ข่าวในประเทศ
1. ธปท. พยากรณ์ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในอีก 4 เดือนข้างหน้า รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยากรณ์ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจใน 4 เดือนข้างหน้า (ก.ค.-ก.ย. 2544) ว่าดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่ระดับ 48.3 ซึ่งประมาณการว่าภาคเศรษฐกิจในประเทศทั้งการผลิตและการบริโภคจะมีแนวโน้มทรงตัวจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 44 และอาจยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าร้อยละ 50 อย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีฯ ในเดือน เม.ย. 44 อยู่ที่ระดับ 45.3 ส่วนดัชนีฯ ที่ทำการสำรวจล่วงหน้าในเดือน มิ.ย. 44 อยู่ที่ระดับ 47.2 ลดลงเล็กน้อยจากเดือน พ.ค. 44 ที่อยู่ที่ระดับ 47.3 (ข่าวสด 17)
2. ผลการประชุมแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศว่า มีการทบทวนการดำเนินงานของรัฐบาลด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วย 28 มาตรการ แบ่งเป็นมาตรการมหภาค 14 มาตรการ และมาตรการสร้างคุณภาพการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 14 มาตรการ สำหรับกรอบแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแบบยั่งยืนกำหนดเป้าหมายไว้คือ 1)เพื่อเป็นหลักประกันให้คนไทยมีส่วนรับรู้อนาคตว่ารัฐบาลจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทางเศรษฐกิจได้ 2)เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศทราบถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่ผ่านมา จะเน้นการพึ่งพาเศรษฐกิจโลกคือการส่งออก ทำให้โครงสร้างพื้นฐานของประเทศถูกละเลยจนอ่อนแอ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากระดับ ชุมชน เมื่อเศรษฐกิจโลกถดถอยจึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ดังนั้น แนวทางที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการคือ การแก้ไขปัญหาจากรากหญ้าให้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจระดับโลกแบบรู้เท่าทัน เพื่อนำไปสู่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเน้นการกระจายตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลัก และรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรอบแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศที่กำหนดจะต้องมีการรายงานความ คืบหน้าต่อคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทุก 3 เดือน (โลกวันนี้, ไทยโพสต์ 17)
3. รมว.คลังเปิดเผยเป้าหมายการส่งออกปี 44-49 รมว.คลัง เปิดเผยถึงเป้าหมายการส่งออกปี 44-49 ว่า ปี 44 คาดว่าการส่งออกจะอยู่ในภาวะถดถอยและมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 0 ถึงลบ 1.2 ปี 45 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.5 ปี 46 ร้อยละ 7.2 ปี 47 ร้อยละ 8 ส่วนปี 48-49 ร้อยละ 8.7 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้เตรียมมาตรการผลักดันการส่งออกเพื่อป้องกันไม่ให้การส่งออกในปี 44 ติดลบ (เดลินิวส์ 17)
4. นรม. มอบหมายให้ ก.เกษตรฯ และ ก.พาณิชย์ตรวจสอบข้อมูลเพื่อวางยุทธศาสตร์ฟื้นฟูภาคเกษตร นรม. เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ ก.เกษตรฯ และ ก.พาณิชย์ ตรวจสอบข้อมูลสำหรับเตรียมยุทธศาสตร์ในการปรับปรุงราคาสินค้าเกษตรเพื่อให้สินค้าภาคเกษตรทุกรายการได้รับการฟื้นฟู โดยมอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปจัดทำนโยบายและกรอบการทำงานมาเสนอภายใน 30 วัน (ข่าวสด 17)
ข่าวต่างประเทศ
1. สินค้าคงคลังโดยรวมของธุรกิจ สรอ.เดือน พ.ค.44 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 16 ก.ค.44 ก.พาณิชย์เปิดเผยว่า เดือน พ.ค.44 สินค้าคงคลังโดยรวมหลังปรับฤดูกาลของบริษัทธุรกิจต่างๆ มีมูลค่า 1,197.1 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.2 เท่ากับเดือน เม.ย.44 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะลดลงเพียงร้อยละ 0.1 แต่ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 หลังจากลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน เม.ย. ซึ่งยอดขายในเดือน พ.ค.เป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.43 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 และเป็นครั้งแรกนับจากเดือน ธ.ค.43 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในส่วนของสินค้าคงคลังของอุตสาหกรรมการผลิตในเดือน พ.ค. ลดลงร้อยละ 0.3 ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เทียบกับเดือน เม.ย.ที่ลดลงร้อยละ 2.4 นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่ปี 35 สำหรับสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายในเดือน พ.ค.อยู่ที่ระดับ 1.42 เดือน ลดลงจากระดับ 1.44 ในเดือน เม.ย.(รอยเตอร์ 16)
2. อัตราเงินเฟ้อจากการขายส่งของเยอรมนีเดือน มิ.ย.44 เมื่อเทียบปีต่อปีลดลงร้อยละ 3.1 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อ 16 ก.ค.44 สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า เดือน มิ.ย.44 อัตราเงินเฟ้อจากการขายส่งของเยอรมนีเมื่อเทียบปีต่อปีลดลงร้อยละ 3.1 จากร้อยละ 4.0 ในเดือน พ.ค.44 และนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย.42 โดยอัตราเงินเฟ้อจากการขายส่งในเดือน มิ.ย.44 เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ลดลงร้อยละ 0.5 ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ค.44 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และหากไม่รวมผลิตภัณฑ์น้ำมันแล้ว เงินเฟ้อฯ ในเดือน มิ.ย.44 เพิ่มขึ้นร้อยละ3.0 เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่า อัตราเงินเฟ้อจากการขายส่งในเดือน มิ.ย.44 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปีตามลำดับ (รอยเตอร์ 16)
3. คาดว่าการส่งออกของสิงคโปร์ในเดือน มิ.ย. 44 จะยังอยู่ในภาวะที่ซบเซา รายงานจากสิงคโปร์เมื่อ 16 ก.ค. 44 จากผลการสำรวจของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ในเดือน มิ.ย. 44 การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ จะลดลงประมาณร้อยละ 9 -11.4 จากระยะเดียวกันของปี 43 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 9 ในเดือน พ.ค. 44 ซึ่งจะลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความต้องการด้านสินค้าเทคโนโลยีทั่วโลกที่อยู่ในภาวะซบเซาและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ สรอ. ทั้งนี้ สรอ. นับเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญ ซึ่งนำเข้าสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ถึงร้อยละ 20 ของยอดส่งออก สำหรับในปี 44 รัฐบาลสิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตการส่งออกลงเหลือร้อยละ 0.5-1.5 จากที่ปรับลดไปแล้วก่อนหน้านี้อยู่ที่ร้อยละ 3.5-5.5 ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ของ Nomura (Adrian Foster) คาดว่า การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 55 ของสินค้าส่งออกโดยรวม จะลดลงร้อยละ 14 ในเดือน มิ.ย. 44 เทียบปีต่อปี หลังจากลดลงร้อยละ 10.9 ในเดือน พ.ค. 44 (รอยเตอร์16)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 16 ก.ค. 44 45.715 (45.597)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 16 ก.ค. 44ซื้อ 45.4952 (45.3863) ขาย 45.7942 (45.7008)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,750 (5,750) ขาย 5,850 (5,850)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 23.22 (23.46)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 14.99 (14.99) ดีเซลหมุนเร็ว 14.14 (14.14)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท. พยากรณ์ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในอีก 4 เดือนข้างหน้า รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยากรณ์ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจใน 4 เดือนข้างหน้า (ก.ค.-ก.ย. 2544) ว่าดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่ระดับ 48.3 ซึ่งประมาณการว่าภาคเศรษฐกิจในประเทศทั้งการผลิตและการบริโภคจะมีแนวโน้มทรงตัวจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 44 และอาจยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าร้อยละ 50 อย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีฯ ในเดือน เม.ย. 44 อยู่ที่ระดับ 45.3 ส่วนดัชนีฯ ที่ทำการสำรวจล่วงหน้าในเดือน มิ.ย. 44 อยู่ที่ระดับ 47.2 ลดลงเล็กน้อยจากเดือน พ.ค. 44 ที่อยู่ที่ระดับ 47.3 (ข่าวสด 17)
2. ผลการประชุมแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศว่า มีการทบทวนการดำเนินงานของรัฐบาลด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วย 28 มาตรการ แบ่งเป็นมาตรการมหภาค 14 มาตรการ และมาตรการสร้างคุณภาพการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 14 มาตรการ สำหรับกรอบแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแบบยั่งยืนกำหนดเป้าหมายไว้คือ 1)เพื่อเป็นหลักประกันให้คนไทยมีส่วนรับรู้อนาคตว่ารัฐบาลจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทางเศรษฐกิจได้ 2)เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศทราบถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่ผ่านมา จะเน้นการพึ่งพาเศรษฐกิจโลกคือการส่งออก ทำให้โครงสร้างพื้นฐานของประเทศถูกละเลยจนอ่อนแอ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากระดับ ชุมชน เมื่อเศรษฐกิจโลกถดถอยจึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ดังนั้น แนวทางที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการคือ การแก้ไขปัญหาจากรากหญ้าให้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจระดับโลกแบบรู้เท่าทัน เพื่อนำไปสู่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเน้นการกระจายตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลัก และรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรอบแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศที่กำหนดจะต้องมีการรายงานความ คืบหน้าต่อคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทุก 3 เดือน (โลกวันนี้, ไทยโพสต์ 17)
3. รมว.คลังเปิดเผยเป้าหมายการส่งออกปี 44-49 รมว.คลัง เปิดเผยถึงเป้าหมายการส่งออกปี 44-49 ว่า ปี 44 คาดว่าการส่งออกจะอยู่ในภาวะถดถอยและมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 0 ถึงลบ 1.2 ปี 45 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.5 ปี 46 ร้อยละ 7.2 ปี 47 ร้อยละ 8 ส่วนปี 48-49 ร้อยละ 8.7 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้เตรียมมาตรการผลักดันการส่งออกเพื่อป้องกันไม่ให้การส่งออกในปี 44 ติดลบ (เดลินิวส์ 17)
4. นรม. มอบหมายให้ ก.เกษตรฯ และ ก.พาณิชย์ตรวจสอบข้อมูลเพื่อวางยุทธศาสตร์ฟื้นฟูภาคเกษตร นรม. เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ ก.เกษตรฯ และ ก.พาณิชย์ ตรวจสอบข้อมูลสำหรับเตรียมยุทธศาสตร์ในการปรับปรุงราคาสินค้าเกษตรเพื่อให้สินค้าภาคเกษตรทุกรายการได้รับการฟื้นฟู โดยมอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปจัดทำนโยบายและกรอบการทำงานมาเสนอภายใน 30 วัน (ข่าวสด 17)
ข่าวต่างประเทศ
1. สินค้าคงคลังโดยรวมของธุรกิจ สรอ.เดือน พ.ค.44 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 16 ก.ค.44 ก.พาณิชย์เปิดเผยว่า เดือน พ.ค.44 สินค้าคงคลังโดยรวมหลังปรับฤดูกาลของบริษัทธุรกิจต่างๆ มีมูลค่า 1,197.1 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.2 เท่ากับเดือน เม.ย.44 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะลดลงเพียงร้อยละ 0.1 แต่ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 หลังจากลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน เม.ย. ซึ่งยอดขายในเดือน พ.ค.เป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.43 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 และเป็นครั้งแรกนับจากเดือน ธ.ค.43 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในส่วนของสินค้าคงคลังของอุตสาหกรรมการผลิตในเดือน พ.ค. ลดลงร้อยละ 0.3 ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เทียบกับเดือน เม.ย.ที่ลดลงร้อยละ 2.4 นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่ปี 35 สำหรับสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายในเดือน พ.ค.อยู่ที่ระดับ 1.42 เดือน ลดลงจากระดับ 1.44 ในเดือน เม.ย.(รอยเตอร์ 16)
2. อัตราเงินเฟ้อจากการขายส่งของเยอรมนีเดือน มิ.ย.44 เมื่อเทียบปีต่อปีลดลงร้อยละ 3.1 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อ 16 ก.ค.44 สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า เดือน มิ.ย.44 อัตราเงินเฟ้อจากการขายส่งของเยอรมนีเมื่อเทียบปีต่อปีลดลงร้อยละ 3.1 จากร้อยละ 4.0 ในเดือน พ.ค.44 และนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย.42 โดยอัตราเงินเฟ้อจากการขายส่งในเดือน มิ.ย.44 เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ลดลงร้อยละ 0.5 ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ค.44 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และหากไม่รวมผลิตภัณฑ์น้ำมันแล้ว เงินเฟ้อฯ ในเดือน มิ.ย.44 เพิ่มขึ้นร้อยละ3.0 เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่า อัตราเงินเฟ้อจากการขายส่งในเดือน มิ.ย.44 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปีตามลำดับ (รอยเตอร์ 16)
3. คาดว่าการส่งออกของสิงคโปร์ในเดือน มิ.ย. 44 จะยังอยู่ในภาวะที่ซบเซา รายงานจากสิงคโปร์เมื่อ 16 ก.ค. 44 จากผลการสำรวจของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ในเดือน มิ.ย. 44 การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ จะลดลงประมาณร้อยละ 9 -11.4 จากระยะเดียวกันของปี 43 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 9 ในเดือน พ.ค. 44 ซึ่งจะลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความต้องการด้านสินค้าเทคโนโลยีทั่วโลกที่อยู่ในภาวะซบเซาและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ สรอ. ทั้งนี้ สรอ. นับเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญ ซึ่งนำเข้าสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ถึงร้อยละ 20 ของยอดส่งออก สำหรับในปี 44 รัฐบาลสิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตการส่งออกลงเหลือร้อยละ 0.5-1.5 จากที่ปรับลดไปแล้วก่อนหน้านี้อยู่ที่ร้อยละ 3.5-5.5 ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ของ Nomura (Adrian Foster) คาดว่า การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 55 ของสินค้าส่งออกโดยรวม จะลดลงร้อยละ 14 ในเดือน มิ.ย. 44 เทียบปีต่อปี หลังจากลดลงร้อยละ 10.9 ในเดือน พ.ค. 44 (รอยเตอร์16)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 16 ก.ค. 44 45.715 (45.597)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 16 ก.ค. 44ซื้อ 45.4952 (45.3863) ขาย 45.7942 (45.7008)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,750 (5,750) ขาย 5,850 (5,850)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 23.22 (23.46)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 14.99 (14.99) ดีเซลหมุนเร็ว 14.14 (14.14)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-