ข่าวในประเทศ
1. ธปท.ขยายเวลาปิดบริการระบบการชำระเงิน แหล่งข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.ได้เลื่อนระยะเวลาปิดทำการของระบบการชำระเงินจากเวลา 17.30 น. ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากพบว่าสถาบันการเงินได้ปล่อยกู้ผ่านบัญชีผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศเกิน 50 ล.บาท โดยไม่มีธุรกรรมรองรับเป็นจำนวนมาก จนทำให้สภาพคล่องเงินบาทในตลาดเงินตราต่างประเทศ (ออฟชอร์) ตึงตัวมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย ธปท.จะรอจนกระทั่งสถาบันการเงินทุกแห่งสามารถหาเงินบาทเพื่อปิดบัญชีได้ครบเรียบร้อยก่อน จึงปิดระบบบัญชี ซึ่งจะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 29 พ.ย.43 จากนั้นจะพิจารณาถึงความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ในช่วงปิดทำการ ธปท.พบว่ามีสถาบันการเงินนำเงินดอลลาร์ สรอ.มาแลกซื้อเงินบาทเป็นจำนวนมากเพื่อปิดบัญชีในช่วงสิ้นวัน หลังจากที่ไม่สามารถเข้าไปกู้ยืมในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) และตลาดกู้ยืมระหว่างธนาคาร (อินเตอร์แบงก์) ที่ต้องใช้พันธบัตรรัฐบาลค้ำประกัน จึงทำให้สถาบันการเงินนำดอลลาร์ สรอ.มาแลกเป็นเงินบาทที่ ธปท.เพื่อปิดบัญชีแทน โดยในวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ธปท.ต้องเลื่อนระบบการชำระเงินออกไปปิดที่เวลา 21.00 น. (เดลินิวส์ 29)
2. คณะกรรมการนโยบายการเงินประชุมเพื่อสรุปแนวทางกำหนดนโยบายการเงิน ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อ 28 พ.ย.43 ว่า เป็นการเตรียมข้อมูลในแบบจำลองเศรษฐกิจ ก่อนมีการประชุมจริงในวันที่ 6 ธ.ค.43 เพื่อสรุปแนวนโยบายการเงินว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ยหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อมีการเปลี่ยนแปลงไปจาก 8 สัปดาห์ก่อน โดยมีปัจจัยเสี่ยงใหม่ทางด้านปัญหาน้ำท่วมในภาคกลางและภาคเหนือ (ยังไม่รวมสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้) นอกเหนือจากปัจจัยเสี่ยงเดิม คือ ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงมากเกิน 6 สัปดาห์ และปัญหาราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวทุกภาคอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวมีผลให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ในการประชุมในวันที่ 6 ธ.ค. จะต้องพิจารณาว่าหากไม่เปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ย จะสามารถรักษาเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายที่กำหนดได้หรือไม่ (ไม่เกินร้อยละ 3.5) แต่หากคณะกรรมการฯ เห็นร่วมกันว่าแนวโน้มเงินเฟ้อดังกล่าวเป็นปัญหาระยะสั้นที่ประชุมฯ ก็จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม (ไทยโพสต์ 29)
3. ธปท.อนุญาตให้เอเอ็มซีสามารถพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับโอนจากการชำระหนี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศอนุญาตให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (เอเอ็มซี) สามารถนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รับซื้อหรือรับโอนและที่ได้จากการชำระหนี้ ซึ่งก่อสร้างค้างไว้ไปพัฒนาต่อให้แล้วเสร็จได้ และอนุญาตให้นำอสังหาริมทรัพย์ที่รอการขายไปร่วมลงทุนกับผู้ลงทุนรายอื่น หรือจะใช้ในการถือหุ้นในบริษัทอื่นที่มีความสามารถในการบริหารอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ แต่ไม่อนุญาตให้นำที่ดินเปล่าไปพัฒนาต่อแต่อย่างใด ทั้งนี้ เพื่อเอื้ออำนวยให้เอเอ็มซีมีแนวทางในการบริหารลูกหนี้ให้เหมาะสมและทำให้ลูกหนี้นั้นๆ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่อสังหาริมทรัพย์ที่เอเอ็มซีรับซื้อหรือโอนมา และรอการขายนั้นจะถือครองได้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี (วัฏจักร 29)
ข่าวต่างประเทศ
1. ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของ สรอ. ลดลงอยู่ที่ระดับ 133.5 ในเดือน พ.ย. 43 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 43 Conference Board เปิดเผยว่า เดือน พ.ย. 43 ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของ สรอ. ลดลงอยู่ที่ระดับ 133.5 จากระดับ 135.8 ในเดือน ต.ค. 43 ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และลดลงต่ำที่สุดในรอบมากกว่า 1 ปี นับแต่เดือน ต.ค. 42 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 135.9 เนื่องจากคนอเมริกันมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในอนาคต ขณะเดียวกัน ดัชนีความคาดหวัง ในเดือน พ.ย. 43 ลดลงอยู่ที่ระดับ 103.4 จากระดับ 108.4 ในเดือน ต.ค. 43 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 178.7 จากระดับ 176.8 ในเดือน ต.ค. 43 (รอยเตอร์ 28)
2. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของเยอรมนีขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.6 ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 28 พ.ย.43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ที่ปรับฤดูกาล ขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.6 จากที่ขยายตัวร้อยละ 1.1 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 หรือในอัตราเทียบปีต่อปี GDP ที่ปรับฤดูกาลและปัจจัยตามปฏิทินแล้ว ขยายตัวร้อยละ 3.4 ชะลอลงเมื่อเทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 3.7 ในไตรมาสก่อน ทั้งนี้ การชะลอตัวของ GDP ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้ส่งผลกระทบให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ นอกจากนั้น การชะลอตัวของ GDP ยิ่งเป็นการสนับสนุนความคาดหมายที่ว่า ธ.กลางแห่งยุโรป (ECB) จะยังไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ย.43 (รอยเตอร์ 28)
3. คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของ สรอ. ลดลงร้อยละ 5.5 ในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 43 คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล อยู่ที่มูลค่า 209.01 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 5.5 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 ในเดือน ก.ย. 43 ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่า จะลดลงร้อยละ 1.3 โดยคำสั่งซื้อฯ ที่ลดลงอย่างมาก ได้แก่ คำสั่งซื้ออุปกรณ์ด้านการขนส่ง ที่ลดลงถึงร้อยละ 15.8 ในเดือน ต.ค. 43 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 ในเดือน ก.ย. 43 ทั้งนี้ คำสั่งซื้อฯที่ลดลง ชี้ถึงความต้องการของผู้บริโภคและธุรกิจกำลังชะลอตัวลง (รอยเตอร์ 28)
4. ปริมาณเงินหมุนเวียน (M3) ในเขตยูโรขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.3 ในเดือน ต.ค.43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 28 พ.ย.43 ธ.กลางแห่งยุโรป (ECB) รายงานว่า เดือน ต.ค.43 ปริมาณเงินหมุนเวียน (M3) ในเขตยูโร เทียบปีต่อปีขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.3 จากตัวเลขปรับใหม่ที่ขยายตัวร้อยละ 5.4 ในเดือน ก.ย.43 การลดลงของ M3 แสดงถึงแนวโน้มการเติบโตของปริมาณเงินในเขตยูโรที่ชะลอลง แม้ว่าจะยังขยายตัวอยู่เหนืออัตราอ้างอิงของ ECB ที่ร้อยละ 4.5 ก็ตาม (รอยเตอร์ 28)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 28 พ.ย. 43 43.586 (43.619)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 28 พ.ย. 43
ซื้อ 43.3388 (43.4861) ขาย 43.6585 (43.8143)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 27.99 (28.94)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 17.09 (17.09) ดีเซลหมุนเร็ว 15.04 (15.04)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน