กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (14 กันยายน 2544) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กรณีการก่อวินาศกรรมในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน ศกนี้ว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนไทยดังนี้
1. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประชาสัมพันธ์เตือนคนไทยให้ระมัดระวังการก่อการร้ายและให้เตรียมรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น โดยได้ประชาสัมพันธ์ผ่านวัดไทย ผู้นำชุมชนหรือสมาคมคนไทย และหนังสือพิมพ์ไทย ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แนะนำและตอบข้อซักถามจากคนไทยที่ส่งอีเมล์เพื่อสอบถามสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งได้จัด Voice Mailbox ในระบบโทรศัพท์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อรับฟังปัญหาของคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ก็ได้ประสานกับสถานกงสุลใหญ่ที่อยู่ในสหรัฐฯ ทุกแห่งให้ดำเนินการในทำนองเดียวกัน และในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินซึ่งจำเป็นต้องอพยพคนไทย ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ก็ได้เตรียมมาตรการแล้ว โดยสถานเอก อัครราชทูตฯ ทำเนียบสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งวัดไทยซึ่งมีทั้งหมด 64 แห่งในมลรัฐต่างๆ สามารถรองรับคนไทยได้จำนวนหนึ่ง
2. ตามที่สหรัฐฯ ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ได้มีสารไปยังประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตามลำดับนั้น เมื่อวานนี้ระหว่างงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ได้กล่าวย้ำกับ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตันแสดงความขอบคุณไทยที่ได้มีสารแสดงความเสียใจ และได้กล่าวว่า แรงสนับสนุนจากพันธมิตรได้เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการตั้งตัวจากเหตุการณ์ที่น่าตื่นตระหนก นอกจากนี้สหรัฐฯ รู้สึกโล่งอกที่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ของไทยที่มีสำนักงานอยู่ใน World Trade Center ที่นครนิวยอร์กรอดชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ และขอนำส่งความปรารถนาดีมายังเจ้าหน้าที่ไทยทั้งสองคนที่ได้รับบาดเจ็บ (นางวาสนา มุทุตานนท์ และนางน้ำฝน บุณยะวัฒน์) และขอนำส่งความหวังและคำสวดภาวนามายังเจ้าหน้าที่ไทยและครอบครัวด้วย
3. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รายงานว่า หนังสือพิมพ์ The Washington Post และ หนังสือพิมพ์ The Washington Times ฉบับวันที่ 12 กันยายน 2544 ได้รายงานข่าวการก่อวินาศกรรมในนครนิวยอร์กโดยได้กล่าวถึงประเทศไทยดังนี้
3.1 หนังสือพิมพ์ The Washington Post ได้กล่าวถึงหน่วยงานราชการไทยมีสำนักงาน 3 แห่งในตึกทางด้านใต้ของเวิลเทรดเซ็นเตอร์ ซึ่งภายหลังเหตุการณ์สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดตามผู้ที่ทำงานในสำนักงานดังกล่าวได้ทั้งหมด ทุกคนปลอดภัยแต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 2 ราย โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Washington Post ว่า ดีใจที่สามารถติดตามทุกคนจนพบแล้ว แต่ยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้
3.2 หนังสือพิมพ์ The Washington Times ได้กล่าวถึงความเตรียมพร้อมและการสั่งภาวะฉุกเฉินในสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ทั่วโลก โดยได้กล่าวถึงปฏิบัติการรอบๆ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยในกรุงเทพฯ ว่า ได้มีหน่วย SWAT ของตำรวจไทยจำนวน 100 นายเข้าไปให้การดูแล และยังกล่าวด้วยว่าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ฯ ในกรุงเทพฯ เป็นสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ที่ใหญ่อันดับสองของโลกรองจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในประเทศอียิปต์ นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ The Washington Times ยังได้กล่าวถึงถ้อยคำของดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า “ประเทศไทยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยกับสถานทูตและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ”
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (14 กันยายน 2544) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กรณีการก่อวินาศกรรมในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน ศกนี้ว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนไทยดังนี้
1. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประชาสัมพันธ์เตือนคนไทยให้ระมัดระวังการก่อการร้ายและให้เตรียมรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น โดยได้ประชาสัมพันธ์ผ่านวัดไทย ผู้นำชุมชนหรือสมาคมคนไทย และหนังสือพิมพ์ไทย ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แนะนำและตอบข้อซักถามจากคนไทยที่ส่งอีเมล์เพื่อสอบถามสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งได้จัด Voice Mailbox ในระบบโทรศัพท์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อรับฟังปัญหาของคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ก็ได้ประสานกับสถานกงสุลใหญ่ที่อยู่ในสหรัฐฯ ทุกแห่งให้ดำเนินการในทำนองเดียวกัน และในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินซึ่งจำเป็นต้องอพยพคนไทย ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ก็ได้เตรียมมาตรการแล้ว โดยสถานเอก อัครราชทูตฯ ทำเนียบสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งวัดไทยซึ่งมีทั้งหมด 64 แห่งในมลรัฐต่างๆ สามารถรองรับคนไทยได้จำนวนหนึ่ง
2. ตามที่สหรัฐฯ ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ได้มีสารไปยังประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตามลำดับนั้น เมื่อวานนี้ระหว่างงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ได้กล่าวย้ำกับ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตันแสดงความขอบคุณไทยที่ได้มีสารแสดงความเสียใจ และได้กล่าวว่า แรงสนับสนุนจากพันธมิตรได้เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการตั้งตัวจากเหตุการณ์ที่น่าตื่นตระหนก นอกจากนี้สหรัฐฯ รู้สึกโล่งอกที่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ของไทยที่มีสำนักงานอยู่ใน World Trade Center ที่นครนิวยอร์กรอดชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ และขอนำส่งความปรารถนาดีมายังเจ้าหน้าที่ไทยทั้งสองคนที่ได้รับบาดเจ็บ (นางวาสนา มุทุตานนท์ และนางน้ำฝน บุณยะวัฒน์) และขอนำส่งความหวังและคำสวดภาวนามายังเจ้าหน้าที่ไทยและครอบครัวด้วย
3. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รายงานว่า หนังสือพิมพ์ The Washington Post และ หนังสือพิมพ์ The Washington Times ฉบับวันที่ 12 กันยายน 2544 ได้รายงานข่าวการก่อวินาศกรรมในนครนิวยอร์กโดยได้กล่าวถึงประเทศไทยดังนี้
3.1 หนังสือพิมพ์ The Washington Post ได้กล่าวถึงหน่วยงานราชการไทยมีสำนักงาน 3 แห่งในตึกทางด้านใต้ของเวิลเทรดเซ็นเตอร์ ซึ่งภายหลังเหตุการณ์สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดตามผู้ที่ทำงานในสำนักงานดังกล่าวได้ทั้งหมด ทุกคนปลอดภัยแต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 2 ราย โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Washington Post ว่า ดีใจที่สามารถติดตามทุกคนจนพบแล้ว แต่ยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้
3.2 หนังสือพิมพ์ The Washington Times ได้กล่าวถึงความเตรียมพร้อมและการสั่งภาวะฉุกเฉินในสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ทั่วโลก โดยได้กล่าวถึงปฏิบัติการรอบๆ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยในกรุงเทพฯ ว่า ได้มีหน่วย SWAT ของตำรวจไทยจำนวน 100 นายเข้าไปให้การดูแล และยังกล่าวด้วยว่าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ฯ ในกรุงเทพฯ เป็นสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ที่ใหญ่อันดับสองของโลกรองจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในประเทศอียิปต์ นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ The Washington Times ยังได้กล่าวถึงถ้อยคำของดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า “ประเทศไทยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยกับสถานทูตและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ”
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-