บทสรุปนักลงทุน
อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยมีความต้องการชิ้นส่วนพลาสติกปี 2542 เป็นจำนวนมากถึง 109,200 ตัน ในขณะที่อุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกของไทยสามารถรองรับความ ต้องการได้เพียงจำนวนหนึ่ง ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และมีช่องว่างระหว่างความต้องการชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ กับการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในประเทศ ดังนั้น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน
เทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ที่ใช้กันมากในการผลิต ได้แก่ Injection (ตัวอย่างชิ้นงาน: แผงหน้าปัด ปุ่มล๊อกประตู กรอบดวงไฟ กรอบกระจก หน้าหม้อน้ำ พลาสติกปิดเสา) Extrusion (ตัวอย่างชิ้นงาน: ท่อพลาสติก ท่อร้อยสายไฟ) Blow Molding (ตัวอย่างชิ้นงาน: หม้อพักน้ำ กระบอกน้ำมันเครื่อง) และ Sheet Forming (ตัวอย่างชิ้นงาน: ถังน้ำมัน บังโคลนรถ Panel Trim) สำหรับเครื่องจักรหลักที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ Injection Machine หรือ ExtrusionMachine หรือ Blow Molding Machine หรือ Sheet Forming Machine (ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่จะใช้ผลิตชิ้นงาน) CNC Machine Grinding Machine Lathe Machine Mixing Machine Painting Machine และ Cutting Machine
เงินลงทุนและอุปกรณ์เริ่มต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 2 -- 200 ล้านบาท โดยมีเงินลงทุนในที่ดิน อาคาร เครื่องจักร ยานพาหนะ และเงินทุนหมุนเวียน โดยประมาณเท่ากับร้อยละ 30 20 15 10 และ 25 ตามลำดับจำนวนบุคลากรจะขึ้นอยู่กับขนาดเงินลงทุน และเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้โดยมี สัดส่วนบุคลากรต่อเงินทุน 1 ล้านบาท จะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.5 -- 11.4 หรือโดยเฉลี่ย 3.4 คน ต่อเงินทุน 1 ล้านบาท สำหรับสถานที่ตั้งของโรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติกควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับลูกค้าภายในรัศมี 50 กิโลเมตร กลยุทธ์การจำหน่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกมี 3 วิธี คือ (1) ขายตรงให้แก่ลูกค้ามากที่สุด (2) ขายกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company) รองลงมา และ (3) ขายโดยผ่านตัวแทนขายเป็นอันดับสุดท้ายการตลาด
ความต้องการในปัจจุบันและอนาคต
วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางแนวโน้มการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ทำให้การปรับตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันโดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมถึงความต้องการวัตถุดิบชิ้นส่วน หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษมาใช้เพื่อพัฒนาการผลิตด้วย อาทิ ชิ้นส่วนพลาสติกที่ใช้ในรถยนต์จะต้องเป็นพลาสติกที่มีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากพลาสติกทั่วๆไป เช่น ความยืดหยุ่นสูงกว่าความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้สูงกว่า ความทนทานต่อการกัดกร่อนได้มากกว่า ความทนทานต่อแรงอัด แรงกระแทก และแรงเสียดทานได้มากกว่า เป็นต้น พลาสติกที่คุณสมบัติพิเศษดังกล่าวนี้ ศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า พลาสติกวิศวกรรม (Engineering Plastics) อุตสาหกรรมรถยนต์มีความต้องการพลาสติกวิศวกรรมที่มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อลดต้นทุนการผลิต (จากเดิมที่ใช้ชิ้นส่วนโลหะในการผลิต) ลดน้ำหนักผลิตภัณฑ์ (การเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้รถยนต์) และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งด้านผลิตภัณฑ์และราคา
อย่างไรก็ตาม การผลิตพลาสติกวิศวกรรมที่มีคุณสมบัติพิเศษดังกล่าว ในประเทศไทยยังต้องอาศัยการนำเข้าจำนวนมาก ทั้งเทคโนโลยีการผลิต เครื่องมือ/ เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต แม่พิมพ์ (Mold) และวัตถุดิบ (เม็ดพลาสติก) ในขณะที่ความต้องการพลาสติกวิศวกรรมดังกล่าวยังมีความต้องการอยู่มาก ทำให้มีช่องว่าง (Gap) ระหว่างอุปสงค์พลาสติกวิศวกรรมในอุตสาหกรรมรถยนต์ กับอุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ของประเทศไทย ดังนั้นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน
อุปสงค์ชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรมดังกล่าวเป็นอุปสงค์ต่อเนื่อง (Derived Demand) จากอุปทานในการผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยทำให้ตลาดของชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรมในอุตสาหกรรมรถยนต์จึงมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2542 ได้ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยสำคัญ 4 ประการ คือ (1) บริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรมรถยนต์ไทยหลายแห่งได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทแม่(โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น) ด้วยการเพิ่มทุน ทำให้บริษัทดังกล่าวมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากขึ้น และมีการออกโปรแกรมส่งเสริมการตลาดในประเทศได้มากขึ้น (2) ความช่วยเหลือด้านการส่งออกรถยนต์ไทยไปตลาดต่างประเทศจากบริษัทแม่ (ญี่ปุ่น) ของบริษัทผู้ประกอบรถยนต์ไทยหลายแห่ง (3) ข้อกำหนด และเงื่อนไขของสินเชื่อการเช่าซื้อ (Hire Purchase) /เช่าทรัพย์ (Leasing) รถยนต์ได้รับการผ่อนคลายความเข้มงวดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศ โดยตั้งแต่ต้นปี 2542 และ (4) ภาวะอัตราดอกเบี้ยของไทยได้ลดลงอย่างมากทั้ง ด้านเงินฝาก และสินเชื่อ เนื่องจากสภาพคล่องล้นระบบสถาบันการเงิน จากปัจจัย 4 ประการดังกล่าว ข้างต้น ทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ของประเทศในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2542 ได้เพิ่มมากขึ้นถึง ร้อยละ 103.7 (หรืออยู่ที่ 178,997 คัน) ของช่วงเวลาเดียวกันปี 2541 และคาดว่า ในปี 2542 การผลิตรถยนต์ของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 320,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 101.7 จากปี 2541 และปี 2543 2544 จะเพิ่มขึ้นเป็น 450,000 และ 600,000 คัน ตามลำดับ
สำหรับตลาดของชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรมในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เป็นอุปสงค์ต่อเนื่องนั้น จากการคาดประมาณโดยมีข้อสมมติ (Assumption) 2 ข้อ คือ (1) น้ำหนักของรถยนต์นั่ง และ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,400 และ 1,500 กิโลกรัม/ คัน ตามลำดับ (2) สัดส่วนโดยน้ำหนักของพลาสติกต่อน้ำหนักรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 30 และ 21 ตามลำดับ ดังนั้น รถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะมีความต้องการใช้พลาสติกวิศวกรรมโดยเฉลี่ยประมาณ 420 และ 315 กิโลกรัมต่อคัน ตามลำดับ ดังนั้น ขนาดตลาดชิ้นส่วน พลาสติกวิศวกรรมของไทยปี 2542 2543 และ 2544 จะอยู่ที่ 109,200 154,875 และ 205,013 ตัน ตามลำดับ รายละเอียดปรากฏในตารางที่ 1
ปริมาณการผลิตรถยนต์ และขนาดตลาดของชิ้นส่วนพลาสติกในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
รายการ 2537 2538 2539 2540 2541 2542-F 2543-F 2544-F1. ปริมาณการผลิต (คัน)
1.1 รถยนต์นั่ง 109,822 127,242 138,579 112,284 32,028 80,000 125,000 152,500
1.2 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 320,504 398,438 408,742 248,442 126,595 240,000 325,000 447,500รวมปริมาณการผลิตรถยนต์ 430,326 525,680 547,321 360,726 158,623 320,000 450,000 600,0002.! ขนาดตลาดของชิ้นส่วน
พลาสติก (กิโลกรัม)
2.1 รถยนต์นั่ง 46,125,240 53,441,640 58,203,180 47,159,280 13,451,760 33,600,000 52,500,000 64,050,000
2.2 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 100,958,760 125,507,970 128,753,730 78,259,230 39,877,425 75,600,000 102,375,000 140,962,500ขนาดตลาดชิ้นส่วนพลาสติก 147,084,000 178,949,610 186,956,910 125,418,510 53,329,185 109,200,000 154,875,000 205,012,500ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย ประมาณการโดยบริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ปัจจุบันมีผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศประมาณ 50 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการรายสำคัญ จำนวน 14 ราย ดังนี้
รายชื่อผู้ประกอบการรายสำคัญในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์
กิจการ ที่ตั้ง ทุนจดทะเบียน (บาท)1. มัตสุชิตะแบตเตอร์รี่ (ประเทศไทย) อ. เมือง จ. สมุทรปราการ 655,000,0002. บริษัท ซันโคโต เคมีแมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย)จำกัด สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ. พระนครศรีอยุธยา 486,000,0003. เรียวกะไทย สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ. พระนครศรีอยุธยา 485,000,0004. บริษัท โตโยด้า โกเซ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี 400,000,0005. บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ 333,000,0006. บริษัท ณรงค์อุตสาหกรรม จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบางพลี จ. สมุทรปราการ 300,000,0007. บริษัท นิสเซอิ พรีซิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด อ. เมือง จ.ชลบุรี 260,000,0008. บริษัท โชวพลา (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบางปะกง 2 จ.ชลบุรี 250,000,0009. บริษัท ไทยซัมมิท ไฮเทค พลาสติก จำกัด นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จ. พระนครศรีอยุธยา 182,000,00010.บริษัท โคล่อน อินดัสทรี (ประเทศไทย) จำกัด สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ. พระนครศรีอยุธยา 150,000,00011.บริษัท ทาคาฮาชิพลาสติก จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ. สมุทรปราการ 127,000,00012.บริษัท ชิโยดะ อิทิเกร (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จ. พระนครศรีอยุธยา 125,000,00013.บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด อ. บางพลี จ. สมุทรปราการ 100,000,000 (ทีเคที พลาสติก อินดัสเทรียล)14.บริษัท คุมิ (ไทยแลนด์) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จ.พระนครศรีอยุธยา75,000,000
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ช่องทางการจำหน่าย
กลยุทธ์การจำหน่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกมี 3 วิธี คือ (1) ขายตรงให้แก่ลูกค้ามากที่สุด (2) ขายกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company) รองลงมา และ (3) ขายโดยผ่านตัวแทนขายเป็นอันดับสุดท้าย โดยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 5 วิธี เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ 1. แนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทแก่ลูกค้าเป้าหมายโดยตรง (2) โฆษณาในสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง (3) โฆษณาใน Directory ต่างๆ (4) โฆษณาโดยผ่าน Industrial Purchasing Guide และ (5)โฆษณาประชาสัมพันธ์โดยการส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านนายหน้า/ คนกลาง ตามลำดับ
การผลิต
วัตถุดิบที่ใช้และแหล่งวัตถุดิบ
ส่วนประกอบที่สำคัญที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ เม็ดพลาสติก โลหะ (เช่น อลูมิเนียม เป็นต้น)สี (Pigment) สารเคมี และเรซิน (Resin) โดยมีสัดส่วนมากที่สุดถึงร้อยละ 70 ของโครงสร้างต้นทุนการผลิต และวัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ รายละเอียดปรากฏในตารางที่ 3 เม็ดพลาสติกมีหลายชนิดและแต่ละชนิดจะนำมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างของชิ้นงานพลาสติกที่ใช้เป็นส่วนประกอบในรถยนต์ปรากฏในตารางที่ 4
โครงสร้างต้นทุนการผลิต
ประเภท สัดส่วน (%)
1. วัตถุดิบ !70
!2. ค่าแรงงาน !8
!3. ค่าเสื่อมราคาและอื่นๆ !7
!4. ค่าโสหุ้ยการผลิต !15
!รวม !100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการกรรมวิธีการผลิต
กรรมวิธีการผลิตในอุตสาหกรรมพลาสติกจะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ต้องการ ซึ่งสามารถจำแนกได้ 5 ประเภท คือ
1. ประเภทหล่อพลาสติกเม็ดและผงโดยใช้ความร้อนและแรงอัดในแม่แบบปิด (Molding)ได้แก่ แบบอัด (Compression Molding) แบบอัดส่ง (Transfer) แบบฉีด (Injection) แบบรีด(Extrusion) แบบเป่า (Blow) แบบลูกกลิ้ง (Cylindering) แบบอัดแผ่น (Laminating) และแบบอัดเย็น (Cold)
2. ประเภทหล่อพลาสติกเหลว (Casting) ได้แก่ แบบหล่อเย็น (Simple) และแบบหล่อร้อน (Plastisol)
3. ประเภทอัดขึ้นรูปพลาสติกแผ่น (Thermoforming) ได้แก่ แบบอัดด้วยแม่แบบ (Mechanical) แบบสูญญากาศ (Vacuum) และแบบลมอัด (Blow)
4. ประเภทหล่อพลาสติกเหลวกับวัสดุเสริมกำลัง (Reinforcing) ได้แก่ แบบใช้มือทา (Hand Lay-Up) แบบใช้เครื่องพ่น (Spray-up) แบบใช้แม่แบบอัด (Matched Molding) แบบอัดเหลว (Premix Molding) แบบถุงอัดอากาศ (Pressure-Bag Molding) และแบบถุงสูญญากาศ (Vacuum-Bag Molding)
5. ประเภทหล่อโฟม (Foaming) ได้แก่ แบบหล่อพลาสติกเม็ด (Molding Expandable Polystyrene) และแบบหล่อพลาสติกเหลว (Casting Rigid & Flexible Polyurethane Foam)
ชนิดของพลาสติกวิศวกรรมในอุตสาหกรรมรถยนต์
ชนิดของพลาสติก ตัวอย่างการใช้งาน
ABS หน้ากากช่องแอร์ กรอบกระจก แผงหน้าปัด หน้าหม้อน้ำ ปุ่มล็อค
ประตู
PA ท่อต่าง ๆ เช่น ท่อแอร์ ท่อเบรก แบริ่ง
PBT ท่อต่าง ๆ เช่น ท่อแอร์ ท่อเบรก
PC เลนส์ไฟ
PMMA เลนส์ไฟ
SAN เลนส์ไฟ
PBT ชิ้นส่วนในหน้ากากช่องแอร์
PE มือจับต่าง ๆ กระปุกเกียร์ ฝาปิดถังน้ำมัน ปุ่มล็อคประตู
PP กันชน หน้าปัด หน้ากากช่องแอร์ พรม พลาสติกปิดเสา กรอบดวงไฟ
PU โฟมที่เป็นไส้ในของเบาะ หน้าปัด ด้านในของกันชน ประตูรถ
PVC หนังเทียมหุ้มเบาะ หลังคา แผงหน้าปัด ประตูรถ
Phenolic Resin แผงประตู
PPO แผงหน้าปัด
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติก
เทคโนโลยี ตัวอย่างชิ้นส่วนพลาสติกยานยนต์
Injection แผงหน้าปัด ปุ่มล็อคประตู กรอบดวงไฟ กรอบกระจก
หน้าหม้อน้ำ พลาสติกปิดเสา
Extrusion ท่อพลาสติก ท่อร้อยสายไฟ
Blow Molding หม้อพักน้ำ กระบอกน้ำมันเครื่อง
Sheet Forming ถังน้ำมัน บังโคลนรถ Panel Trim
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
กรรมวิธีการผลิตชิ้นส่วนพลาสติก
การติดต่อกับลูกค้า (โรงงาน) เบื้องต้น การศึกษา Spec. และ Drawing ของ
ชิ้นงานจากลูกค้าโดยละเอียด
การจัดทำชิ้นงานตัวอย่างตาม Spec. การออกแบบ และจัดทำ Mold รวมทั้ง
และ Drawing ของลูกค้า การทดสอบ Mold
การจัดส่งชิ้นงานตัวอย่างให้ลูกค้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติก และลูกค้าตกลงกัน
ทดสอบว่า ได้ชิ้นงานตามที่ต้องการ ในปริมาณสั่งซื้อ และระยะเวลาส่งมอบตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพวัตถุดิบให้ได้ วางแผนการผลิต (วัตถุดิบ เครื่องจักร
ตามแผนการผลิต และ Spec. ที่กำหนด แรงงาน และตารางเวลาการผลิต)ชั่งตวงวัดพลาสติก สี สารเคมี ให้ได้ตาม ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกโดย Injection/
สัดส่วน และ Spec. ที่กำหนด Extrusion/ Blow Molding/Sheet Forming
ตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอนการผลิต ตกแต่งชิ้นงาน
เพื่อลดเปอร์เซนต์การสูญเสีย (trimming เคลือบสี ขัดผิว ฯลฯ)
ทำการบรรจุภัณฑ์ชิ้นงาน เพื่อเตรียม จัดส่งชิ้นส่วนพลาสติกให้แก่ลูกค้า
ส่งมอบ (ส่วนหนึ่งเก็บในสต็อก) ตามที่ลูกค้ากำหนด
โดยทั่วไป ชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์มีกรรมวิธีในการผลิตดังนี้
ขั้นที่ 1 นำข้อมูลด้าน Specification และ Drawing จากลูกค้ามาศึกษารายละเอียดในการ ผลิต
ขั้นที่ 2 ทำการออกแบบ และทำ Mold โดยใช้ข้อมูลจากขั้นที่ 1 และทดสอบ Mold
ขั้นที่ 3 จัดทำชิ้นงานตัวอย่าง และนำเสนอให้ลูกค้าตรวจสอบ เพื่อให้พิจารณาว่า ชิ้นงานที่ ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
ขั้นที่ 4 ทำการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกให้ได้ปริมาณ และคุณภาพตามกำหนดเวลาส่งมอบ
-! วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อของลูกค้า ประกอบด้วย กำหนดชนิดปริมาณ และระยะเวลาการจัดซื้อวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ การกำหนดเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์และบุคลากรที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิต รวมทั้ง การกำหนดตารางเวลาการผลิต (ProductionScheduling)
-! ตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพวัตถุดิบให้ตรงตามแผนการผลิตที่กำหนดไว้
-! ทำการชั่งน้ำหนักเม็ดพลาสติก สี สารเคมี ฯลฯ และผสมให้ได้ตามสัดส่วน
-! ทำการผลิตชิ้นงานพลาสติกโดย Injection หรือ Extrusion หรือ Blow Molding หรือ Sheet Forming ขึ้นอยู่กับชนิดของชิ้นงานที่จะผลิต รวมทั้งประกอบชิ้นงานด้วย (ถ้ามี)
-! ทำการตกแต่งชิ้นงาน ได้แก่ Trimming เคลือบสี ขัดผิว เป็นต้น
-! ตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานในแต่ละขั้นตอนการผลิต เพื่อลดการสูญเสีย
-! ทำการบรรจุภัณฑ์ชิ้นงานเพื่อเตรียมส่งมอบให้ลูกค้า (ส่วนหนึ่งจัดเก็บไว้ในสต็อก)
เครื่องจักรหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิต
เครื่องจักรหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิต ประกอบด้วย (1) Injection Machine หรือ Extrusion Machine หรือ Blow Molding Machine หรือ Sheet Forming Machine ขึ้นอยู่กับชนิดของ ชิ้นงานที่จะผลิต (2) CNC Machine (3) Grinding Machine (4) Lathe Machine (5) Mixing Machine (6) Painting Machine (7) Cutting Machine (กิจการบางแห่งอาจจะจ้างบริษัทอื่น ทำ Mold หรืออาจ จะได้รับ Mold จากลูกค้า ทำให้เครื่องจักรรายการที่ (2) (3) และ (4) ไม่จำเป็นต้องใช้)
การลงทุนและการเงิน
การลงทุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับลูกค้า ถ้าอยู่ในรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตรจากลูกค้าก็จะเป็นข้อได้เปรียบ (Advantage) ที่ลูกค้าให้ความสนใจ เงินลงทุนและอุปกรณ์เริ่มต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 2 -- 200 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนโครงสร้างการลง ทุนดังนี้
สัดส่วนโดยประมาณของเงินลงทุนเริ่มต้น
รายการเงินลงทุน ร้อยละของเงินลงทุน
1. สินทรัพย์ถาวร 75
1.1 ที่ดิน 30
1.2 อาคาร/ สิ่งปลูกสร้าง 20
1.3 เครื่องจักร 15
1.4 ยานพาหนะ 10
2. เงินทุนหมุนเวียน 25
รวม 100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
บุคลากร
ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์โดยทั่วไป จะใช้บุคลากรอยู่ในช่วงระหว่าง 6 -- 660 คน ในขณะที่ขนาดเงินทุนอยู่ในช่วงระหว่าง 2 -- 655 ล้านบาท ดังนั้น สัดส่วนบุคลากรต่อเงินทุน 1 ล้านบาท จะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.5 -- 11.4 หรือโดยเฉลี่ย 3.4 คน ต่อเงินทุน 1 ล้านบาท โดยมี สัดส่วนบุคลากรในโรงงานชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์โดยประมาณดังนี้
สัดส่วนโดยประมาณของบุคลากรในโรงงานชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์
ประเภทพนักงาน ร้อยละของพนักงานทั้งหมด
1. พนักงานในสายการผลิตโดยตรง 89.1
1.1 ช่าง 76.9
1.2 วิศวกร 1.9
1.3 หัวหน้างาน 10.3
2. พนักงานในสำนักงาน 5.8
3. ผู้บริหารระดับสูง 5.1
รวม 100.0
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการกำไรเฉลี่ย = 20 % ของยอดขาย (โดยประมาณ)
ภาคผนวก
แหล่งขายเครื่องจักร
รายชื่อผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย
บริษัท ที่อยู่1. บริษัท ยูนสยามโอเวอร์ซีส์เทรดดิ้ง จำกัด 158/ 7 ถ.นนทรี ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
โทรศัพท์ 284-2314, 284-2318, 294-51202. Panvatana Co., Ltd. 266/3 ถ.จรัลสนิทวงศ์ บางขุนนนท์ บางกอกน้อย กรุงเทพฯ
10700 โทรศัพท์ 435-0051-43. Behn Meyer Engineering Co., Ltd. UM Tower ชั้น 10 เลขที่ 9 ถ.รามคำแหง สวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250 โทรศัพท์ 319-72274. Pacific Tools Co. Ltd. 907 หมู่ 15 ถ.เทพารักษ์ บางเสาธง สมุทรปราการ 10540
โทรศัพท์ 313-11995. R.O.M. Intertrade Ltd., Part. 2693 ถ.พัฒนาการ สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 โทรศัพท์
722-1090-1, 322-2495-66. Taiwan Mold Tool Co., Ltd. No. 43-2 Pei-Tao Li, Tanshui Town, Taipei Hsien, Taiwan R.O.C. Tel: 886-2-26206202/ 262146217. TCK Interplas Co., Ltd. 9/9 หมู่ 4 ซอยวัดน้อยนอก ถ.นนทบุรี 1 ต.บางกะสอ อ.เมือง นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 525-1151-78. บริษัท เซ่งเจี่ย (ประเทศไทย) จำกัด 121/105 หมู่ 6 ถ.เอกชัย-บางบอน บางขุนเทียน กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 416-3626-7, 416-4891-2ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด--จบ--
-ชต-
อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยมีความต้องการชิ้นส่วนพลาสติกปี 2542 เป็นจำนวนมากถึง 109,200 ตัน ในขณะที่อุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกของไทยสามารถรองรับความ ต้องการได้เพียงจำนวนหนึ่ง ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และมีช่องว่างระหว่างความต้องการชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ กับการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในประเทศ ดังนั้น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน
เทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ที่ใช้กันมากในการผลิต ได้แก่ Injection (ตัวอย่างชิ้นงาน: แผงหน้าปัด ปุ่มล๊อกประตู กรอบดวงไฟ กรอบกระจก หน้าหม้อน้ำ พลาสติกปิดเสา) Extrusion (ตัวอย่างชิ้นงาน: ท่อพลาสติก ท่อร้อยสายไฟ) Blow Molding (ตัวอย่างชิ้นงาน: หม้อพักน้ำ กระบอกน้ำมันเครื่อง) และ Sheet Forming (ตัวอย่างชิ้นงาน: ถังน้ำมัน บังโคลนรถ Panel Trim) สำหรับเครื่องจักรหลักที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ Injection Machine หรือ ExtrusionMachine หรือ Blow Molding Machine หรือ Sheet Forming Machine (ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่จะใช้ผลิตชิ้นงาน) CNC Machine Grinding Machine Lathe Machine Mixing Machine Painting Machine และ Cutting Machine
เงินลงทุนและอุปกรณ์เริ่มต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 2 -- 200 ล้านบาท โดยมีเงินลงทุนในที่ดิน อาคาร เครื่องจักร ยานพาหนะ และเงินทุนหมุนเวียน โดยประมาณเท่ากับร้อยละ 30 20 15 10 และ 25 ตามลำดับจำนวนบุคลากรจะขึ้นอยู่กับขนาดเงินลงทุน และเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้โดยมี สัดส่วนบุคลากรต่อเงินทุน 1 ล้านบาท จะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.5 -- 11.4 หรือโดยเฉลี่ย 3.4 คน ต่อเงินทุน 1 ล้านบาท สำหรับสถานที่ตั้งของโรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติกควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับลูกค้าภายในรัศมี 50 กิโลเมตร กลยุทธ์การจำหน่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกมี 3 วิธี คือ (1) ขายตรงให้แก่ลูกค้ามากที่สุด (2) ขายกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company) รองลงมา และ (3) ขายโดยผ่านตัวแทนขายเป็นอันดับสุดท้ายการตลาด
ความต้องการในปัจจุบันและอนาคต
วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางแนวโน้มการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ทำให้การปรับตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันโดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมถึงความต้องการวัตถุดิบชิ้นส่วน หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษมาใช้เพื่อพัฒนาการผลิตด้วย อาทิ ชิ้นส่วนพลาสติกที่ใช้ในรถยนต์จะต้องเป็นพลาสติกที่มีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากพลาสติกทั่วๆไป เช่น ความยืดหยุ่นสูงกว่าความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้สูงกว่า ความทนทานต่อการกัดกร่อนได้มากกว่า ความทนทานต่อแรงอัด แรงกระแทก และแรงเสียดทานได้มากกว่า เป็นต้น พลาสติกที่คุณสมบัติพิเศษดังกล่าวนี้ ศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า พลาสติกวิศวกรรม (Engineering Plastics) อุตสาหกรรมรถยนต์มีความต้องการพลาสติกวิศวกรรมที่มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อลดต้นทุนการผลิต (จากเดิมที่ใช้ชิ้นส่วนโลหะในการผลิต) ลดน้ำหนักผลิตภัณฑ์ (การเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้รถยนต์) และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งด้านผลิตภัณฑ์และราคา
อย่างไรก็ตาม การผลิตพลาสติกวิศวกรรมที่มีคุณสมบัติพิเศษดังกล่าว ในประเทศไทยยังต้องอาศัยการนำเข้าจำนวนมาก ทั้งเทคโนโลยีการผลิต เครื่องมือ/ เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต แม่พิมพ์ (Mold) และวัตถุดิบ (เม็ดพลาสติก) ในขณะที่ความต้องการพลาสติกวิศวกรรมดังกล่าวยังมีความต้องการอยู่มาก ทำให้มีช่องว่าง (Gap) ระหว่างอุปสงค์พลาสติกวิศวกรรมในอุตสาหกรรมรถยนต์ กับอุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ของประเทศไทย ดังนั้นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน
อุปสงค์ชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรมดังกล่าวเป็นอุปสงค์ต่อเนื่อง (Derived Demand) จากอุปทานในการผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยทำให้ตลาดของชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรมในอุตสาหกรรมรถยนต์จึงมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2542 ได้ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยสำคัญ 4 ประการ คือ (1) บริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรมรถยนต์ไทยหลายแห่งได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทแม่(โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น) ด้วยการเพิ่มทุน ทำให้บริษัทดังกล่าวมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากขึ้น และมีการออกโปรแกรมส่งเสริมการตลาดในประเทศได้มากขึ้น (2) ความช่วยเหลือด้านการส่งออกรถยนต์ไทยไปตลาดต่างประเทศจากบริษัทแม่ (ญี่ปุ่น) ของบริษัทผู้ประกอบรถยนต์ไทยหลายแห่ง (3) ข้อกำหนด และเงื่อนไขของสินเชื่อการเช่าซื้อ (Hire Purchase) /เช่าทรัพย์ (Leasing) รถยนต์ได้รับการผ่อนคลายความเข้มงวดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศ โดยตั้งแต่ต้นปี 2542 และ (4) ภาวะอัตราดอกเบี้ยของไทยได้ลดลงอย่างมากทั้ง ด้านเงินฝาก และสินเชื่อ เนื่องจากสภาพคล่องล้นระบบสถาบันการเงิน จากปัจจัย 4 ประการดังกล่าว ข้างต้น ทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ของประเทศในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2542 ได้เพิ่มมากขึ้นถึง ร้อยละ 103.7 (หรืออยู่ที่ 178,997 คัน) ของช่วงเวลาเดียวกันปี 2541 และคาดว่า ในปี 2542 การผลิตรถยนต์ของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 320,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 101.7 จากปี 2541 และปี 2543 2544 จะเพิ่มขึ้นเป็น 450,000 และ 600,000 คัน ตามลำดับ
สำหรับตลาดของชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรมในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เป็นอุปสงค์ต่อเนื่องนั้น จากการคาดประมาณโดยมีข้อสมมติ (Assumption) 2 ข้อ คือ (1) น้ำหนักของรถยนต์นั่ง และ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,400 และ 1,500 กิโลกรัม/ คัน ตามลำดับ (2) สัดส่วนโดยน้ำหนักของพลาสติกต่อน้ำหนักรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 30 และ 21 ตามลำดับ ดังนั้น รถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะมีความต้องการใช้พลาสติกวิศวกรรมโดยเฉลี่ยประมาณ 420 และ 315 กิโลกรัมต่อคัน ตามลำดับ ดังนั้น ขนาดตลาดชิ้นส่วน พลาสติกวิศวกรรมของไทยปี 2542 2543 และ 2544 จะอยู่ที่ 109,200 154,875 และ 205,013 ตัน ตามลำดับ รายละเอียดปรากฏในตารางที่ 1
ปริมาณการผลิตรถยนต์ และขนาดตลาดของชิ้นส่วนพลาสติกในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
รายการ 2537 2538 2539 2540 2541 2542-F 2543-F 2544-F1. ปริมาณการผลิต (คัน)
1.1 รถยนต์นั่ง 109,822 127,242 138,579 112,284 32,028 80,000 125,000 152,500
1.2 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 320,504 398,438 408,742 248,442 126,595 240,000 325,000 447,500รวมปริมาณการผลิตรถยนต์ 430,326 525,680 547,321 360,726 158,623 320,000 450,000 600,0002.! ขนาดตลาดของชิ้นส่วน
พลาสติก (กิโลกรัม)
2.1 รถยนต์นั่ง 46,125,240 53,441,640 58,203,180 47,159,280 13,451,760 33,600,000 52,500,000 64,050,000
2.2 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 100,958,760 125,507,970 128,753,730 78,259,230 39,877,425 75,600,000 102,375,000 140,962,500ขนาดตลาดชิ้นส่วนพลาสติก 147,084,000 178,949,610 186,956,910 125,418,510 53,329,185 109,200,000 154,875,000 205,012,500ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย ประมาณการโดยบริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ปัจจุบันมีผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศประมาณ 50 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการรายสำคัญ จำนวน 14 ราย ดังนี้
รายชื่อผู้ประกอบการรายสำคัญในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์
กิจการ ที่ตั้ง ทุนจดทะเบียน (บาท)1. มัตสุชิตะแบตเตอร์รี่ (ประเทศไทย) อ. เมือง จ. สมุทรปราการ 655,000,0002. บริษัท ซันโคโต เคมีแมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย)จำกัด สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ. พระนครศรีอยุธยา 486,000,0003. เรียวกะไทย สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ. พระนครศรีอยุธยา 485,000,0004. บริษัท โตโยด้า โกเซ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี 400,000,0005. บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ 333,000,0006. บริษัท ณรงค์อุตสาหกรรม จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบางพลี จ. สมุทรปราการ 300,000,0007. บริษัท นิสเซอิ พรีซิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด อ. เมือง จ.ชลบุรี 260,000,0008. บริษัท โชวพลา (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบางปะกง 2 จ.ชลบุรี 250,000,0009. บริษัท ไทยซัมมิท ไฮเทค พลาสติก จำกัด นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จ. พระนครศรีอยุธยา 182,000,00010.บริษัท โคล่อน อินดัสทรี (ประเทศไทย) จำกัด สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ. พระนครศรีอยุธยา 150,000,00011.บริษัท ทาคาฮาชิพลาสติก จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ. สมุทรปราการ 127,000,00012.บริษัท ชิโยดะ อิทิเกร (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จ. พระนครศรีอยุธยา 125,000,00013.บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด อ. บางพลี จ. สมุทรปราการ 100,000,000 (ทีเคที พลาสติก อินดัสเทรียล)14.บริษัท คุมิ (ไทยแลนด์) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จ.พระนครศรีอยุธยา75,000,000
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ช่องทางการจำหน่าย
กลยุทธ์การจำหน่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกมี 3 วิธี คือ (1) ขายตรงให้แก่ลูกค้ามากที่สุด (2) ขายกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company) รองลงมา และ (3) ขายโดยผ่านตัวแทนขายเป็นอันดับสุดท้าย โดยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 5 วิธี เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ 1. แนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทแก่ลูกค้าเป้าหมายโดยตรง (2) โฆษณาในสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง (3) โฆษณาใน Directory ต่างๆ (4) โฆษณาโดยผ่าน Industrial Purchasing Guide และ (5)โฆษณาประชาสัมพันธ์โดยการส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านนายหน้า/ คนกลาง ตามลำดับ
การผลิต
วัตถุดิบที่ใช้และแหล่งวัตถุดิบ
ส่วนประกอบที่สำคัญที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ เม็ดพลาสติก โลหะ (เช่น อลูมิเนียม เป็นต้น)สี (Pigment) สารเคมี และเรซิน (Resin) โดยมีสัดส่วนมากที่สุดถึงร้อยละ 70 ของโครงสร้างต้นทุนการผลิต และวัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ รายละเอียดปรากฏในตารางที่ 3 เม็ดพลาสติกมีหลายชนิดและแต่ละชนิดจะนำมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างของชิ้นงานพลาสติกที่ใช้เป็นส่วนประกอบในรถยนต์ปรากฏในตารางที่ 4
โครงสร้างต้นทุนการผลิต
ประเภท สัดส่วน (%)
1. วัตถุดิบ !70
!2. ค่าแรงงาน !8
!3. ค่าเสื่อมราคาและอื่นๆ !7
!4. ค่าโสหุ้ยการผลิต !15
!รวม !100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการกรรมวิธีการผลิต
กรรมวิธีการผลิตในอุตสาหกรรมพลาสติกจะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ต้องการ ซึ่งสามารถจำแนกได้ 5 ประเภท คือ
1. ประเภทหล่อพลาสติกเม็ดและผงโดยใช้ความร้อนและแรงอัดในแม่แบบปิด (Molding)ได้แก่ แบบอัด (Compression Molding) แบบอัดส่ง (Transfer) แบบฉีด (Injection) แบบรีด(Extrusion) แบบเป่า (Blow) แบบลูกกลิ้ง (Cylindering) แบบอัดแผ่น (Laminating) และแบบอัดเย็น (Cold)
2. ประเภทหล่อพลาสติกเหลว (Casting) ได้แก่ แบบหล่อเย็น (Simple) และแบบหล่อร้อน (Plastisol)
3. ประเภทอัดขึ้นรูปพลาสติกแผ่น (Thermoforming) ได้แก่ แบบอัดด้วยแม่แบบ (Mechanical) แบบสูญญากาศ (Vacuum) และแบบลมอัด (Blow)
4. ประเภทหล่อพลาสติกเหลวกับวัสดุเสริมกำลัง (Reinforcing) ได้แก่ แบบใช้มือทา (Hand Lay-Up) แบบใช้เครื่องพ่น (Spray-up) แบบใช้แม่แบบอัด (Matched Molding) แบบอัดเหลว (Premix Molding) แบบถุงอัดอากาศ (Pressure-Bag Molding) และแบบถุงสูญญากาศ (Vacuum-Bag Molding)
5. ประเภทหล่อโฟม (Foaming) ได้แก่ แบบหล่อพลาสติกเม็ด (Molding Expandable Polystyrene) และแบบหล่อพลาสติกเหลว (Casting Rigid & Flexible Polyurethane Foam)
ชนิดของพลาสติกวิศวกรรมในอุตสาหกรรมรถยนต์
ชนิดของพลาสติก ตัวอย่างการใช้งาน
ABS หน้ากากช่องแอร์ กรอบกระจก แผงหน้าปัด หน้าหม้อน้ำ ปุ่มล็อค
ประตู
PA ท่อต่าง ๆ เช่น ท่อแอร์ ท่อเบรก แบริ่ง
PBT ท่อต่าง ๆ เช่น ท่อแอร์ ท่อเบรก
PC เลนส์ไฟ
PMMA เลนส์ไฟ
SAN เลนส์ไฟ
PBT ชิ้นส่วนในหน้ากากช่องแอร์
PE มือจับต่าง ๆ กระปุกเกียร์ ฝาปิดถังน้ำมัน ปุ่มล็อคประตู
PP กันชน หน้าปัด หน้ากากช่องแอร์ พรม พลาสติกปิดเสา กรอบดวงไฟ
PU โฟมที่เป็นไส้ในของเบาะ หน้าปัด ด้านในของกันชน ประตูรถ
PVC หนังเทียมหุ้มเบาะ หลังคา แผงหน้าปัด ประตูรถ
Phenolic Resin แผงประตู
PPO แผงหน้าปัด
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติก
เทคโนโลยี ตัวอย่างชิ้นส่วนพลาสติกยานยนต์
Injection แผงหน้าปัด ปุ่มล็อคประตู กรอบดวงไฟ กรอบกระจก
หน้าหม้อน้ำ พลาสติกปิดเสา
Extrusion ท่อพลาสติก ท่อร้อยสายไฟ
Blow Molding หม้อพักน้ำ กระบอกน้ำมันเครื่อง
Sheet Forming ถังน้ำมัน บังโคลนรถ Panel Trim
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
กรรมวิธีการผลิตชิ้นส่วนพลาสติก
การติดต่อกับลูกค้า (โรงงาน) เบื้องต้น การศึกษา Spec. และ Drawing ของ
ชิ้นงานจากลูกค้าโดยละเอียด
การจัดทำชิ้นงานตัวอย่างตาม Spec. การออกแบบ และจัดทำ Mold รวมทั้ง
และ Drawing ของลูกค้า การทดสอบ Mold
การจัดส่งชิ้นงานตัวอย่างให้ลูกค้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติก และลูกค้าตกลงกัน
ทดสอบว่า ได้ชิ้นงานตามที่ต้องการ ในปริมาณสั่งซื้อ และระยะเวลาส่งมอบตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพวัตถุดิบให้ได้ วางแผนการผลิต (วัตถุดิบ เครื่องจักร
ตามแผนการผลิต และ Spec. ที่กำหนด แรงงาน และตารางเวลาการผลิต)ชั่งตวงวัดพลาสติก สี สารเคมี ให้ได้ตาม ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกโดย Injection/
สัดส่วน และ Spec. ที่กำหนด Extrusion/ Blow Molding/Sheet Forming
ตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอนการผลิต ตกแต่งชิ้นงาน
เพื่อลดเปอร์เซนต์การสูญเสีย (trimming เคลือบสี ขัดผิว ฯลฯ)
ทำการบรรจุภัณฑ์ชิ้นงาน เพื่อเตรียม จัดส่งชิ้นส่วนพลาสติกให้แก่ลูกค้า
ส่งมอบ (ส่วนหนึ่งเก็บในสต็อก) ตามที่ลูกค้ากำหนด
โดยทั่วไป ชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์มีกรรมวิธีในการผลิตดังนี้
ขั้นที่ 1 นำข้อมูลด้าน Specification และ Drawing จากลูกค้ามาศึกษารายละเอียดในการ ผลิต
ขั้นที่ 2 ทำการออกแบบ และทำ Mold โดยใช้ข้อมูลจากขั้นที่ 1 และทดสอบ Mold
ขั้นที่ 3 จัดทำชิ้นงานตัวอย่าง และนำเสนอให้ลูกค้าตรวจสอบ เพื่อให้พิจารณาว่า ชิ้นงานที่ ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
ขั้นที่ 4 ทำการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกให้ได้ปริมาณ และคุณภาพตามกำหนดเวลาส่งมอบ
-! วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อของลูกค้า ประกอบด้วย กำหนดชนิดปริมาณ และระยะเวลาการจัดซื้อวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ การกำหนดเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์และบุคลากรที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิต รวมทั้ง การกำหนดตารางเวลาการผลิต (ProductionScheduling)
-! ตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพวัตถุดิบให้ตรงตามแผนการผลิตที่กำหนดไว้
-! ทำการชั่งน้ำหนักเม็ดพลาสติก สี สารเคมี ฯลฯ และผสมให้ได้ตามสัดส่วน
-! ทำการผลิตชิ้นงานพลาสติกโดย Injection หรือ Extrusion หรือ Blow Molding หรือ Sheet Forming ขึ้นอยู่กับชนิดของชิ้นงานที่จะผลิต รวมทั้งประกอบชิ้นงานด้วย (ถ้ามี)
-! ทำการตกแต่งชิ้นงาน ได้แก่ Trimming เคลือบสี ขัดผิว เป็นต้น
-! ตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานในแต่ละขั้นตอนการผลิต เพื่อลดการสูญเสีย
-! ทำการบรรจุภัณฑ์ชิ้นงานเพื่อเตรียมส่งมอบให้ลูกค้า (ส่วนหนึ่งจัดเก็บไว้ในสต็อก)
เครื่องจักรหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิต
เครื่องจักรหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิต ประกอบด้วย (1) Injection Machine หรือ Extrusion Machine หรือ Blow Molding Machine หรือ Sheet Forming Machine ขึ้นอยู่กับชนิดของ ชิ้นงานที่จะผลิต (2) CNC Machine (3) Grinding Machine (4) Lathe Machine (5) Mixing Machine (6) Painting Machine (7) Cutting Machine (กิจการบางแห่งอาจจะจ้างบริษัทอื่น ทำ Mold หรืออาจ จะได้รับ Mold จากลูกค้า ทำให้เครื่องจักรรายการที่ (2) (3) และ (4) ไม่จำเป็นต้องใช้)
การลงทุนและการเงิน
การลงทุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์ควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับลูกค้า ถ้าอยู่ในรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตรจากลูกค้าก็จะเป็นข้อได้เปรียบ (Advantage) ที่ลูกค้าให้ความสนใจ เงินลงทุนและอุปกรณ์เริ่มต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 2 -- 200 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนโครงสร้างการลง ทุนดังนี้
สัดส่วนโดยประมาณของเงินลงทุนเริ่มต้น
รายการเงินลงทุน ร้อยละของเงินลงทุน
1. สินทรัพย์ถาวร 75
1.1 ที่ดิน 30
1.2 อาคาร/ สิ่งปลูกสร้าง 20
1.3 เครื่องจักร 15
1.4 ยานพาหนะ 10
2. เงินทุนหมุนเวียน 25
รวม 100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
บุคลากร
ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์โดยทั่วไป จะใช้บุคลากรอยู่ในช่วงระหว่าง 6 -- 660 คน ในขณะที่ขนาดเงินทุนอยู่ในช่วงระหว่าง 2 -- 655 ล้านบาท ดังนั้น สัดส่วนบุคลากรต่อเงินทุน 1 ล้านบาท จะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.5 -- 11.4 หรือโดยเฉลี่ย 3.4 คน ต่อเงินทุน 1 ล้านบาท โดยมี สัดส่วนบุคลากรในโรงงานชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์โดยประมาณดังนี้
สัดส่วนโดยประมาณของบุคลากรในโรงงานชิ้นส่วนพลาสติกในรถยนต์
ประเภทพนักงาน ร้อยละของพนักงานทั้งหมด
1. พนักงานในสายการผลิตโดยตรง 89.1
1.1 ช่าง 76.9
1.2 วิศวกร 1.9
1.3 หัวหน้างาน 10.3
2. พนักงานในสำนักงาน 5.8
3. ผู้บริหารระดับสูง 5.1
รวม 100.0
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการกำไรเฉลี่ย = 20 % ของยอดขาย (โดยประมาณ)
ภาคผนวก
แหล่งขายเครื่องจักร
รายชื่อผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย
บริษัท ที่อยู่1. บริษัท ยูนสยามโอเวอร์ซีส์เทรดดิ้ง จำกัด 158/ 7 ถ.นนทรี ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
โทรศัพท์ 284-2314, 284-2318, 294-51202. Panvatana Co., Ltd. 266/3 ถ.จรัลสนิทวงศ์ บางขุนนนท์ บางกอกน้อย กรุงเทพฯ
10700 โทรศัพท์ 435-0051-43. Behn Meyer Engineering Co., Ltd. UM Tower ชั้น 10 เลขที่ 9 ถ.รามคำแหง สวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250 โทรศัพท์ 319-72274. Pacific Tools Co. Ltd. 907 หมู่ 15 ถ.เทพารักษ์ บางเสาธง สมุทรปราการ 10540
โทรศัพท์ 313-11995. R.O.M. Intertrade Ltd., Part. 2693 ถ.พัฒนาการ สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 โทรศัพท์
722-1090-1, 322-2495-66. Taiwan Mold Tool Co., Ltd. No. 43-2 Pei-Tao Li, Tanshui Town, Taipei Hsien, Taiwan R.O.C. Tel: 886-2-26206202/ 262146217. TCK Interplas Co., Ltd. 9/9 หมู่ 4 ซอยวัดน้อยนอก ถ.นนทบุรี 1 ต.บางกะสอ อ.เมือง นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 525-1151-78. บริษัท เซ่งเจี่ย (ประเทศไทย) จำกัด 121/105 หมู่ 6 ถ.เอกชัย-บางบอน บางขุนเทียน กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 416-3626-7, 416-4891-2ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด--จบ--
-ชต-