นายอดุลย์ วินัยแพทย์ อธิบดีกรมทะเบียนการค้าเปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก แต่ที่ผ่านมามักมีปัญหาการวัดความชื้นข้าวไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากเครื่องวัดความชื้นส่วนใหญ่ผลิตจากประเทศในเขตหนาว ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เมื่อนำมาใช้ในประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองร้อนจึงเกิดปัญหา เพราะอุณหภูมิภายในห้องตรวจที่เป็นห้องปรับอากาศกับอุณหภูมิภายนอกแตกต่างกันมาก ทำให้เครื่องตรวจวัดบางยี่ห้อแสดงผลไม่แน่นอน นอกจากข้อจำกัดในเรื่องอุณหภูมิแล้ว เครื่องตรวจวัดที่ผลิตจากประเทศที่ต่างกันก็ยังให้ผลการวัดที่ไม่ตรงกันอีกด้วย จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนามาตรฐานการวัดความชื้นข้าวเปลือกขึ้นมาเอง ซึ่งกรมทะเบียนการค้าได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณากำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์วิธีการใช้เครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก ประกอบด้วย รองอธิบดีกรมทะเบียนการค้า (นางสาววิศิษฏ์ศรี จินตนา) เป็นประธาน และกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมวิชาการเกษตร สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมผู้ส่งออกต่างประเทศ สำนักชั่งตวงวัดและกองนิติการ กรมทะเบียนการค้า
นายอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2544 ที่ผ่านมา ผลการประชุมได้ตกลงรับหลักการที่จะต้องกำหนดให้เครื่องวัดความชึ้นข้าวเปลือกเป็นเครื่องวัดตามพระราชบัญยัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 และรับหลักการร่าง กฏกระทรวงกำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์วิธีการใช้เครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก ซึ่งคณะกรรมการจะนำร่างกฎกระทรวงไปพิจารณาในรายละเอียดให้เหมาะสมต่อไป สำหรับการประชุมในครั้งต่อไปจะมีขึ้นในราวกลางเดือนมิถุนายน 2544
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ มิถุนายน 2544--
-ปส-
นายอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2544 ที่ผ่านมา ผลการประชุมได้ตกลงรับหลักการที่จะต้องกำหนดให้เครื่องวัดความชึ้นข้าวเปลือกเป็นเครื่องวัดตามพระราชบัญยัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 และรับหลักการร่าง กฏกระทรวงกำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์วิธีการใช้เครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก ซึ่งคณะกรรมการจะนำร่างกฎกระทรวงไปพิจารณาในรายละเอียดให้เหมาะสมต่อไป สำหรับการประชุมในครั้งต่อไปจะมีขึ้นในราวกลางเดือนมิถุนายน 2544
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ มิถุนายน 2544--
-ปส-