ข่าวในประเทศ
1. ตลาดหลักทรัพย์รายงานตัวเลขเอ็นพีแอลของ ธพ.ประจำเดือน พ.ย.43 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ธพ.ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 10 แห่งจากทั้งหมด 13 แห่ง ได้รายงานตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ประจำเดือน พ.ย.43 ปรากฎว่า มีมูลค่ารวม 8.59 แสน ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 28.31 ของยอดสินเชื่อรวม ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับเอ็นพีแอลในเดือน ต.ค.43 ซึ่งมีมูลค่ารวม 8.53 แสน ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 28.07 ขณะที่เอ็นพีแอลของ ธพ.ทั้งระบบในเดือน ต.ค.43 มีมูลค่ารวม 1.01 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.17 ทั้งนี้ ธพ. 3 แห่งที่มีเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย.43 คือ ธ.กรุงเทพ เพิ่มขึ้นจาก 1.62 แสน ล.บาทหรือร้อยละ 21.62 เป็น 1.63 แสน ล.บาทหรือร้อยละ 21.81 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 874.15 ล.บาท ธ.กรุงไทย เพิ่มขึ้นจาก 91,698.62 ล.บาทหรือร้อยละ 10.93 เป็น 95,604.80 ล.บาทหรือร้อยละ 11.44 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 3,906.18 ล.บาท และ ธ.นครหลวงไทย เพิ่มขึ้นจาก 1.28 แสน ล.บาทหรือร้อยละ 56.26 เป็น 1.33 แสน ล.บาทหรือร้อยละ 58.57 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 4,338.08 ล.บาท(ไทยโพสต์ 22)
2. ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 5 ในปี 43 และยังสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน เมื่อ 21 ธ.ค.43 ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวถึงภาวะค่าเงินบาทที่อ่อนตัว ความต้องการสินค้าภายในประเทศลดลง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ว่าได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย แต่คณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟเชื่อมั่นว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ จะอยู่ที่ร้อยละ 5 โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในการควบคุม และคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 4-5 ในปี 44 ซึ่งการแสดงความเห็นของไอเอ็มเอฟต่อเศรษฐกิจไทยดังกล่าว เกิดขึ้นในระหว่างการพิจารณาทบทวนภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย หลังจากรัฐบาลเสร็จสิ้นโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจตามแนวทางของไอเอ็มเอฟเมื่อเดือน มิ.ย.43 นอกจากนั้นการนำนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของไอเอ็มเอฟไปใช้ปฏิบัติอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ก็ช่วยลดความเปราะบางของเศรษฐกิจลงได้อย่างมาก แต่ความรู้สึกต่อตลาดยังคงอ่อนแอ เนื่องจากความต้องการของตลาดโลกที่ลดลง ราคาน้ำมันแพงขึ้น และการปรับโครงสร้างหนี้ในบริษัทเอกชนล่าช้า เมื่อประกอบกับความต้องการสินค้าในประเทศที่อ่อนแอ ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะเสี่ยง (เดลินิวส์,กรุงเทพธุรกิจ,แนวหน้า 22)
3. ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงอัตราโครงสร้างค่าธรรมเนียม นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติให้ปรับปรุงอัตราโครงสร้างค่าธรรมเนียมการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและค่าธรรมเนียมการเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ โดยค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นค่าธรรมเนียมรายปีจะลดลงร้อยละ 50 มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ก.ค.44 ส่วนค่าธรรมเนียมการเป็นนายทะเบียนลดลงร้อยละ 16 และยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการรับหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.44 ทั้งนี้ โครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่จะทำให้รายได้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลง 30 ล.บาท(วัฏจักร 22)
ข่าวต่างประเทศ
1. สรอ.ปรับลดอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ในประเทศในไตรมาสที่ 3 ปี 43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.43 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 การขยายตัวของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของ สรอ. ถูกปรับลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ต่อปี จากประมาณการเดิมเมื่อเดือนที่ผ่านมาที่ร้อยละ 2.4 ต่อปี ขยายตัวลดลงต่ำกว่าครึ่งของ GDP ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.6 และเป็นการขยายตัวในระดับที่ต่ำกว่าไตรมาสอื่น ๆ นับแต่ที่เคยขยายตัวเพียงร้อยละ 2.0 ในไตรมาสที่ 3 ปี 39 ทั้งนี้ การปรับลด GDP ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการส่งออกชะลอตัวลงมากกว่าความคาดหมาย (รอยเตอร์ 21)
2. ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือน ธ.ค. 43 ส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัว รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า เดือน ธ.ค.43 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนีตามตัวเลขเบื้องต้น เทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 อ่อนตัวลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน พ.ย.43 หรือเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 อ่อนตัวลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 ในเดือน พ.ย.43 ทั้งนี้ การที่ CPI ในเดือน ธ.ค.อ่อนตัวลงเป็นผลมาจากข้อมูล CPI จาก 6 รัฐหลักของเยอรมนีซึ่งนำมาใช้ในการคำนวณตัวเลขเบื้องต้นของ CPI รวมของประเทศแสดงตัวเลขราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันในอัตราเทียบต่อเดือนลดลงมาก ซึ่งส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อของเขตยูโรโดยรวมในเดือน ธ.ค.43 จะลดลง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของเยอรมนีของทั้งปี 43 ตามตัวเลขเบื้องต้นจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 จากปี 42 ซึ่งสูงที่สุดนับแต่ปี 40 แต่ถ้าหากไม่รวมราคน้ำมันที่ให้ความร้อนและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของทั้งปี 43 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.0 (รอยเตอร์ 21)
3. ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนีเทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจาก Wiesbaden เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า เดือน พ.ย.43 ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเยอรมนี ซึ่งใช้วัดเงินเฟ้อในระดับการผลิต เทียบต่อเดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อ่อนตัวลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือน ต.ค.43 แต่ในอัตราเทียบต่อปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ในเดือน ต.ค.43 ซึ่งในอัตราเทียบต่อปี นับเป็นการเพิ่มที่สูงที่สุดในรอบ 18 ปี แต่ทั้งสองอัตราต่างเพิ่มขึ้นต่ำกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ ทั้งนี้ การที่ PPI ในอัตราเทียบต่อปีเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในปี 43 ซึ่งในเดือน พ.ย.43 ราคาน้ำมันเพิ่มสูงกว่าเดือน พ.ย.42 ถึงร้อยละ 29.3 ซึ่งหากไม่รวมราคาน้ำมัน PPI เทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ขณะที่เทียบต่อปีเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.6 (รอยเตอร์ 21)
4. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 รายงานจากลอนดอนเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของอังกฤษตามการปรับตัวเลขครั้งสุดท้าย เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 หรือเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43.(รอยเตอร์ 21)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 21 ธ.ค.43 42.422 (42.807)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 21 ธ.ค. 43
ซื้อ 42.2586 (42.7023) ขาย 42.5668 (43.0072)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,450 (5,450) ขาย 5,550 (5,550)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 20.50 (19.60)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.89 (15.89) ดีเซลหมุนเร็ว 13.44 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ตลาดหลักทรัพย์รายงานตัวเลขเอ็นพีแอลของ ธพ.ประจำเดือน พ.ย.43 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ธพ.ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 10 แห่งจากทั้งหมด 13 แห่ง ได้รายงานตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ประจำเดือน พ.ย.43 ปรากฎว่า มีมูลค่ารวม 8.59 แสน ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 28.31 ของยอดสินเชื่อรวม ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับเอ็นพีแอลในเดือน ต.ค.43 ซึ่งมีมูลค่ารวม 8.53 แสน ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 28.07 ขณะที่เอ็นพีแอลของ ธพ.ทั้งระบบในเดือน ต.ค.43 มีมูลค่ารวม 1.01 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.17 ทั้งนี้ ธพ. 3 แห่งที่มีเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย.43 คือ ธ.กรุงเทพ เพิ่มขึ้นจาก 1.62 แสน ล.บาทหรือร้อยละ 21.62 เป็น 1.63 แสน ล.บาทหรือร้อยละ 21.81 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 874.15 ล.บาท ธ.กรุงไทย เพิ่มขึ้นจาก 91,698.62 ล.บาทหรือร้อยละ 10.93 เป็น 95,604.80 ล.บาทหรือร้อยละ 11.44 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 3,906.18 ล.บาท และ ธ.นครหลวงไทย เพิ่มขึ้นจาก 1.28 แสน ล.บาทหรือร้อยละ 56.26 เป็น 1.33 แสน ล.บาทหรือร้อยละ 58.57 เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 4,338.08 ล.บาท(ไทยโพสต์ 22)
2. ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 5 ในปี 43 และยังสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน เมื่อ 21 ธ.ค.43 ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวถึงภาวะค่าเงินบาทที่อ่อนตัว ความต้องการสินค้าภายในประเทศลดลง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ว่าได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย แต่คณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟเชื่อมั่นว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ จะอยู่ที่ร้อยละ 5 โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในการควบคุม และคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 4-5 ในปี 44 ซึ่งการแสดงความเห็นของไอเอ็มเอฟต่อเศรษฐกิจไทยดังกล่าว เกิดขึ้นในระหว่างการพิจารณาทบทวนภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย หลังจากรัฐบาลเสร็จสิ้นโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจตามแนวทางของไอเอ็มเอฟเมื่อเดือน มิ.ย.43 นอกจากนั้นการนำนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของไอเอ็มเอฟไปใช้ปฏิบัติอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ก็ช่วยลดความเปราะบางของเศรษฐกิจลงได้อย่างมาก แต่ความรู้สึกต่อตลาดยังคงอ่อนแอ เนื่องจากความต้องการของตลาดโลกที่ลดลง ราคาน้ำมันแพงขึ้น และการปรับโครงสร้างหนี้ในบริษัทเอกชนล่าช้า เมื่อประกอบกับความต้องการสินค้าในประเทศที่อ่อนแอ ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะเสี่ยง (เดลินิวส์,กรุงเทพธุรกิจ,แนวหน้า 22)
3. ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงอัตราโครงสร้างค่าธรรมเนียม นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติให้ปรับปรุงอัตราโครงสร้างค่าธรรมเนียมการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและค่าธรรมเนียมการเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ โดยค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นค่าธรรมเนียมรายปีจะลดลงร้อยละ 50 มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ก.ค.44 ส่วนค่าธรรมเนียมการเป็นนายทะเบียนลดลงร้อยละ 16 และยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการรับหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.44 ทั้งนี้ โครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่จะทำให้รายได้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลง 30 ล.บาท(วัฏจักร 22)
ข่าวต่างประเทศ
1. สรอ.ปรับลดอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ในประเทศในไตรมาสที่ 3 ปี 43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.43 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 การขยายตัวของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของ สรอ. ถูกปรับลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ต่อปี จากประมาณการเดิมเมื่อเดือนที่ผ่านมาที่ร้อยละ 2.4 ต่อปี ขยายตัวลดลงต่ำกว่าครึ่งของ GDP ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.6 และเป็นการขยายตัวในระดับที่ต่ำกว่าไตรมาสอื่น ๆ นับแต่ที่เคยขยายตัวเพียงร้อยละ 2.0 ในไตรมาสที่ 3 ปี 39 ทั้งนี้ การปรับลด GDP ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการส่งออกชะลอตัวลงมากกว่าความคาดหมาย (รอยเตอร์ 21)
2. ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือน ธ.ค. 43 ส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัว รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า เดือน ธ.ค.43 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนีตามตัวเลขเบื้องต้น เทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 อ่อนตัวลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน พ.ย.43 หรือเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 อ่อนตัวลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 ในเดือน พ.ย.43 ทั้งนี้ การที่ CPI ในเดือน ธ.ค.อ่อนตัวลงเป็นผลมาจากข้อมูล CPI จาก 6 รัฐหลักของเยอรมนีซึ่งนำมาใช้ในการคำนวณตัวเลขเบื้องต้นของ CPI รวมของประเทศแสดงตัวเลขราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันในอัตราเทียบต่อเดือนลดลงมาก ซึ่งส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อของเขตยูโรโดยรวมในเดือน ธ.ค.43 จะลดลง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของเยอรมนีของทั้งปี 43 ตามตัวเลขเบื้องต้นจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 จากปี 42 ซึ่งสูงที่สุดนับแต่ปี 40 แต่ถ้าหากไม่รวมราคน้ำมันที่ให้ความร้อนและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของทั้งปี 43 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.0 (รอยเตอร์ 21)
3. ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนีเทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจาก Wiesbaden เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า เดือน พ.ย.43 ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเยอรมนี ซึ่งใช้วัดเงินเฟ้อในระดับการผลิต เทียบต่อเดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อ่อนตัวลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือน ต.ค.43 แต่ในอัตราเทียบต่อปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ในเดือน ต.ค.43 ซึ่งในอัตราเทียบต่อปี นับเป็นการเพิ่มที่สูงที่สุดในรอบ 18 ปี แต่ทั้งสองอัตราต่างเพิ่มขึ้นต่ำกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ ทั้งนี้ การที่ PPI ในอัตราเทียบต่อปีเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในปี 43 ซึ่งในเดือน พ.ย.43 ราคาน้ำมันเพิ่มสูงกว่าเดือน พ.ย.42 ถึงร้อยละ 29.3 ซึ่งหากไม่รวมราคาน้ำมัน PPI เทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ขณะที่เทียบต่อปีเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.6 (รอยเตอร์ 21)
4. ผลิตภัณฑ์ในประเทศของอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 รายงานจากลอนดอนเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของอังกฤษตามการปรับตัวเลขครั้งสุดท้าย เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 หรือเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43.(รอยเตอร์ 21)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 21 ธ.ค.43 42.422 (42.807)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 21 ธ.ค. 43
ซื้อ 42.2586 (42.7023) ขาย 42.5668 (43.0072)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,450 (5,450) ขาย 5,550 (5,550)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 20.50 (19.60)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.89 (15.89) ดีเซลหมุนเร็ว 13.44 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-