กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (4 ตุลาคม 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่รัฐบาลไทยมีนโยบายที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการนำเข้าสินค้าเกษตรของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมถึงการลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร 23 รายการให้แก่ลาวให้เท่าเทียมกับสมาชิกองค์การการค้าโลก WTO นั้น
นายสุวิทย์ สิมะสกุล เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ จึงได้จัดโครงการนำคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนสาขา อุตสาหกรรมการเกษตรของสปป.ลาวมาเยือนประเทศไทยเพื่อพบปะภาคธุรกิจเอกชนไทย ระหว่างวันที่ 24-29 กันยายน 2543 โดยมอบหมายให้นายพิทักษ์ พรหมบุบผา อัครราชทูตนำคณะผู้แทนรัฐ และเอกชน สาขาอุตสาหกรรมการเกษตรของ ส.ป.ป. ลาว จำนวน 15 คน นำโดยนายจันเพ็ง บุนนะผน ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว เดินทางเยือน ประเทศไทย คณะได้เข้าพบนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และร่วมประชุมหารือกับ คณะกรรมการของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการสมาคมพ่อค้าพืชผลไทยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้า และการเกษตรด้วย
จากการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายลาวได้ขอให้ นักธุรกิจไทยร่วมมือช่วยเหลือลาวในการส่งเสริมศักยภาพในการผลิต หรือแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกมาประเทศไทย หรือส่งออกต่อไปยังประเทศต่างๆ โดยใช้ โควตาสิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) ของลาว นอกจากนั้น ฝ่ายลาวเรียกร้องให้ไทยลดหรือยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรให้แก่ลาวเพิ่มขึ้น และขอมีการปฏิบัติ ตามมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง นอกจากนั้นยังขอให้ไทยดำเนินการแก้ไขกฏหมายบางฉบับเกี่ยวกับการส่งออกเมล็ดพันธุ์พืช ของไทย ทั้งนี้เพื่อที่เกษตรกรลาวจะสามารถสั่งซื้อเมล็ดพืชพันธุ์ดีจากประเทศไทย เพื่อทำการปรับปรุงพันธุ์พืชในลาวได้อีกด้วย
ผลจากการประชุมครั้งนี้ นักธุรกิจไทยได้แสดงความยินดีที่จะช่วยเหลือลาว โดยพร้อมที่จะรับซื้อถั่วเหลือง ข้าวโพด และเมล็ดละหุ่ง ที่ไทยไม่สามารถผลิดได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศโดยไม่จำกัดจำนวน และขอให้ทางการลาวช่วยส่งเสริมให ้เกษตรกรลาวปลูกธัญพืชดังกล่าวในฤดูต่อไป ส่วนลูกเดือย งาขาวเมล็ดเล็ก และถั่วแดง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเสนอแนะว่า ไม่ควรให้ส่งเสริมการผลิต เพราะมีตลาดรับซื้อจำกัด นอกจากนั้น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเสนอให้การจัดตั้งคณะทำงานของ สภาการค้าลาวมาร่วมหารือกัน โดยฝ่ายลาวรับจะเป็นผู้เชิญผู้แทนจากภาครัฐบาลไทยมาร่วมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (4 ตุลาคม 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่รัฐบาลไทยมีนโยบายที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการนำเข้าสินค้าเกษตรของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมถึงการลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร 23 รายการให้แก่ลาวให้เท่าเทียมกับสมาชิกองค์การการค้าโลก WTO นั้น
นายสุวิทย์ สิมะสกุล เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ จึงได้จัดโครงการนำคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนสาขา อุตสาหกรรมการเกษตรของสปป.ลาวมาเยือนประเทศไทยเพื่อพบปะภาคธุรกิจเอกชนไทย ระหว่างวันที่ 24-29 กันยายน 2543 โดยมอบหมายให้นายพิทักษ์ พรหมบุบผา อัครราชทูตนำคณะผู้แทนรัฐ และเอกชน สาขาอุตสาหกรรมการเกษตรของ ส.ป.ป. ลาว จำนวน 15 คน นำโดยนายจันเพ็ง บุนนะผน ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว เดินทางเยือน ประเทศไทย คณะได้เข้าพบนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และร่วมประชุมหารือกับ คณะกรรมการของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการสมาคมพ่อค้าพืชผลไทยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้า และการเกษตรด้วย
จากการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายลาวได้ขอให้ นักธุรกิจไทยร่วมมือช่วยเหลือลาวในการส่งเสริมศักยภาพในการผลิต หรือแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกมาประเทศไทย หรือส่งออกต่อไปยังประเทศต่างๆ โดยใช้ โควตาสิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) ของลาว นอกจากนั้น ฝ่ายลาวเรียกร้องให้ไทยลดหรือยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรให้แก่ลาวเพิ่มขึ้น และขอมีการปฏิบัติ ตามมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง นอกจากนั้นยังขอให้ไทยดำเนินการแก้ไขกฏหมายบางฉบับเกี่ยวกับการส่งออกเมล็ดพันธุ์พืช ของไทย ทั้งนี้เพื่อที่เกษตรกรลาวจะสามารถสั่งซื้อเมล็ดพืชพันธุ์ดีจากประเทศไทย เพื่อทำการปรับปรุงพันธุ์พืชในลาวได้อีกด้วย
ผลจากการประชุมครั้งนี้ นักธุรกิจไทยได้แสดงความยินดีที่จะช่วยเหลือลาว โดยพร้อมที่จะรับซื้อถั่วเหลือง ข้าวโพด และเมล็ดละหุ่ง ที่ไทยไม่สามารถผลิดได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศโดยไม่จำกัดจำนวน และขอให้ทางการลาวช่วยส่งเสริมให ้เกษตรกรลาวปลูกธัญพืชดังกล่าวในฤดูต่อไป ส่วนลูกเดือย งาขาวเมล็ดเล็ก และถั่วแดง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเสนอแนะว่า ไม่ควรให้ส่งเสริมการผลิต เพราะมีตลาดรับซื้อจำกัด นอกจากนั้น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเสนอให้การจัดตั้งคณะทำงานของ สภาการค้าลาวมาร่วมหารือกัน โดยฝ่ายลาวรับจะเป็นผู้เชิญผู้แทนจากภาครัฐบาลไทยมาร่วมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-