นาย Mohammed Said Al-Sahaf รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิรักและคณะรวม 3 คน จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2544 ตามคำเชิญของ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
การเดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนประเทศในภูมิภาค อาเซียน โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางมากรุงเทพฯ นาย Al-Sahaf ได้เดินทางไปเยือนประเทศ อินโดนีเซียและมาเลเซียด้วยในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 นาย Al-Sahaf มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น จะเข้าเยี่ยมคารวะ ดร.สุรินทร์ฯ โดย ดร.สุรินทร์ฯ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ นาย Al-Sahaf และคณะที่กระทรวงฯ ด้วย สำหรับการเยือนครั้งนี้ ประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายจะหยิบยกขึ้นหารือระหว่างกัน จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยทั่วไป รวมทั้งเรื่องความคืบหน้าของความเป็นไปได้ที่จะมีการยกเลิกการคว่ำบาตรอิรักในอนาคต
ไทยและอิรักมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันโดยไม่เคยมีข้อขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกันโดยตรง ไทยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ในอิรักและได้เคยให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในหลายโอกาส ปัจจุบันไม่มีแรงงานไทยทำงานอยู่ในอิรัก แต่ยังคงมีนักศึกษาไทยมุสลิมประมาณ 54 คน ที่ได้รับทุนการศึกษาจากทางการอิรัก สำหรับทางด้านการค้าระหว่างไทย-อิรักตามโครงการ Oil-for-Food ซึ่งอิรักได้รับการอนุมัติให้ผลิตน้ำมันดิบออกขายเพื่อแลกซื้ออาหาร ยาและเวชภัณฑ์นั้น ส่งผลให้ปี 2543 (มกราคม-ตุลาคม) มูลค่าการค้าไทย-อิรักเท่ากับ 238.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
การเดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนประเทศในภูมิภาค อาเซียน โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางมากรุงเทพฯ นาย Al-Sahaf ได้เดินทางไปเยือนประเทศ อินโดนีเซียและมาเลเซียด้วยในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 นาย Al-Sahaf มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น จะเข้าเยี่ยมคารวะ ดร.สุรินทร์ฯ โดย ดร.สุรินทร์ฯ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ นาย Al-Sahaf และคณะที่กระทรวงฯ ด้วย สำหรับการเยือนครั้งนี้ ประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายจะหยิบยกขึ้นหารือระหว่างกัน จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยทั่วไป รวมทั้งเรื่องความคืบหน้าของความเป็นไปได้ที่จะมีการยกเลิกการคว่ำบาตรอิรักในอนาคต
ไทยและอิรักมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันโดยไม่เคยมีข้อขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกันโดยตรง ไทยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ในอิรักและได้เคยให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในหลายโอกาส ปัจจุบันไม่มีแรงงานไทยทำงานอยู่ในอิรัก แต่ยังคงมีนักศึกษาไทยมุสลิมประมาณ 54 คน ที่ได้รับทุนการศึกษาจากทางการอิรัก สำหรับทางด้านการค้าระหว่างไทย-อิรักตามโครงการ Oil-for-Food ซึ่งอิรักได้รับการอนุมัติให้ผลิตน้ำมันดิบออกขายเพื่อแลกซื้ออาหาร ยาและเวชภัณฑ์นั้น ส่งผลให้ปี 2543 (มกราคม-ตุลาคม) มูลค่าการค้าไทย-อิรักเท่ากับ 238.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-