กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2544 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับการติดต่อจากบริษัท Balkan N Blacksea Shipping Co. Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์แจ้งว่า ในระหว่างทางที่เรือสินค้าของบริษัทฯ กำลังเดินทางไปเพื่อขนสินค้าที่ท่าเรือสิงคโปร์ได้พบชายไม่ทราบชื่อลอยคออยู่ในบริเวณทะเลจีนใต้ตั้งแต่เช้าของ วันที่ 12 เมษายน 2544 ในบริเวณใกล้กับเกาะนาตูนา (ใกล้ประเทศฟิลิปปินส์) กัปตันเรือจึงได้ให้ความช่วยเหลือและพบว่าชายดังกล่าวลอยคออยู่โดยไม่มีเสื้อผ้าใดๆ สวมใส่และมีบาดแผลได้รับ บาดเจ็บถูกยิงถึง 2 แห่ง คือที่บริเวณใบหน้า และแขน ในขณะนั้นชายดังกล่าวยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้และมีไข้สูง ต่อมาในวันที่ 13 เมษายน 2544 ชายดังกล่าวพอจะให้การได้บ้าง จึงทราบว่าเป็นคนไทย ชื่อสมปอง ทางบริษัทจึงขอความร่วมมือมายังสถานเอกอัครราชทูตฯ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไป ช่วยประสานงานเพื่อช่วยเหลือคนเจ็บในโอกาสแรกที่เรือถึงท่าเรือสิงคโปร์ในเช้าวันที่ 14 เมษายน 2544
ทันที่ที่เรือสินค้าถึงท่าเรือสิงคโปร์ เอกอัครราชทูตได้ขอให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัคร ราชทูตฯ ประสานงานกับตำรวจชายฝั่งสิงคโปร์ เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าชายดังกล่าวเป็นคนไทยจริงหรือไม่ และทันทีที่ทราบแน่ชัดว่าเป็นคนไทย เอกอัครราชทูตก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัคร ราชทูตฯ ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อออกใบอนุญาตให้ชายดังกล่าวเข้าประเทศสิงคโปร์เพื่อมาทำการรักษา รวมทั้งประสานงานกับทางโรงพยาบาล
ในวันเดียวกันนั้น เอกอัครราชทูตได้มอบหมายให้นายนภดล เทพพิทักษ์ อัครราชทูตที่ปรึกษาไปเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาลเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมได้ความว่า
ชายดังกล่าวชื่อนายสมปอง นาจำปา อายุ 27 ปี เป็นคนจังหวัดสุรินทร์ มีอาชีพเป็นลูกเรือประมงลากอวนให้กับเรือ ส.ชนาชล 14 มีไต้กงเรือชื่อนายมวน หรือมน ไม่ทราบนามสกุล และนายมนได้มอบหมายให้ตนทำหน้าที่เป็นต้นเรือ เรือ ส.ชนาชล 14 ได้ออกไปลากอวนบริเวณแถบทะเลจีนใต้ใกล้กับประเทศฟิลิปปินส์ และวันเกิดเหตุ (1 นาฬิกาของวันที่ 12 เมษายน) นายยาว (ไม่ทราบนามสกุล) กับน้องชายและลูกเรือคนอื่นๆ อีก 10 คนได้ยึดเรือ โดยยิงไต้กงเรือและช่างเครื่องเสียชีวิต เมื่อตนและลูกเรือบางคนเข้าขัดขวางก็ถูกนายยาว และพรรคพวกใช้มีดฟันตกน้ำ ส่วนตนนั้น นายยาวได้ใช้ปืน (เข้าใจว่าเป็นปืนของไต้กงที่แย่งมา) จ่อยิงที่บริเวณใบหน้าแต่ตนพยายามหลบ กระสุนจึงถูกที่ปลายคางทะลุแก้ม และอีกหนึ่งนัดถูกที่แขนจนตนตกทะเลและได้พยายามลอยคอ เอาชีวิตรอดด้วยการถอดเสื้อผ้าต่างๆ ออกหมดเพื่อให้เบาและสามารถลอยตัวอยู่ได้ จนกระทั่งเรือ สินค้าบูลกาเรียมาพบและได้ช่วยชีวิตตนไว้ รวมเวลาที่ลอยคออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง
สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รีบติดต่อเจ้าของเรือเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเรือ ส.ชนาชล 14 ถูกปล้น โดยติดต่อไปยังองค์การสะพานปลาที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดต่อเจ้าของเรือ ซึ่งในที่สุดก็สามารถติดต่อเจ้าของเรือได้ ซึ่งเจ้าของเรือได้ขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ดูแลรักษานายสมปองฯ ให้ดี โดยเจ้าของเรือจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาลให้ด้วย ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตฯ ก็ได้ขอให้เจ้าของเรือรีบประสานงานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของไทย เพื่อให้จับตามองเรือดังกล่าว
เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้ผู้ช่วยทูตทหารเรือ ณ สิงคโปร์ ประสานงานกับกองทัพเรือ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่าให้ทราบเรื่องนี้ รวมทั้งขอความร่วมมือในการตรวจตรา และดำเนินการที่จำเป็นกับเรือ ส.ชนาชล 14 ทันที่ที่พบเห็นด้วย
สำหรับนายสมปองฯ นั้น ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว แม้จะยังพูดไม่ได้มาก เนื่องจากถูกยิงที่ใบหน้ากระสุนทะลุคาง และโหนกแก้ม ฟันหน้าทั้งหมดหัก อย่างไรก็ดี ทันทีที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะดำเนินการออกเอกสาร ซีไอ และประสานกับ ทางการสิงคโปร์ เพื่อส่งตัวกลับประเทศไทย จังหวัดสงขลา ในโอกาสแรก
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2544 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า แพทย์สิงคโปร์ลงความเห็นให้นายสมปองฯ เดินทางกลับไทยได้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการ ส่งตัวนายสมปองฯ กลับถึงหาดใหญ่ในบ่ายวันที่ 17 เมษายน 2544 นอกจากนี้ เจ้าของเรือ ส.ชนาชล 14 ได้แจ้งว่าสามารถติดตามเรือคืนได้แล้วที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและเจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้ จำนวน 5 คน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2544 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับการติดต่อจากบริษัท Balkan N Blacksea Shipping Co. Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์แจ้งว่า ในระหว่างทางที่เรือสินค้าของบริษัทฯ กำลังเดินทางไปเพื่อขนสินค้าที่ท่าเรือสิงคโปร์ได้พบชายไม่ทราบชื่อลอยคออยู่ในบริเวณทะเลจีนใต้ตั้งแต่เช้าของ วันที่ 12 เมษายน 2544 ในบริเวณใกล้กับเกาะนาตูนา (ใกล้ประเทศฟิลิปปินส์) กัปตันเรือจึงได้ให้ความช่วยเหลือและพบว่าชายดังกล่าวลอยคออยู่โดยไม่มีเสื้อผ้าใดๆ สวมใส่และมีบาดแผลได้รับ บาดเจ็บถูกยิงถึง 2 แห่ง คือที่บริเวณใบหน้า และแขน ในขณะนั้นชายดังกล่าวยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้และมีไข้สูง ต่อมาในวันที่ 13 เมษายน 2544 ชายดังกล่าวพอจะให้การได้บ้าง จึงทราบว่าเป็นคนไทย ชื่อสมปอง ทางบริษัทจึงขอความร่วมมือมายังสถานเอกอัครราชทูตฯ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไป ช่วยประสานงานเพื่อช่วยเหลือคนเจ็บในโอกาสแรกที่เรือถึงท่าเรือสิงคโปร์ในเช้าวันที่ 14 เมษายน 2544
ทันที่ที่เรือสินค้าถึงท่าเรือสิงคโปร์ เอกอัครราชทูตได้ขอให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัคร ราชทูตฯ ประสานงานกับตำรวจชายฝั่งสิงคโปร์ เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าชายดังกล่าวเป็นคนไทยจริงหรือไม่ และทันทีที่ทราบแน่ชัดว่าเป็นคนไทย เอกอัครราชทูตก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัคร ราชทูตฯ ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อออกใบอนุญาตให้ชายดังกล่าวเข้าประเทศสิงคโปร์เพื่อมาทำการรักษา รวมทั้งประสานงานกับทางโรงพยาบาล
ในวันเดียวกันนั้น เอกอัครราชทูตได้มอบหมายให้นายนภดล เทพพิทักษ์ อัครราชทูตที่ปรึกษาไปเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาลเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมได้ความว่า
ชายดังกล่าวชื่อนายสมปอง นาจำปา อายุ 27 ปี เป็นคนจังหวัดสุรินทร์ มีอาชีพเป็นลูกเรือประมงลากอวนให้กับเรือ ส.ชนาชล 14 มีไต้กงเรือชื่อนายมวน หรือมน ไม่ทราบนามสกุล และนายมนได้มอบหมายให้ตนทำหน้าที่เป็นต้นเรือ เรือ ส.ชนาชล 14 ได้ออกไปลากอวนบริเวณแถบทะเลจีนใต้ใกล้กับประเทศฟิลิปปินส์ และวันเกิดเหตุ (1 นาฬิกาของวันที่ 12 เมษายน) นายยาว (ไม่ทราบนามสกุล) กับน้องชายและลูกเรือคนอื่นๆ อีก 10 คนได้ยึดเรือ โดยยิงไต้กงเรือและช่างเครื่องเสียชีวิต เมื่อตนและลูกเรือบางคนเข้าขัดขวางก็ถูกนายยาว และพรรคพวกใช้มีดฟันตกน้ำ ส่วนตนนั้น นายยาวได้ใช้ปืน (เข้าใจว่าเป็นปืนของไต้กงที่แย่งมา) จ่อยิงที่บริเวณใบหน้าแต่ตนพยายามหลบ กระสุนจึงถูกที่ปลายคางทะลุแก้ม และอีกหนึ่งนัดถูกที่แขนจนตนตกทะเลและได้พยายามลอยคอ เอาชีวิตรอดด้วยการถอดเสื้อผ้าต่างๆ ออกหมดเพื่อให้เบาและสามารถลอยตัวอยู่ได้ จนกระทั่งเรือ สินค้าบูลกาเรียมาพบและได้ช่วยชีวิตตนไว้ รวมเวลาที่ลอยคออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง
สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รีบติดต่อเจ้าของเรือเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเรือ ส.ชนาชล 14 ถูกปล้น โดยติดต่อไปยังองค์การสะพานปลาที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดต่อเจ้าของเรือ ซึ่งในที่สุดก็สามารถติดต่อเจ้าของเรือได้ ซึ่งเจ้าของเรือได้ขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ดูแลรักษานายสมปองฯ ให้ดี โดยเจ้าของเรือจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาลให้ด้วย ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตฯ ก็ได้ขอให้เจ้าของเรือรีบประสานงานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของไทย เพื่อให้จับตามองเรือดังกล่าว
เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้ผู้ช่วยทูตทหารเรือ ณ สิงคโปร์ ประสานงานกับกองทัพเรือ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่าให้ทราบเรื่องนี้ รวมทั้งขอความร่วมมือในการตรวจตรา และดำเนินการที่จำเป็นกับเรือ ส.ชนาชล 14 ทันที่ที่พบเห็นด้วย
สำหรับนายสมปองฯ นั้น ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว แม้จะยังพูดไม่ได้มาก เนื่องจากถูกยิงที่ใบหน้ากระสุนทะลุคาง และโหนกแก้ม ฟันหน้าทั้งหมดหัก อย่างไรก็ดี ทันทีที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะดำเนินการออกเอกสาร ซีไอ และประสานกับ ทางการสิงคโปร์ เพื่อส่งตัวกลับประเทศไทย จังหวัดสงขลา ในโอกาสแรก
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2544 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า แพทย์สิงคโปร์ลงความเห็นให้นายสมปองฯ เดินทางกลับไทยได้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการ ส่งตัวนายสมปองฯ กลับถึงหาดใหญ่ในบ่ายวันที่ 17 เมษายน 2544 นอกจากนี้ เจ้าของเรือ ส.ชนาชล 14 ได้แจ้งว่าสามารถติดตามเรือคืนได้แล้วที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและเจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้ จำนวน 5 คน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-