1. สถานการณ์การผลิต เร่งหาเงินทุนเพื่อพัฒนาประมงปลาทูน่าน้ำลึก
นายบุญมี จันทรวงศ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่าขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ กำลังหาลู่ทางในการหาเงินจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของสหกรณ์ประมงทูน่าน้ำลึก จำกัด และหาแนวทางในการจัดซื้อเรือเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้มีการวิเคราะห์แล้วว่าเหตุที่สหกรณ์ประมงปลาทูน่าน้ำลึก ยังมีผลการดำเนินการต่ำ เพราะมีเรือหาปลาเพียงลำเดียวคือ เรือมุกมณี นอกจากนี้ ปลาที่จับได้ยังมีปริมาณน้อย เพราะลูกเรือยังขาดประสบการณ์ในการทำประมงน้ำลึก โดยหลังจากซื้อเรือมุกมณีแล้ว สามารถออกจับปลาได้เพียง 12 ครั้ง ได้ปลา 2,983 ตัน หรือเฉลี่ยแค่ 331.45 ตันต่อเที่ยว ประกอบกับปัญหาปลาราคาตกต่ำในช่วงปี 2541 และต้นปี 2542 จึงกระทบต่อผลประกอบการของสหกรณ์ประมงทูน่าน้ำลึก
ฉะนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงมีโครงการที่จะสนับสนุนให้สหกรณ์จัดซื้อเรือเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยจะต้องมีเรือจับปลาลักษณะกองเรือตั้งแต่ 3 ลำขึ้นไป จึงสามารถจับปลาได้มากพอที่จะดำเนินธุรกิจและมีกำไรอยู่ได้ โดยได้เร่งประสานงานกับกรมประมงและศูนย์พัฒนาประมงแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทดลองให้มีการวิจัยการทำประมงปลาทูน่าน้ำลึกในลักษณะประสานรวมกันเป็นกองเรือและจะจัดหาเงินทุนในการฝึกอบรมสมาชิก สหกรณ์และพนักงานของสหกรณ์ที่ออกไปจับปลา ในเรื่องของเทคโนโลยีและวิธีใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มีทักษะเพิ่มมากขึ้น
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 1-6 ธค. 2543) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,076.73 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 477.30 ตัน สัตว์น้ำจืด 599.43 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
ส่งเข้าประมูลจำหน่าย (ตัน) 1.1 ปลาดุก 5.62 1.2 ปลาช่อน 6.55 1.3 กุ้งทะเล 55.82 1.4 ปลาทู 47.34 1.5 ปลาหมึก 41.35
2. สถานการณ์การตลาด ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.89 บาท ลดลง จากกิโลกรัมละ 29.53 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.64 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 35.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 35.33 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.33 บาท
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 58.27 บาท ของสัปดาห์ก่อน 6.27 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ กุ้งกุลาดำสดขนาดกลางราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 329.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 324.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 5.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 492.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 485.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.00
2.4 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 19.94 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 20.08 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.14 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.5 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดชาวประมงขายได้ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 62.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน 4.50 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 75.83 บาท ของสัปดาห์ก่อน 4.17 บาท
2.6 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.46 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 2.55 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.09 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีน 58% ขึ้นไป (ระหว่างวันที่ 11-15ธค.43) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 16.82 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.18 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 49 ประจำวันที่ 11-17 ธ.ค. 2543--
-สส-
นายบุญมี จันทรวงศ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่าขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ กำลังหาลู่ทางในการหาเงินจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของสหกรณ์ประมงทูน่าน้ำลึก จำกัด และหาแนวทางในการจัดซื้อเรือเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้มีการวิเคราะห์แล้วว่าเหตุที่สหกรณ์ประมงปลาทูน่าน้ำลึก ยังมีผลการดำเนินการต่ำ เพราะมีเรือหาปลาเพียงลำเดียวคือ เรือมุกมณี นอกจากนี้ ปลาที่จับได้ยังมีปริมาณน้อย เพราะลูกเรือยังขาดประสบการณ์ในการทำประมงน้ำลึก โดยหลังจากซื้อเรือมุกมณีแล้ว สามารถออกจับปลาได้เพียง 12 ครั้ง ได้ปลา 2,983 ตัน หรือเฉลี่ยแค่ 331.45 ตันต่อเที่ยว ประกอบกับปัญหาปลาราคาตกต่ำในช่วงปี 2541 และต้นปี 2542 จึงกระทบต่อผลประกอบการของสหกรณ์ประมงทูน่าน้ำลึก
ฉะนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงมีโครงการที่จะสนับสนุนให้สหกรณ์จัดซื้อเรือเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยจะต้องมีเรือจับปลาลักษณะกองเรือตั้งแต่ 3 ลำขึ้นไป จึงสามารถจับปลาได้มากพอที่จะดำเนินธุรกิจและมีกำไรอยู่ได้ โดยได้เร่งประสานงานกับกรมประมงและศูนย์พัฒนาประมงแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทดลองให้มีการวิจัยการทำประมงปลาทูน่าน้ำลึกในลักษณะประสานรวมกันเป็นกองเรือและจะจัดหาเงินทุนในการฝึกอบรมสมาชิก สหกรณ์และพนักงานของสหกรณ์ที่ออกไปจับปลา ในเรื่องของเทคโนโลยีและวิธีใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มีทักษะเพิ่มมากขึ้น
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 1-6 ธค. 2543) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,076.73 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 477.30 ตัน สัตว์น้ำจืด 599.43 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
ส่งเข้าประมูลจำหน่าย (ตัน) 1.1 ปลาดุก 5.62 1.2 ปลาช่อน 6.55 1.3 กุ้งทะเล 55.82 1.4 ปลาทู 47.34 1.5 ปลาหมึก 41.35
2. สถานการณ์การตลาด ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.89 บาท ลดลง จากกิโลกรัมละ 29.53 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.64 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 35.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 35.33 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.33 บาท
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 58.27 บาท ของสัปดาห์ก่อน 6.27 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ กุ้งกุลาดำสดขนาดกลางราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 329.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 324.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 5.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 492.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 485.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.00
2.4 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 19.94 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 20.08 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.14 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.5 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดชาวประมงขายได้ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 62.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน 4.50 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 75.83 บาท ของสัปดาห์ก่อน 4.17 บาท
2.6 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.46 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 2.55 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.09 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีน 58% ขึ้นไป (ระหว่างวันที่ 11-15ธค.43) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 16.82 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.18 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 49 ประจำวันที่ 11-17 ธ.ค. 2543--
-สส-