก ได้แก่ 1.ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มจะสูงขึ้น 2.ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว 3.อัตราเงินเฟ้อของไทยที่ยังอยู่ในอัตราต่ำ และ 4.แนวทางการร่วมมือในภูมิภาคที่เริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้น โดยประมาณการว่าปี 44 เศรษฐกิจไทยโดยรวมจะขยายตัวประมาณร้อยละ 5.5 ภาคการเกษตรขยายตัวร้อยละ 2.2 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 6.35 ภาคบริการขยายตัวร้อยละ 5.6 เงินเฟ้อขยายตัวร้อยละ 2.6 มูลค่าการส่งออกขยายตัวร้อยละ 7.9 และมูลค่าการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 9.6 (มติชน 15)
2. คปน. รายงานความคืบหน้านโยบายการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ผู้อำนวยการอาวุโส สายปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธปท.เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้(คปน.)ว่า คปน.ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายรายใหญ่เสร็จสิ้นแล้ว คงเหลือแต่ลูกหนี้รายกลางและรายย่อย ที่มีปัญหาฐานข้อมูลไม่ชัดเจนและคำนิยามหลากหลาย โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาลูกหนี้รายกลางและรายย่อยที่นำเข้าสู่ระบบของ คปน. นั้น 3 ใน 4 จะต้องเป็นลูกหนี้เอสเอ็มอี ที่มีคำนิยามตามความหมายของทางการ คือต้องมีสินทรัพย์ระดับหนึ่ง มีการจ้างงานระดับหนึ่ง และจะเน้นเอสเอ็มอีประเภทที่มีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมเพื่อประโยชน์ต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่ได้พิจารณาที่วงเงินสินเชื่อเหมือนที่ ธพ.ใช้ ซึ่งขณะนี้ คปน.อยู่ระหว่างเตรียมการ หลังจากนั้นจะให้แจ้งสถาบันการเงินทราบเพื่อเสนอลูกหนี้ตามที่ คปน.ต้องการ (กรุงเทพธุรกิจ 15)
3. การให้บริการบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 43 รายงานข่าวจาก ธปท.เปิดเผยถึงการให้บริการบัตรเครดิตของ ธพ.ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 ว่า มีจำนวนบัตรเครดิต 1,690,952 บัตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ที่มีจำนวน 1,681,129 บัตร แบ่งเป็นบัตรเครดิตที่ออกโดย ธพ.ไทย 1,138,144 บัตร และออกโดยสาขา ธพ.ต่างประเทศในไทย 552,808 บัตร ทั้งนี้ การให้บริการเครดิตแยกตามประเภทบัตรเครดิตที่ออกโดย ธพ.ไทย มียอดสินเชื่อคงค้าง 18,497.37 ล.บาท แบ่งเป็นการใช้บัตรในประเทศ 16,632.06 ล.บาท การใช้บัตรของชาวต่างประเทศ 16,358.32 ล.บาท และการใช้จ่ายบัตรนอกประเทศ 1,289.32 ล.บาท (วัฏจักร 15)
ข่าวต่างประเทศ
1. ดัชนีราคาผู้ผลิตของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.43 ก.แรงงาน สรอ. รายงานว่า เดือน พ.ย.43 ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) โดยรวมของ สรอ. ซึ่งใช้วัดเงินเฟ้อในระดับการขายส่ง เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือน ต.ค.43 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 เทียบกับระยะเดียวกันปี 42 ขณะที่ PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือน ต.ค.43 โดยในเดือน พ.ย.นี้ ราคาพลังงานเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ในเดือน ต.ค. 43 ราคาอาหารสำหรับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และราคารถยนต์โดยสารเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 จากรายงาน ครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจ สรอ.มีความกดดันเรื่องเงินเฟ้อน้อยมาก ทำให้ตลาดคาดว่า ธ.กลาง สรอ. จะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปี 43 (รอยเตอร์ 14)
2. สินค้าคงคลังของธุรกิจ สรอ. เพิ่มขึ้นในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ14 ธ.ค.43 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 43 ยอดสินค้าคงคลังของธุรกิจ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 อยู่ที่มูลค่า 1.215 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ก.ย. 43 เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 และเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 43 และเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ขณะเดียวกัน ในเดือน ต.ค. 43 ยอดขาดสินค้าคงคลังลดลงร้อยละ 0.2 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ย. 43 ทั้งนี้ จากการที่สินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นขณะที่ยอดขายฯลดลง ส่งผลให้อัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายฯในเดือนต.ต.43 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 1.35 เดือน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับแต่เดือน พ.ค. 42 จากรายงานดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจ สรอ. กำลังชะลอตัวลง(รอยเตอร์14)
3. สรอ. ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปี 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 สรอ. ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่มูลค่า 113.77 พัน ล. ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.4 จากที่ขาดดุลมูลค่า 104.97 พัน ล. ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 ทั้งนี้ การที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น เนื่องจาก สรอ. ขาดดุลสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 115.42 พัน ล. ดอลลาร์ จากที่ขาดดุลมูลค่า 110.23 พัน ล. ดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 (รอยเตอร์ 14)
4. จำนวนบริษัทล้มละลายของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบต่อปี ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อ14 ธ.ค.43 Teikoku Databank รายงานว่า เดือน พ.ย.43 บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายจำนวน 1,683 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 จากระยะเดียวกันของปี 42 เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 แต่ลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.43 ขณะที่ยอดหนี้ของบริษัทล้มละลายคิดเป็นมูลค่า 1.22 ล้านล้านเยน (10.86 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) เพิ่มขึ้นร้อยละ 199.3 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 42 ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่าเกือบ3เท่า แต่ลดลงร้อยละ 85.7 เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.43 ทั้งนี้ การที่อัตราบริษัทล้มละลายและยอดหนี้ฯ เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 42 เป็นเพราะในปลายเดือน พ.ย.43 มีบริษัทเงินทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ (Inter-Lease Corp) ล้มละลาย ซึ่งมีมูลค่าหนี้สูงถึง 560 ล.เยน (รอยเตอร์14)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 14 ธ.ค.43 43.512 (43.619)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 14 ธ.ค. 43
ซื้อ 43.3229 (43.3975) ขาย 43.6326 (43.6989)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 21.28 (21.79)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.49 (16.49) ดีเซลหมุนเร็ว 13.94 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-